นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคเนื้อเน่าหรือแบคทีเรียกินเนื้อ เกิดจากการติดเชื้อซึ่งส่วนมากมักเกิด จากเชื้อแบคทีเรียโดยอาจเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงชนิดเดียว หรือหลายๆ ชนิดพร้อมกันก็ได้ ซึ่งเชื้อจะเข้าสู่ผิวหนังผ่านทางบาดแผล หรือรอยแตกของผิวหนัง และเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะสามารถสร้างเอนไซม์มาย่อยสลายเนื้อเยื่อในร่างกายของผู้ที่ได้รับเชื้อเข้าไป ทำให้มีการกระจายของเชื้อไปได้อย่างรวดเร็วในชั้นใต้ผิวหนัง ภายในระยะเวลาไม่นานนักผู้ป่วยโรคเนื้อเน่า ส่วนใหญ่จะมีประวัติไปดำนา ลุยโคลน และโดนหอย หรือเศษแก้วบาด เศษไม้ตำเท้า และไม่ได้ทำแผล หรือรักษาใดๆ ทำให้เชื้อโรคเข้าไปในบาดแผลและเพิ่มจำนวนจนเกิดอาการรุนแรงได้
          พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อแล้วในระยะเริ่มแรกจะเริ่มมีอาการบวม แดง ปวด กดเจ็บในตำแหน่งที่มีการติดเชื้อ ถ้าไม่ได้รับการรักษา ผิวหนังบริเวณดังกล่าวจะบวมแดง หรือเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำอย่างรวดเร็ว ภายใน 36 ชั่วโมง พบมีตุ่มน้ำพองที่ผิวหนัง มีการตายของชั้นใต้ผิวหนังและผิวหนังบริเวณดังกล่าว เมื่อเป็นมากขึ้นเชื้อจะทำลายเส้นประสาทเกิดอาการชาบริเวณผิวหนังส่วนที่ติดเชื้อตามมาแทนหากไม่ได้รับการรักษาเชื้อจะแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด อาจทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายล้มเหลว ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกตัวลดน้อยลง ช็อกและเสียชีวิตตามมา ดังนั้น การรักษาต้องรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว.