Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 25/09/2563 ]
ขยายอีก1เดือน ขอศบค. ต่อพรก.ฉุกเฉิน

 สายการบินทั่วโลกดิ้น ขอตรวจโรค-ก่อนบิน ใช้แทนการกักตัว14วัน
          คาดสิ้นปี 2020 มีคนอเมริกันเสียชีวิตสังเวยไวรัสมัจจุราช “โควิด-19” ถึง 4 แสนคน เพราะมีป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน อียูเลื่อนซัมมิตผู้นำ ส่วนการมอบรางวัลโนเบลต้องเปลี่ยนวิธีการมอบเป็นมอบทางไกลเสมือนจริงเพื่อหนีโควิด สายการบินจี้ ตรวจเชื้อแทนการกักตัว ญี่ปุ่นผ่อนกฎเข้าประเทศ อินเดียยังระทมการระบาดของโควิด-19 พุ่งอีกรอบ อิหร่านชื่นชมไทยสำเร็จปราบไวรัสอันตราย
          โลกยังคงระทมกับพิษ “โควิด-19” ที่กลืนกินชีวิตผู้คนและล้มป่วยทุกวัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 23 ก.ย.ถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทั่วโลกว่า ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเกือบถึง 31.8 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 9.76 แสนคน สหรัฐฯยังมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดเกือบ 7.1 ล้านคน และกว่า 2.05 แสนคนตามลำดับ ใน 67 วันหลังเฉลี่ยมีผู้เสียชีวิตในแต่ละวันเท่าๆ กับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ “9/11” ซึ่งสูงเกือบ 3,000 คน และเท่าๆกับประชากรเมืองซอลต์ เลค ซิตี้ หรือเมืองฮันต์สวิลล์ในรัฐอลาบามา ส่วนเขตบรู๊คลินในนิวยอร์ก พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนรอบใหม่ที่น่าวิตกกังวลยิ่ง
          ด้านมหาวิทยาลัยวอชิงตันคาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปีนี้ ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯจะพุ่งถึง 4 แสนคน ขณะที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเปิดอีกครั้ง อีกทั้งเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น และคาดว่าจะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนกว่าจะถึงปีหน้า ส่วนประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากอันดับ 2- 5 คืออินเดีย บราซิล รัสเซีย และโคลอมเบีย ซึ่งเพิ่งแซงหน้าเปรู
          นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานสภายุโรปหรืออียู ประกาศเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอียูในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม นาน 2 วัน ใน 24-25 ก.ย.ออกไปเป็น 1-2 ต.ค. เพราะเขาต้องกักตัวเอง 14 วัน เนื่องจากติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนหนึ่ง แม้ผลการตรวจขั้นต้นพบว่านายมิเชลไม่ติดเชื้อ ส่วนที่อังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แถลงเตือนประชาชนว่าอาจไม่สามารถใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติอีกอย่างน้อย 6 เดือน เพราะยังมีการแพร่ระบาดรอบใหม่รุนแรงเหมือนหลายประเทศในยุโรป จนต้องบังคับใช้มาตรการเข้มงวด รวมทั้งให้ผับ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงอื่นๆ ต้องปิดในช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น.
          ผู้จัดพิธีมอบรางวัลโนเบลในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ประกาศเมื่อ 22 ก.ย.ว่า เนื่องจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 พิธีมอบรางวัลโนเบลสาขาต่างๆในเดือน ธ.ค.นี้ จะเปลี่ยนไปใช้วิธีมอบแบบทางไกลเสมือนจริงจากในประเทศของผู้ได้รับรางวัลนั้นๆ แทนการเชิญผู้ได้รับรางวัลไปรับ
          ที่กรุงสตอกโฮล์มด้วยตัวเอง โดยจะมีการถ่ายทอดสด ทางโทรทัศน์และออนไลน์แทน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 76 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ.2487 เป็นต้นมา ส่วน การประกาศรางวัลโนเบลจะมีขึ้นในเดือน ต.ค.นี้ สายการบินต่างๆทั่วโลกร่วมเรียกร้องให้ใช้วิธีตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศทุกคนแบบรู้ผลรวดเร็วก่อนขึ้นเครื่องบิน แทนการใช้วิธีกักตัวนาน 14 วัน เพราะขณะที่โควิด-19 ทำให้ธุรกิจการบินต่างๆล่มสลาย ขณะที่สมาพันธ์กาชาดสากลและสภาเสี้ยววงเดือนแดง (ไอเอฟอาร์ซี) เตือนว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผลักดัน ให้มีการเลือกปฏิบัติต่อชุมชนที่อ่อนแอในเอเชียมากขึ้น รวมทั้งผู้อพยพและชาวต่างชาติ
          หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานในวันเดียวกันนี้ ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศสามารถพักอาศัยอยู่ได้นานขึ้น เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ยกเว้นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและภายใต้ข้อเสนอใหม่ ญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ผู้เดินทางเข้าประเทศบางกลุ่ม เช่นนักศึกษาและนักธุรกิจที่เดินทางจากประเทศใดๆ อยู่ในญี่ปุ่นได้นานกว่า 3 เดือน แต่จำกัดผู้เดินทางเข้าประเทศเพียงวันละ 1,000 คน ขณะที่ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 80,000 คน เสียชีวิต 1,519 คน
