เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สัดส่วนภาคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) มอบนโยบายให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดระบบให้ประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทองใช้บริการรักษาสุขภาพได้ทุกที่ ว่า การให้ประชาชนเข้ารับการบริการรักษาพยาบาลได้ทุกที่อาจประสบปัญหาเหมือนกรณีสิทธิข้าราชการที่ทำให้ระบบบริการเกิดความแออัด เพราะประชาชนที่เจ็บป่วยก็จะเลือกรักษาในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เท่านั้น เรื่องนี้ต้องคิดรอบคอบ อยากให้เน้นทำระบบการส่งต่อใกล้บ้านใกล้ใจให้มีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะจะรู้ว่ามีประชากรในความดูแลกี่คน สามารถจัดบริการได้ตรงตามความต้องการตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาโรงพยาบาลแออัดได้อีกด้วย
ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า เมื่อนายอนุทินประกาศเป็นนโยบายออกมา สปสช.ในฐานะผู้ปฏิบัติต้องทำหน้าที่นำนโยบายแปลงเป็นรูปธรรม โดยอยู่ระหว่างยกร่างรายละเอียดเพื่อเสนออนุกรรมการต่างๆ ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มี รมว.สาธารณสุข เป็นประธานพิจารณา สิ่งสำคัญต้องผ่านความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนก่อน ซึ่งวันที่ 21 ส.ค.นี้จะมีการเฟซบุ๊กไลฟ์ผ่านเพจ สปสช.เกี่ยวกับเรื่องนี้ ประชาชนสามารถเสนอความคิดเห็นผ่านช่องทางนี้ได้
เมื่อถามว่าการยกร่างดังกล่าวจะกำหนดชัดหรือไม่ว่าสิทธิบัตรทองเข้ารักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สิ่งสำคัญของนโยบายนี้คือการอำนวยความสะดวกสบายแก่ประชาชน แต่จะเป็นรูปธรรมอย่างไรขอให้รอก่อน จะมีการพิจารณาวางระบบให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ต้องมีการประชาพิจารณ์ก่อน ซึ่งประชาชนสามารถเสนอความคิดเห็นเข้ามาได้. |