|
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 27/01/2564 ] |
|
|
|
|
รบ.ประสานเพื่อนบ้านแก้ฝุ่นพิษหามเหยื่อPM2.5ส่งโรงพยาบาล |
|
|
|
|
"นายกฯ" ยอมรับ PM 2.5 ยังเป็นปัญหาระดับชาติ เผยหารือเพื่อนบ้านร่วมแก้ปัญหา วอน "เกษตรกร" งดเผา ด้าน "กรมอนามัย" เผยฝุ่นพิษยังน่าห่วงป่วยหามส่งรพ.28รายส่วนใหญ่ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว ชี้กลุ่มเด็กยังเปราะบาง กว่า 44.1%อยู่ในพื้นที่ค่าฝุ่นสูง
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 ม.ค.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมแถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงปัญหา PM 2.5 นั้น ยังเป็นปัญหาระดับชาติ รัฐบาลก็แก้ปัญหาเชิงรุก โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีหลายครั้งที่ผ่านมามีการหารือถึงมาตรการต่างๆ ที่จะลดปัญหา PM 2.5 ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้น รวมถึงการเผาในพื้นที่เกษตรทั้งในและนอกประเทศเราจะเข้มงวดอย่างไร ก็มีการแสวงหาแนวปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนทั้งเรื่อง PM 2.5 และการประกอบการเกษตรกรรม จะทำอย่างไรให้เกิดความเหมาะสม ก็ขอความร่วมมือจากภาคเกษตรกรและเอกชนต่างๆเพราะเรื่องนี้มีผลกระทบกับ ประชาชนคนอื่นๆ ด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก็มีการหารือตลอดเวลาแต่ในเรื่องของอากาศมันก็เชื่อมโยงกันทั้งหมด ก็หารือกับประเทศเพื่อนบ้านของเราในทุกมิติ
ที่กรมอนามัย นพ.สุวรรณชัยวัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 วันนี้ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ใน กทม. ดีขึ้น แต่หลายพื้นที่โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เริ่มมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการเผาไหม้ บางพื้นที่อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ประมาณวันที่ 27-28 ม.ค. ในพื้นที่ กทม.จะเริ่มมีปัญหาฝุ่นอีกครั้ง
ดังนั้น ขอให้ประชาชนตรวจสอบสภาพอากาศ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กลางแจ้ง ทั้งนี้จากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้เข้ารับการรักษาใน รพ.จากกรณีฝุ่น 28 ราย แบ่งเป็นปอดอุดกั้นเรื้อรัง14 ราย โรคระบบทางเดินหายใจ 13 ราย หอบหืด 1 ราย โดยกว่า 18 ราย ต้องมาที่แผนกฉุกเฉิน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกกลุ่มอาการพบว่า มากที่สุดยังคงเป็นอาการโรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ได้แก่ คัดจมูก มีน้ำมูก 17% แสบจมูก 13.7% และแสบตาคันตา 9.8%
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับกลุ่มเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางนั้น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกประมาณการว่าแต่ละปีจะมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเสียชีวิตที่มีความเกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ กว่า 5.7 แสนราย นอกจากนี้มลพิษทางอากาศยังกระทบต่อพัฒนาการทางสมองและประสิทธิภาพการทำงานของปอด รวมถึงกระตุ้นจากโรคหอบ หืด และเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ และมะเร็งในระยะยาว ส่วนในประเทศไทย ในปี 2563 มีเด็กอายุ 0-14 ปี 44.1% ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน และป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นละอองขนาดเล็กจำนวน 618,131 ราย หรือ 5.7% ของเด็กทั้งหมดโดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจแสดงว่าในทุกๆ วันจะมีเด็ก 0-14 ปี ต้องมารักษาอาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM 2.5 กว่า 1,694 ราย ต่อวัน
ดังนั้น ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ควรป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก โดยลดหรืองดการออกนอกอาคารในวันที่ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน หากจำเป็นควรสวมหน้ากากตลอดเวลา กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ปิดประตูหน้าต่างในช่วงที่มีฝุ่นสูง และหากมีอาการผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์ |
| | |
|
|