          ส่วนอินเดีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อ 22 ก.ย.เพิ่มขึ้นอีก 83,347 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1,085 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศอยู่ที่กว่า 5.65 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 90,000 คน ด้านออสเตรเลีย รัฐวิคตอเรียซึ่งมีการแพร่ระบาดหนักที่สุด เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น เริ่มตั้งแต่ 26 ก.ย. หลังยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 2 สัปดาห์หลังลดลงเฉลี่ยต่ำกว่า 30 คนต่อวัน โดยเมื่อ 22 ก.ย. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรัฐนี้เพียง 15 คน เสียชีวิตอีก 5 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศใกล้ถึง 27,000 คน เสียชีวิต 859 คน
          ขณะที่จีน ต้นตอการแพร่ระบาด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 10 คน เพิ่มขึ้นจาก 6 คนเมื่อ 1 วันก่อน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ล้วนเป็นผู้เดินทางไปจากต่างประเทศ แต่ยังตรวจพบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 18 คน เพิ่มขึ้นจาก 15 คนเมื่อ 1 วันก่อน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 85,307 คน เสียชีวิต 4,634 คน ด้านอินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4,465 คน รวมเป็น 257,388 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 140 คน รวมเป็น 9,977 คน สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมียนมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 216 คน รวมเป็น 6,959 คน เสียชีวิตแล้ว 116 คน
          สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 ก.ย.มีรายงานประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เข้าพักในสถานที่กักกัน โดย 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 39 ปี และ 53 ปี เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น อีก 1 รายเป็นชายไทยอายุ 22 ปี กลับจากฝรั่งเศส ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมของไทยอยู่ที่ 3,514 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม
          ขณะที่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ว่า กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังที่ด่านชายแดน ทั้งด่านที่เป็นทางการและด่านธรรมชาติ โดย อสม. และ อสต.จะร่วมตรวจสอบพื้นที่และตรวจลาดตระเวน หากพบความผิดปกติหรือคนแปลกหน้าในชุมชน จะประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที
          ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวถึงเรื่อง ครม.อนุมัติการจ่ายค่าตอบแทน อสม. เพิ่มอีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.2563 ว่า เงินค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นการอนุมัติเพิ่มจากที่กระทรวงสาธารณสุข ขอเพิ่มไปรอบที่ 2 จำนวน 12 เดือน เพราะคาดการณ์ว่าโควิด-19 จะอยู่กับเราไปอีกสักระยะหนึ่ง ขณะนี้เพื่อนบ้านไทยกำลังระบาดหนัก จะให้ อสม.ชายแดนดูแล ตรวจสอบอย่างเข้มข้น รวมถึงใน 10 จังหวัดที่มีการใช้แรงงานต่างด้าวจำนวนมาก อสม.มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ต้องอาศัย อสม.สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน
          ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วันเดียวกัน นายซัยยิด เรซา โนบัคตี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยนายกฯกล่าวต้อนรับว่า รัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานเต็มที่ ยืนยันสานต่อความสัมพันธ์อันดีในทุกมิติ ด้านเอกอัครราชทูตอิหร่านกล่าวว่า ประธานาธิบดีอิหร่าน ฝากชื่นชมความสำเร็จของไทยในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งนายกฯได้ให้กำลังใจอิหร่านให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน ที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้บริจาคชุดอุปกรณ์ตรวจสอบการติดเชื้อโรคโควิด-19 และบริจาคเงินช่วยเหลือแก่อิหร่าน โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 สนับสนุนการเจรจา การค้าการส่งออก ระหว่างกัน และเห็นพ้องสนับสนุนด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้นายกฯขอบคุณรัฐบาลอิหร่านที่อำนวยความสะดวกส่งคนไทยในอิหร่านกลับไทยช่วงการระบาดโควิด-19
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 23 ก.ย.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดเล็ก สรุปสถานการณ์และการประเมินมาตรการต่างๆ ที่ออกมาในแต่ละช่วง ขณะนี้มีการผ่อนคลายไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนกรณีเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ นายกฯได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า หากมีการเปิดจะทำให้เกิดปัญหาหรือมีอุปสรรคอะไรหรือไม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอบว่าไม่มีปัญหาอะไร โดยจะมีการพูดคุยเรื่องรายละเอียดถึงมาตรการป้องกันในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่
          นายกฯกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันจันทร์ที่ 28 ก.ย.ให้พิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะครบกำหนดในวันที่ 30 ก.ย. ออกไปอีก 1 เดือน เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญที่จะบูรณาการการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ อีกทั้งขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างจะหนัก จำเป็นต้องคุมเข้มตามแนวชายแดน หาก ศบค.เห็นชอบจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 29 ก.ย.ทันที

 pageview  1210916    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved