Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 29/03/2564 ]
สบส.เตือนโฆษณาหลอกขายวัคซีนอวดอ้างเกินจริง

ททท.ย้ำเม.ย.เที่ยวภูเก็ตเฉพาะนทท.ที่ครบ2โดส '5จังหวัด'รอสรุปแผนมาเปิดประเทศ-เดือนก.ค. กทม.ติดเชื้อพุ่ง-ดับอีก1
          ผู้ว่าการ ททท.เคลียร์ชัด การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้วเข้าเที่ยวไทยโดยไม่ต้องกักตัว เล็งทำ Hotel Area Quarantine เริ่มเมษาฯนี้ แต่ให้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด นำร่องภูเก็ต ส่วนอีก 5 จังหวัดท่องเที่ยวหากจะทำให้เสนอแผนเข้ามา ส่วนแผนเปิดประเทศยังเป็น ก.ค. ชี้นักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามาทันที แต่เป็นการส่งสัญญาณให้คู่ค้ารู้และเริ่มขายทัวร์ได้ ขณะที่ สบส.เตือนโฆษณาจองวัคซีนโควิดผ่านกลุ่มไลน์เป็นข่าวปลอม หนำซ้ำโอ้อวดเกินจริง มีความผิดทั้งจำคุกและปรับเงินแสน ย้ำรัฐฉีดให้ฟรี ส่วนไทยยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกอื้อ โดยพบใน กทม.มากสุดเกือบครึ่งร้อย และเสียชีวิตเพิ่ม 1 คนเป็นหนุ่มศรีสะเกษมาทำงาน จ.นครปฐม สูบบุหรี่จัด ป่วยเบาหวาน-ความดัน
          จากกรณีรัฐบาลเตรียมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครบ 2 โดส โดยให้เข้ามาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วันเหมือนเช่นเคย และจะเริ่มในเดือน เม.ย.นี้ ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ยังไม่นิ่ง แม้ฉีดวัคซีนไปกว่า 500 ล้านโดสแล้วก็ตาม
          เคลียร์ปมเปิดรับ นทท.เม.ย.นี้
          ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ททท.จะนำผลการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน เรื่องการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเข้ามาประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด (Sealed area) เข้าหารือรายละเอียดกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ให้เสร็จภายใน 1 เดือน เนื่องจากต้องระบุให้ชัดว่า ต้องแสดงเอกสารอะไรบ้าง เช่น ใบรับรองการฉีดวัคซีน และแอปพลิเคชันติดตามตัว ก่อนเสนอให้ ครม.อนุมัติ โดยจะเริ่มที่ จ.ภูเก็ต ก่อน ส่วนอีก 5 จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ ถ้าต้องการรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ ทางจังหวัดสามารถทำแผนเสนอเข้ามาได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวคงไม่เข้ามาทันทีแต่เป็นการประกาศการตัดสินใจของรัฐบาลไทยให้ต่างประเทศรู้ จะทำให้คู่ค้าและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเริ่มขายแพ็กเกจทัวร์ประเทศไทยได้
          ย้ำให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่จำกัด
          "ต้องย้ำก่อนว่าการเปิดประเทศตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป สำหรับชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว และอยู่ในพื้นที่จำกัด หรือกักตัวในโรงแรม 7 วัน ในรูปแบบที่นายกรัฐมนตรีเรียกว่า 0+7 คือจะไม่ถูกกักตัวในห้อง ให้ออกจากห้องมาอยู่ ในบริเวณโรงแรมได้ตั้งแต่วันแรก และสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ แต่ต้องเป็นเส้นทางที่จำกัด หรือ Sealed route เช่น พักในโรงแรมแห่งหนึ่งของภูเก็ต อยากไปเที่ยวเกาะไข่ เกาะไม้ท่อน หรือเขาหลัก ก็สามารถทำได้เพียงแต่ต้องซีลเส้นทางและซีลพื้นที่”" ผู้ว่าการ ททท.อธิบาย
          แจงที่มา นทท.ไม่ต้องกักตัว
          ผู้ว่าการ ททท.กล่าวอีกว่า ที่นายกฯเห็นชอบตรงนี้มาเนื่องจาก ททท.ได้เสนอที่ประชุม ศบศ.ว่า ในเดือน เม.ย.นี้จะเริ่มทำ Hotel Area Quarantine ที่ให้คนฉีดวัคซีนแล้วอยู่ในห้องของโรงแรม 3 วัน และออกมาอยู่ในพื้นที่ของโรงแรมได้ใน 4 วันหลัง แต่เมื่อนำรูปแบบนี้ไปขายแล้ว ไม่มีใครซื้อ เพราะในหลายประเทศ เช่น มัลดีฟส์ ให้เข้าประเทศได้ไม่ต้องกักตัว นายกฯ จึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นให้ทำแบบ 0+7 วัน คือไม่ต้องกักตัวเลย แต่ต้องอยู่และเที่ยวได้ในพื้นที่ซีลเท่านั้น
          ภูเก็ตนำร่อง "แซนด์ บ็อกซ์"
          ผู้ว่าการ ททท. อธิบายอีกว่า ส่วนช่วงเวลาการ เปิดประเทศ ตั้งแต่ไตรมาสสามของปีนี้ หรือเดือน ก.ค.-ก.ย. จะทำโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ให้นัก ท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส และมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ บินตรงเข้าภูเก็ตและตรวจเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงโดยไม่ต้องกักตัว สามารถไปได้ทั่วจังหวัดภูเก็ต เมื่อครบ 7 วันแล้วถึงจะออกเดินทางไปพื้นที่อื่นได้ ส่วนพื้นที่อื่นๆในช่วงเดือนดังกล่าว ก.ค.-ก.ย.เป็นรูปแบบของ 0+7 วัน คืออยู่ในพื้นที่โรงแรมและเที่ยวในเส้นทางที่ซีลได้ จากนั้นในไตรมาสสี่ (ต.ค.-ธ.ค.) จะให้พื้นที่นำร่องทั้งหมด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ2 โดส ไม่ต้องกักตัวและอยู่ในพื้นที่นำร่องให้ครบ 7 วัน ก่อนออกไปพื้นที่อื่น
          กทม.ติดเชื้อนำโด่ง
          ส่วนสถานการณ์โรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ในไทย ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ระบุ ณ วันที่ 27 มี.ค. มีผู้ป่วยรายใหม่ 80 คน เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 73 คน (จากระบบเฝ้าระวัง 41 คน ค้นหา เชิงรุก 32 คน) จำแนกตามพื้นที่อยู่ใน กทม. 48 คน สมุทรสาคร 15 คน สมุทรปราการ 3 คน นนทบุรี 2 คน นครสวรรค์ 2 คน ที่เหลืออยู่ที่นครปฐม ปทุมธานีและตาก จังหวัดละ 1 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 7 คน มาจากอินเดีย 3 คน แอฟริกาใต้ 2 คน บาห์เรนและเยอรมนี ประเทศละ 1 คน ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 28,657 คน รักษาหายป่วยเพิ่ม 104 คน รวมรักษาหายป่วย 27,136 คน ผู้ป่วยรักษาอยู่ 1,428 คน
          ตายเพิ่ม 1 พบป่วยเบาหวาน
          ขณะเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เป็นรายที่ 93 โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 45 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน อาศัยอยู่ใน จ.นครปฐม มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงในเขตบางแค โดยวันที่ 16 มี.ค. มีอาการเหนื่อยหอบ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พบน้ำตาลในเลือดสูง และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลตรวจไม่พบเชื้อ จากนั้นวันที่ 25 มี.ค. ผู้ป่วยเกิดอาการหมดสติ จึงนำส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง และทำการฟื้นคืนชีพ อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โรงพยาบาลส่งตรวจหาเชื้อโควิด ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 93 ราย
          ย้ำรัฐฉีดวัคซีนให้ ปชช.ฟรี
          ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า ตามที่รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในการจองและสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทซิโนแวคระยะที่ 1 จำนวน 2 ล้านโดส กระจายฉีดใน 13 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ระบาดและ 5 จังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ และระยะต่อไปจะมีวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนส์ จำกัด มาเพิ่มเพื่อฉีดให้แก่ประชาชน ทุกคนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายในปี 2564 แต่อาจจะมีประชาชนบางรายที่ยังไม่ทราบถึงข้อมูลการฉีดวัคซีน ทำให้มีผู้ฉกฉวยโอกาสโฆษณาชักชวนประชาชนให้จองบริการฉีดวัคซีน การกระทำดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพจากวัคซีนที่ยังไม่ดำเนินการรับรอง และเป็นการสิ้นเปลืองเงินทองโดยมิจำเป็น เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีนโควิด-19 ฟรีอยู่แล้ว
          เตือนภัยเฟกนิวส์ทางไลน์
          นพ.ธเรศกล่าวด้วยว่า ล่าสุด สบส.พบเบาะแสการเปิดจองวัคซีนโควิด-19 ผ่านกลุ่มไลน์ Qinsong Group ซึ่งมีการอวดอ้างว่าวัคซีนของตนมีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ และสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ สบส.ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงแหล่งที่มาของกลุ่มไลน์ดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าข้อมูลการเปิดจองวัคซีนโควิดของกลุ่มไลน์ดังกล่าวเป็นข่าวปลอม อีกทั้งกลุ่มไลน์ดังกล่าวมิได้จัดตั้งในไทย แต่หากตรวจพบว่าสถานพยาบาลเอกชนแห่งใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มไลน์ดังกล่าว จะเอาผิดตามกฎหมายทันที
          มีความผิดทั้งคุก ทั้งปรับ
          นพ.ธเรศกล่าวอีกว่า การเปิดจองวัคซีนโควิด-19 และโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าวัคซีนนั้นสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับนั้น เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในมาตรา 38 วรรค 1 ฐานไม่ขออนุมัติและได้รับอนุมัติให้โฆษณา ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา และมาตรา 38 วรรค 2 ฐานโฆษณาในลักษณะอันเป็นเท็จ โอ้อวดเกินความจริง และน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา
          แนะตามข้อมูลจาก "หมอพร้อม"
          ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีสบส. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแอปพลิเคชันไลน์ "หมอพร้อม" เพื่อรองรับการให้บริการวัคซีน ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและหน่วย บริการ ในการลงทะเบียนผู้รับวัคซีน ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ ติดตามประเมินผลการให้วัคซีนจากหน่วยบริการทั่วประเทศได้อย่างครอบคลุม และเป็น การเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับประชาชนโดยไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่ต้องการรับวัคซีนโควิด-19 กดเพิ่ม "หมอพร้อม" เป็นเพื่อนในไลน์ เพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขนำรายชื่อกลุ่มเป้าหมายแรก ในการรับวัคซีนเข้าสู่ระบบหมอพร้อมแล้ว หากมีรายชื่อในระบบจะแสดงหน้าจอให้กดยืนยันการรับวัคซีน จากนั้นจะมีแบบประเมินคัดกรองก่อนรับวัคซีน เข้าสู่การนัดหมาย โดยสามารถเลือกสถานพยาบาล วันและเวลาในการรับวัคซีน
          สั่ง มท.เช็กเพิ่มกลุ่มตกสำรวจ
          ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลได้จัดหา วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไว้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทยกลุ่มเสี่ยงทุกคน และทุกเชื้อชาติที่อยู่ในพื้นที่ เสี่ยงของประเทศตามความสมัครใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งเป้าจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชน 37 ล้านคน ให้เสร็จภายในปี 2564 ทำ ให้คนในประเทศเกิดภูมิ คุ้มกันหมู่ ส่งผลให้เปิดประเทศได้อย่างปลอดภัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น โดยข้อมูลวันที่ 26 มีนาคม 2564 จัดสรรวัคซีนไปยังพื้นที่เป้าหมายต่างๆ แล้ว 270,500 โดส แบ่งเป็นซิโนแวค 190,720 โดส และแอสตราเซเนกา 79,780 โดส ฉีดให้กับประชาชนไปแล้ว 148,905 โดส ส่วนกลุ่มเป้าหมายอื่นที่อาจ ตกหล่น เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ปฏิบัติงาน ด่านหน้าในแต่ละพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขได้ประสาน ไปยังพื้นที่โดยตรง เพื่อจัดสรรวัคซีนให้กับสถานบริการ ในสังกัดนำไปฉีดโดยเฉพาะ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยสำรวจกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม ให้เกิดความครอบคลุมในการรับวัคซีนมากขึ้น
          สมุทรสาครเดินหน้าฉีดวัคซีน
          ส่วนการฉีดวัคซีนในจังหวัดเป้าหมาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รพ.สมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร มีการให้บริการฉีดวัคซีนแอสตราเซ–เนกาให้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีพระสังฆาธิการทั้งเจ้าอาวาสวัด รองเจ้าอาวาสฯ มาเข้ารับ การฉีดวัคซีนแอสตราฯ อย่างต่อเนื่อง ส่วนประชาชนทั่วไป มีนายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร อายุ 83 ปี มาพร้อมกับครอบครัว โดยนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร พาบิดามารดามารับการฉีดวัคซีนด้วยตนเอง ซึ่งทุก อย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่มีใครมีอาการแพ้แต่อย่างใด ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรสาครจัดฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับทุก กลุ่มอายุเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ โดยฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกครบแล้ว 35,000 คน และกำลังฉีด เข็มที่สอง ส่วนวัคซีนแอสตราฯ สำหรับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ได้รับมาลอตแรก 10,000 คน ฉีดเฉพาะวัน เสาร์-อาทิตย์ จะจัดการให้เสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม หรืออย่างช้าภายในสัปดาห์ต้นเดือนเมษายนนี้
          แม่ค้าเมืองโอ่งติดเชื้อเพิ่ม
          ด้านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ.ราชบุรี รายงานสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 มี.ค. พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 1 คน นับเป็นรายที่ 50 ของจังหวัด ผู้ป่วยเป็นหญิง อายุ 29 ปี ชาว ต.สามเรือน อ.เมือง รักษาที่ รพ.ราชบุรี มีอาชีพขายอาหารทะเลที่ตลาดกิตติ บางแค กทม. โดยผู้ป่วยมีการกักตัวอยู่กับบ้านและอยู่ในสถานกักกัน ของรัฐตลอดระยะเวลาที่รอผลตรวจ ตั้งแต่วันที่ 14-26 มี.ค.64 จนวันที่ 26 มี.ค.64 เวลา 18.00 น. ทราบผล ตรวจทางห้องปฏิบัติการว่าพบเชื้อโควิด-19 จึงได้เข้า รับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน รพ.ราชบุรี
          ฌาปนกิจผู้เสียชีวิตรายล่าสุด
          ส่วนที่ จ.นครปฐม ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เสียชีวิตเป็นรายที่ 93 ของไทย เป็นชายไทยอายุ 45 ปี ชาวศรีสะเกษ แต่มาทำงานที่ อ.นครชัยศรีโดยน้องชายผู้ตายเปิดเผยว่า พี่ชายสุขภาพไม่ค่อยดี สูบบุหรี่จัด มีทั้งโรคเบาหวาน ความดัน เข้ารักษาในโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ส่วนภรรยาของพี่ชายแม้ผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่ยังต้องกักตัวจนครบ 14 วัน ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมระบุสาเหตุการเสียชีวิตปอดอักเสบจากการสำลัก โดยมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้ มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและภาวะตับผิดปกติ ขณะที่ตลอดวันในพื้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่
          ขอนแก่นพร้อมฉีดวัคซีนลอตแรก
          วันเดียวกัน นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้การตั้งคณะกรรมการพิจารณาการรับวัคซีนโควิด-19 ในระดับจังหวัดได้พิจารณารายชื่อของผู้ที่จะได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่รัฐบาลมีมติพิจารณาวัคซีนซิโนแวค จำนวน 10,000 โดส ให้กับขอนแก่น ซึ่งจัดเป็น 1 ใน 8 จังหวัดของกลุ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยวัคซีนดังกล่าวที่รัฐบาลจัดสรรนั้นจะมาถึงจังหวัดในช่วงเดือน เม.ย. และจะเข้าสู่ขั้นตอนของการฉีดให้กับ 4 กลุ่ม ประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์, กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ครอบคลุมกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน เส้นเลือดในสมอง และผู้ป่วยมะเร็งรวมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มอื่นๆ การให้บริการวัคซีน จะใช้จุดหลักคือโรงพยาบาลของรัฐในทุกอำเภอ ครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด โดยจากแผนงานที่กำหนดนั้น 10,000 โดส จะสามารถให้บริการแล้วเสร็จภายใน 7 วัน
          ติดเชื้อพุ่ง "แซมบ้า-จังโก้" น่าห่วง
          ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งไปกว่า 126.7ล้านคน เสียชีวิตรวม กว่า 2.78 ล้านคน นอกจากนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมแล้ว กว่า 500 ล้านโดสใน 140 ประเทศทั่วโลก แต่การแพร่ระบาดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุโรปและละตินอเมริกา ซึ่งที่บราซิลมีผู้เสียชีวิตรวมพุ่งกว่า 3 แสนคน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินแสนคนในช่วง 24 ชั่วโมง ส่วนที่เม็กซิโกมีผู้เสียชีวิตสะสมเกิน 2 แสนคน แม้จะเริ่มฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางแล้วแต่การกระจายวัคซีนยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา มีอัตราการฉีดมากกว่าหนึ่งในสี่ของวัคซีนทั้งหมดทั่วโลก ส่วนประเทศในสหภาพยุโรปยังมีปัญหาในการกระจายวัคซีนเช่นกัน
          ฟิลิปปินส์ล็อกดาวน์กรุงมะนิลา
          ส่วนที่ภูฏาน ประเทศที่มีประชากรประมาณ 8 แสนคน มีชายแดนติดกับจีนและอินเดีย ได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ที่ได้รับจากอินเดีย ให้แก่ประชาชนแล้วมากกว่าครึ่งล้านคนเมื่อวันที่ 27 มี.ค. โดยภูฏานสามารถชะลอการแพร่กระจายของโควิด-19 ได้ด้วยการตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดอยู่ที่ 870 คน มีผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียว ขณะที่นายแฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ประกาศว่าประชาชนกว่า 24 ล้านคนในกรุงมะนิลา และอีก 4 จังหวัดรอบๆเมืองหลวงของประเทศ จะเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-4 เม.ย.นี้ เนื่องจากอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากกระทรวงสาธารณสุขประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันที่ 27 มี.ค. สูงถึง 9,595 คน โดยตั้งแต่วันที่29 มี.ค.ประชาชนต้องทำงานจากที่บ้าน เว้นแต่ว่าเป็นแรงงานที่จำเป็น โดยระบบขนส่งสาธารณะจะหยุดให้บริการ และธุรกิจที่ไม่จำเป็นจะถูกปิด การชุมนุมจำนวนมากจะถูกห้าม พร้อมประกาศมาตรการเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 05.00น.

 pageview  1210880    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved