Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 14/04/2563 ]
อนามัยโลก ให้ยอมรับ! อยู่ร่วมกับไวรัสมรณะ

อยู่ร่วมกับไวรัสมรณะ
          ทั่วโลกยังป่วยไข้จากพิษโรค “โควิด-19” โดยสหรัฐอเมริกากลายเป็น ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ทั้งมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุด ในโลก อาจพิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่เคยเข้มงวด เพื่อพยุงเศรษฐกิจในประเทศ ส่งผลหลายชาติอาจ เอาอย่าง หลังยอดผู้ป่วยใหม่ลดลง ขณะที่เกาหลีใต้มึนพบผู้ที่รักษาจนหายป่วยกลับตรวจพบเชื้อรอบใหม่ ส่วนที่จีนยอดผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มอีก หลังพลเมืองทยอย กลับจากต่างแดน ด้านองค์การอนามัยโลกย้ำผู้คนทั่วโลก จำเป็นต้องยอมรับให้ได้เรื่องการอยู่ร่วมกับไวรัสมรณะ ตราบใดที่ยังไม่มียารักษาหรือวัคซีน เชื่อการสวมหน้ากาก อนามัยจะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในต่างแดน เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงพุ่งไม่หยุดอยู่ที่ 1.85 ล้านคน เสียชีวิต 114,699 คน รักษาหาย 429,028 คน โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบ อันดับหนึ่งคือ สหรัฐอเมริกา เพราะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 22,000 คน ติดเชื้อกว่า 560,000 คน รักษาหาย 32,634 คน กระนั้น นายแอนโธนี เฟาซี ที่ปรึกษาฝ่ายรับมือสถานการณ์โควิด-19 ประจำทำเนียบขาวสหรัฐฯ ระบุว่ารัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณาเริ่มเปิดเศรษฐกิจในบางพื้นที่ ภายในช่วงต้นเดือน พ.ค. แต่ต้องดูสถานการณ์ช่วงสิ้นเดือน เม.ย.ว่าสมควรหรือไม่ ถ้าเปิดไม่ได้ก็ต้องปิดต่อไป
          ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า หลายประเทศเริ่ม วิตกกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะตามมา ทำให้อาจพิจารณาการเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจบางส่วนเช่นกัน รัฐบาลสเปนประกาศเตรียมผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง อนุญาตให้ธุรกิจด้านการผลิต ก่อสร้าง และภาคบริการบางประเภทกลับไปทำงานตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยอ้างข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขสเปน ที่พบผู้เสียชีวิตรายวันลดลงอยู่ที่ 517 คน จากวันก่อน 619 คน รวมทั้งประเทศเสียชีวิตเกือบ 17,500 คน ขณะที่รัฐบาลอิตาลีประกาศจะอนุญาตให้บางบริษัทเปิดทำการตามปกติในวันที่ 14 เม.ย. หลังยอดผู้เสียชีวิตรายวันลดลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ อยู่ที่ 431 คน ยอดเสียชีวิตรวมเกือบ 20,000 คน
          นอกจากนี้ รัฐบาลเยอรมนีอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะผ่อนคลายมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัส หลังยอดผู้ติดเชื้อรวม 127,854 คน รักษาหายแล้ว 64,300 คน มากกว่าที่ยังป่วยอยู่ 60,532 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,022 คน แต่ที่ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกแถลงเตือนประชาชนว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการปิดเมืองต่อไป แม้ยอดผู้เสียชีวิตรายวันจะลดลงอยู่ที่ 315 คน จากวันก่อน 345 คน ทำให้ยอดเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 14,393 คน ส่วนในอังกฤษ จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทะลุ 10,612 คน ยอดผู้ติดเชื้อ 84,279 คน ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในบ้านพักชานกรุงลอนดอน ยังไม่มีกำหนดกลับไปทำงาน ซึ่งเจ้าตัวกล่าวขอบคุณพยาบาลจากนิวซีแลนด์ ที่อยู่เคียงข้างตลอด 7 วัน ช่วงเวลารักษาตัวในโรงพยาบาลเซนต์โธมัส ที่อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ ขณะที่รัฐบาลรัสเซียรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติ 2,558 คน ยอดรวมเพิ่มเป็น 18,328 คน ทางการยังประกาศใช้ระบบขอใบอนุญาตเดินทางออนไลน์ เพื่อควบคุมการสัญจรของประชาชน
          ต่อมา นายเดวิด นาบาร์โร โฆษกฝ่ายรับมือโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ให้สัมภาษณ์ ในรายการวิทยุช่อง 4 ของอังกฤษว่า ผู้คนทั่วโลกจำเป็นต้องยอมรับให้ได้เรื่องการอยู่ร่วมกับไวรัสไปก่อน เพราะไวรัสไม่มีท่าทีจะหายไป ยังไม่รู้ว่าคนที่ติดเชื้อจะมีภูมิคุ้มกันหรือไม่ และเมื่อใดที่เราจะมีวัคซีน พร้อมเชื่อว่าการสวมหน้ากากอนามัยจะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน และมองว่าการสวมหน้ากากไม่ใช่เรื่องการสร้างความมั่นใจ แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความพร้อมรับมือไวรัสโควิด-19
          ส่วนในเอเชีย นายชุง เซ-คยุน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ได้ประกาศว่ารัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณาการออกแนวทางการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม เพื่อเปิดทางให้ประชาชนสามารถดำเนินธุรกิจและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมได้ระดับหนึ่ง แต่เตือนว่าความก้าวหน้าในการรับมือไวรัสที่ได้มาอย่างยากลำบาก อาจถูกบั่นทอนหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสถานบริการและบันเทิง อย่างไรก็ดี มีเรื่องน่าตระหนกเมื่อศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) รายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 25 คน แต่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบกรณีพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 116 คน ที่เคยผ่านการตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อหลงเหลืออยู่แล้ว แต่สุดท้ายกลับตรวจพบเชื้อไวรัสมรณะขึ้นมาอีก เบื้องต้นเชื่อว่าไม่ใช่การติดเชื้อซ้ำ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในเกาหลีใต้บางส่วนคาดว่าอาจมาจากชุดตรวจบกพร่องหรือไม่ หรือว่าเชื้อมีพัฒนาจนสามารถหลบอยู่ในร่างกายและหวนกลับมาเล่นงานใหม่ได้ ขณะที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบกรณีดังกล่าวของเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด
          สำหรับสถานการณ์ในประเทศจีน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 108 คน ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ 98 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ ล่าสุดรัฐบาลได้ประกาศมาตรการควบคุมพรมแดน โดยเฉพาะพื้นที่มณฑลเฮยหลงเจียงที่อยู่ติดกับรัสเซีย เนื่องจากพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่าครึ่ง มาจากพื้นที่ดังกล่าว พร้อมระบุว่าจะลดจำนวนผู้เดินทางข้ามพรมแดนลงให้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะที่มณฑลเฮยหลงเจียงและกวางตุ้ง และมีผู้เสียชีวิต 2 คน ในเมืองอู่ฮั่น
          ที่ญี่ปุ่น พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 7,400 ราย เสียชีวิต 137 ราย ทางสนามบินนาริตะใกล้กรุงโตเกียวจัดเตรียมเตียงทำด้วยกระดาษแข็ง พร้อมผ้าห่มจำนวนมากไว้ที่อาคารส่วนรอรับกระเป๋าเดินทาง เพื่อให้ผู้โดยสารจากต่างชาติที่ถูกกักตัวได้พักชั่วคราว ระหว่างรอผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19
          ส่วนในอาเซียน นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ประกาศว่าจะสร้างความโปร่งใสให้มากกว่านี้ ในเรื่องยอดผู้ติดเชื้อไวรัสในประเทศ และยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้สั่งให้ทางการปกปิดข้อมูล เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า หัวหน้าหมู่บ้านเคปูห์บนเกาะชวา ต้องใช้กลยุทธ์ให้คนแต่งกายเป็นผี ในชุดสีขาว ที่เรียกว่า “โปกอง” ออกมาดักซุ่มหลอกผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียรายงานยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 4,557 คน เสียชีวิต 399 คน ซึ่งถือว่าเป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
          ขณะที่มาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 134 ราย ทำให้มียอดป่วยสะสม 4,817 ราย แต่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็น 77 ราย ส่วนสิงคโปร์ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 2,532 ราย เสียชีวิต 8 ราย เตรียมใช้เรือขนาดใหญ่ทำเป็น “โรงแรมลอยน้ำ” เพื่อกักตัวแรงงานต่างด้าวนับหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียใต้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่วนเวียดนาม ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 262 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต แต่นายฮวง ตวน อาห์น นักธุรกิจน้ำใจงามได้นำ “ตู้เอทีเอ็มข้าว” ที่เรียกว่า “24/7” ออกติดตั้งในนครโฮจิมินห์ กรุงฮานอยและเมืองดานัง เพื่อแจกจ่ายข้าวสารแบบอัตโนมัติฟรี ถุงละ 1.5 กก.ให้กับคนที่ตกงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
          สำหรับภูมิภาคอื่นๆ ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่างประสบปัญหาด้านการดูแลผู้ป่วยและปัญหาเศรษฐกิจชนิดย่ำแย่ไม่แตกต่างกัน ที่ซาอุดีอาระเบีย พบผู้ติดเชื้อเกือบ 4,500 ราย เสียชีวิต 59 ราย ทางการต้องใช้โรงแรมต่างๆเป็นที่กักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อหรือเคยสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 รัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ช่วยพยุงธุรกิจโรงแรมที่ย่ำแย่เพราะโควิด-19 ด้วย ขณะที่ อิหร่าน ซึ่งมีการแพร่ระบาดหนักที่สุดในตะวันออกกลาง พบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 1,617 รายเป็น 73,303 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 111 รายเป็น 4,474 ราย ส่วนที่เอกวาดอร์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจเข้าไปเก็บศพตามบ้านเรือนในเมืองกัวยากิล ศูนย์กลางการแพร่ระบาดได้เกือบ 800 ศพ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในเอกวาดอร์สูงกว่า 7,500 ราย เสียชีวิตแล้ว 333 ราย ประธานาธิบดีเลนิน โมเรโน และคณะรัฐมนตรีทั้งหมดประกาศลดเงินเดือนตัวเองคนละ 50 เปอร์เซ็นต์เพื่อนำเงินมาช่วยต่อสู้โควิด-19 ด้วย
          ที่อินเดียพบผู้ติดเชื้อแล้ว 9,240 ราย เสียชีวิต 331 ราย ทางการเมืองริชิเกศ รัฐอุตตรันชัล ได้ลงโทษชาวต่างชาติ 10 คน ฐานฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ห้ามออกนอกบ้าน ด้วยการให้เขียนคำว่า “I am so sorry” (ฉันขอโทษมากๆ) ถึงคนละ 500 ครั้ง ส่วนที่บราซิล นางกินา ดาล คอลเลโต คุณยาย วัย 97 ปี ป่วยหนักจากเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ 1 เม.ย.ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลเมืองเซาเปาโลได้อย่างไม่น่าเชื่อ.

          บรรยายใต้ภาพ
          โลกร่วมฝ่าวิกฤติมหันตภัยไวรัส"โควิด-19"
          เงียบสงัด โบสถ์ เซนต์ หลุยส์ โบสถ์เก่าแก่ที่สุดในเมือง นิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ต้องปิดทำศาสนกิจ จากพิษโควิด-19.
          ไร้ผู้คน ค่ำคืนที่ประตู บรันเดนบวร์ก หรือ ประตูชัยกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เป็นไปด้วยความเงียบปราศจากผู้คน เพราะโควิด-19 ระบาด.
          ว่างเปล่า ห้องโถงภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานนานาชาติ ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีผู้โดยสารมาใช้บริการ หลังจากทางการมีมาตรการเข้มงวดการเดินทางของประชาชน เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19.
          เงียบเหงา จัตุรัส ทักซิมสแควร์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นแลนด์มาร์ก และย่านช็อปปิ้งของนคร อิสตันบูล ประเทศ ตุรกี ที่ปกติจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมจำนวนมาก ต้องตกอยู่ในความเงียบเหงา เพราะรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้าน.
          เมืองร้าง บรรยากาศเงียบเหงาคล้ายเมืองร้าง ใกล้อาคารที่ทำการศาลยุติธรรม ในกรุง บรัสเซลส์ เบลเยียม มีประชาชนสัญจรบางตา.
          ปิดธุรกิจ ย่านช็อปปิ้งในเมือง เบลเกรด เซอร์เบีย ร้านค้าต้องปิดกิจการ เพราะคำสั่งห้ามประชาชนออกนอกบ้าน เพื่อสกัดโควิด-19 ระบาด.
          ระยะห่าง บาทหลวงชาว เกาหลีใต้ สวมหน้ากากอนามัย และนั่งเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันไวรัสขณะร่วมพิธีในโบสถ์กรุง โซล เกาหลีใต้.
          จุดยืนรอ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในกรุง โตเกียว ญี่ปุ่น ติดเครื่องหมายกำหนดจุดที่ยืนรอของลูกค้าภายในร้าน เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ.
          ปิดเมือง โรงละครกลางแจ้งทรงโรมัน ในเมือง อาร์ลส์ ตอนใต้ของประเทศ ฝรั่งเศส แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเที่ยวชม ในวันที่มีแต่ความเงียบเหงาปราศจากนักท่องเที่ยว เพราะทางการมีคำสั่งล็อกดาวน์ปิดประเทศ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีสถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับต้นๆของโลก.
          ถนนโล่ง การจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนในเมือง ทาวน์แลนด์ ตอนเหนือของ ไอร์แลนด์เหนือ มีรถยนต์และประชาชนสัญจรไปมาอย่างบางตา เพราะมาตรการกวดขันการเดินทางของประชาชน.
          ถนนร้าง ถนนใจกลางเมือง ย่างกุ้ง เมียนมา ไม่ต่างจากถนนร้าง เพราะไม่มียวดยานและประชาชนออกมาใช้เส้นทาง เนื่องจากการระบาดของเชื้อโรคร้ายไวรัสโควิด-19.
          ฆ่าเชื้อ "บิ๊กแจ๊ด" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง พร้อมทีมงานคนรักปทุม นำรถออกฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ย่าน ตลาดรังสิต ปทุมธานี.
          ยุคโควิด-19 วัดไผ่หมูขวิดศรัทธาราม จ.อ่างทอง เขียนรูปแม่พระธรณีสวมแมสก์กำจัดมารบนผนังโบสถ์ บันทึกว่าสร้างในยุคโควิด-19.
          รดน้ำห่างกัน ครอบครัวชาว อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ใช้ไม้ไผ่ยาวมัดขันน้ำ เพื่อรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่เนื่องในวันสงกรานต์.
          แจกถึงบ้าน นายโกสิน เทศวงษ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. นำเจ้าหน้าที่เขตธนบุรีแจกแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ที่ชุมชนวัดดาวคะนอง.

 pageview  1210934    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved