Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 25/09/2563 ]
พม่า45,000คน กักตัวโควิด

 เผยแพทย์สุดรับไหว!ไทยติดอีก2จากสหรัฐฯ
          เผยเบื้องหลังไทยควบคุมโควิด-19 ได้ผล มาจากฝีมือทีมแพทย์อาวุโสทางการแพทย์ทุกโรคมีประสบการณ์กว่า 20 ปี ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบรอบด้าน แถมโชคดีรัฐบาลรับฟังให้ความสำคัญการรับมือป้องกันโรค ทำให้เป็น “การแพทย์นำการเมือง” สำคัญสุดคือคนไทยทุกคนร่วมมือร่วมใจจนรอดพ้นวิกฤติอย่างรวดเร็ว ชี้วัคซีนยังอีกไกล คนไทยดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ดีที่สุด ส่วนสถานการณ์โลกยังคงต้องต่อสู้กับโควิดรายวัน ทั้งติดเชื้อทั้งตายไม่หยุดหย่อน
          โลกยังต้องต่อสู้กับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในทั่วโลกเมื่อวันที่ 24 ก.ย. มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 32.1 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 983,000 คน รักษาหายแล้ว 23.6 ล้านคน สหรัฐอเมริกายังเป็นจุดศูนย์กลางแพร่ระบาดอันดับ 1 ของโลก พบผู้ติดเชื้อในวันเดียวกว่า 41,000 คน ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 7.13 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 207,000 คน ตามด้วยอันดับ 2 อินเดีย พบติดเชื้อในวันเดียว 86,508 คน ยอดติดเชื้อรวมขยับเป็น 5.73 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 91,000 คน รวมถึงนายสุเรช อานกาดี รมช.กิจการรถไฟ และอันดับ 3 บราซิล พบติดเชื้อในวันเดียวกว่า 32,000 คน ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 4.62 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 140,000 คน กระทรวงสาธารณสุขบราซิลเผยด้วยว่าจะเริ่มการใช้วัคซีนซิโนแวกของจีน ภายในเดือน ธ.ค.และหวังว่าประชาชนจะได้รับวัคซีนกันครบภายในเดือน ก.พ.ปีหน้า
          ที่ยุโรป กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส เปิดแผนผังจำแนกพื้นที่อันตรายของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระบุให้เมืองมาร์กเซย แหล่งพักตากอากาศทางภาคใต้ของประเทศ อยู่ในระดับอันตรายสูงสุด ขณะที่กรุงปารีส เมืองลีลล์ ทางภาคเหนือ เมืองตูลูส ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ และอีก 6 เมืองในเขตปริมณฑลเมืองหลวง ถูกประกาศให้อยู่ในระดับอันตรายสูง ซึ่งหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงจะเป็นหน้าที่ของทางการท้องถิ่นในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขต่อไป ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในวันเดียวของฝรั่งเศสอยู่ที่ 13,072 คน ส่งผลให้ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็นกว่า 481,000 คน เสียชีวิตรวมกว่า 31,400 คน
          ที่อังกฤษ หลังรัฐบาลประกาศใช้มาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดระลอกสอง กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษรายงาน พบผู้ติดเชื้อในวันเดียว 6,178 คน เพิ่มจาก 1 วันก่อนหน้า 1,252 คน เสียชีวิต 37 คน ส่งผลให้ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็นกว่า 409,000 คน เสียชีวิตรวมกว่า 41,800 คน โดยที่มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ในสกอตแลนด์ นักศึกษาจำนวนหลายร้อยคน ถูกสั่งให้กักบริเวณตัวเอง 14 วัน หลังตรวจพบมี นักศึกษาติดเชื้อ 124 คน นายแมตต์ แฮนค็อกรมว.สาธารณสุขอังกฤษ เผยความเป็นไปที่รัฐบาล อาจขอความร่วมมือให้นักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ อยู่ค้างในหอพักช่วงเทศกาลคริสต์มาสอย่ากลับบ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
          ส่วนรัฐบาลนิวซีแลนด์ ประกาศยกเลิกมาตรการบังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แต่ยังคงคำสั่งไว้ในพื้นที่เมืองโอ๊คแลนด์ จุดศูนย์กลางแพร่ระบาดระลอกสองของนิวซีแลนด์ และการสวมหน้ากากอนามัยเวลาโดยสารสายการบิน หลังจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ทางการได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมทั่วประเทศยกเว้นเมืองโอ๊คแลนด์
          ขณะที่เมียนมา สถานการณ์โควิด-19 ยังน่าวิตก กระทรวงสาธารณสุขเมียนมา พบผู้ติดเชื้อในวันเดียว 535 คน ส่งผลให้ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 7,827 คน เสียชีวิต 133 คน ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากนครย่างกุ้งว่า นับตั้งแต่เดือน ส.ค. รัฐบาลเมียนมาได้ใช้มาตรการสกัดกั้นไวรัสอย่างเข้มงวดสูงสุด มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อถูกนำไปกักบริเวณดูอาการกว่า 45,000 คน จนใกล้ถึงขีดจำกัดของเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่จะรับมือไหว นอกจากนี้ จากการสอบถามผู้ถูกกักตัวหลายรายยังพบว่าเจ้าหน้าที่เมียนมาได้กักบริเวณผู้ที่รับการตรวจแล้วกับผู้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจให้อยู่ด้วยกัน
          นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศจีน ประกาศอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ถือครองวีซ่าบางประเภทและใบอนุญาตพำนักในจีนเพื่อการทำงาน สามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าใหม่ หากวีซ่าเดิมหมดอายุก็สามารถยื่นเรื่องขอต่ออายุได้ กระนั้นผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนจะต้องถูกกักบริเวณ 14 วันตามมาตรการสกัดกั้นเชื้อ
          ส่วนสถานการณ์ในไทย กระทรวงสาธารณสุข รายงานเมื่อ 24 ก.ย. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย เป็นผู้เดินทางจากสหรัฐอเมริกา เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ รายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 38 ปี รายที่ 2 เป็นหญิงไทย อายุ 54 ปี เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
          วันเดียวกัน ที่ รพ.ศิริราช นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาเทิดพระเกียรติเนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2563 “โควิด-19 : เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร” ว่า สิ่งที่ทำให้ไทยควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดี มาจากการที่เราไม่เคยประมาทเชื้อโรค ที่มาจากประสบการณ์ 20 ปี ของผู้อาวุโสทางการแพทย์ทุกโรค การประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ การทำงานของ 4 แกนหลัก ทั้งด้านระบาดวิทยา แพทย์พยาบาล ห้องแล็บ ทีม อสม. ที่เข้มแข็ง การแพทย์นำการเมือง โชคดีที่การเมืองชุดนี้รับฟังและให้ความสำคัญกับการรับมือ ป้องกันโรค ที่สำคัญคือความร่วมมือร่วมใจของประชาชน
          นพ.ทวีกล่าวอีกว่า แต่ความเสี่ยงจากที่เราไม่มีการระบาดภายในจน 100 วัน กระทั่งมีดีเจ 1 รายที่ติด ซึ่งเป็นการติดเชื้อจากภายในแน่นอน ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเป็นเช่นนี้ได้อีก สิ่งที่เรากลัวคือการไม่ระวัง หากมีการติดเชื้อภายในเกิดขึ้น ต้องพยายามควบคุมให้อยู่ในระดับที่สามารถรับมือได้ทางการแพทย์ ขณะเดียวกันทุกคนรอความหวังจากวัคซีน ยังไม่รู้อีกไกลแค่ไหน แต่สิ่งที่เราทำได้ผลคือ การใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง มาตรการเหล่านี้ต่อให้ไม่มีวัคซีน ก็ยังใช้ได้ผล แม้จะไม่ 100% แต่ก็สามารถป้องกันได้ ชะลอให้คนติดเชื้อน้อยลง และอยู่ในสถานการณ์ที่รับมือได้
          ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงผลการสกัดแรงงานผิดกฎหมายตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ว่าจับกุมนายหน้าและแรงงานผิดกฎหมาย 2 คดี คดีแรก จับคนขับรถพร้อมชาวกัมพูชา 23 คน ได้ที่แยกโคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อนำส่งปลายทาง จ.ชลบุรี จ.นครปฐม จ.ฉะเชิงเทรา และ กทม. อีกคดีจับ 2 หนุ่มชาวไทย ขณะขับรถตู้ขนชาวกัมพูชา 11 คน ได้ที่ด่านตรวจหนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งสองคนสารภาพว่ามีนายทุนจ้างขนแรงงานกัมพูชา ครั้งละ 5,000 บาทต่อเที่ยว นำไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ปทุมธานี นอกจากนี้ยังไปตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร พบ 76 ราย ตรวจสอบทั้งหมดได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย
          อีกด้าน ที่สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยาว ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการระบาดระลอก 2 ของโควิด-19 ระหว่างไปพบปะประชาชนที่เชียงรายว่า ต้องขอบคุณทุกคน ทุกคนคือด่านหน้า อสม. ด่านหน้าท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนตามแนวชาย แดน คือด่านหน้าของประเทศ ต้องพยายามอย่าให้ใครหลุดรอดเข้ามาโดยไม่ผ่านช่องทางที่ถูกต้องโดยเด็ดขาด เพราะจะนำเชื้อเข้ามาในประเทศ แน่นอนต้องลำบากเรื่องเศรษฐกิจ แต่เดี๋ยวจะดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ การท่องเที่ยว วันหยุด พูดเยอะจนเหนื่อย แต่คนทำเหนื่อยกว่านี้ ข้าราชการที่ทำก็เหนื่อย ถ้าว่ากันไปมา ด่า ข้าราชการ ด่านายกฯ ถึงด่าเขาก็ทำและอดทนทนได้ สีทนได้เสมอ

 pageview  1210916    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved