Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 13/08/2563 ]
สธ.เตือนคนไทยเริ่มการ์ดตก

สธ.กระตุ้นประชาชน ยกการ์ดสูง หลังหลายประเทศเจอโควิด-19 ระลอกสองรุนแรง พบมาตรการเริ่มหย่อนยาน ปล่อยเบียดเสียด เมินหน้ากาก ไม่ลงทะเบียน ด้าน ศบค.เผยไทยพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 5 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ
          เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 5 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,356 ราย หายป่วยอีก 6 ราย ทำให้ยอดหายป่วยสะสม 3,169 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 129 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ รายที่ 1 เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา เป็นชายสัญชาติอเมริกัน อายุ 50 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 28 ก.ค. เข้าพักในสถานที่กักตัวทางเลือกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 10 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ
          รายที่ 2 เดินทางมาจากอินเดีย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 18 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 30 ก.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 1 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 10 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ โดยมีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ มีน้ำมูกและเสมหะ และรายที่ 3-5 เดินทางมาจากอียิปต์ ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชายไทยอายุ 23, 24 และ 29 ปี เดินทางมาถึงไทยวันที่ 30 ก.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 6 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ
          สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรวม 20,514,016 ราย รักษาหายแล้ว 13,434,367ราย เสียชีวิต 745,687 ราย ขณะที่เที่ยวบินนำคนไทยกลับประเทศวันที่ 12 ส.ค. จำนวน 123 ราย จากเกาหลีใต้ และวันที่ 13 ส.ค. จำนวน 579 ราย จากอุซเบกิสถาน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ว่าประเทศ ไทยจะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่รับเชื้อในประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มีข่าวรายงานการระบาดครั้งใหม่ในหลายประเทศที่เคยควบคุมโรคได้ดีมาก่อน เช่น เวียดนาม นิวซีแลนด์ ฯลฯ ดังนั้น ทุกภาคส่วนยังต้องเข้มงวดในมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รับการกักตัวและตรวจหาเชื้อโดยเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก และตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาแพร่ให้กับผู้คนในประเทศ
          "สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะนี้เริ่มพบหลายสถานที่และกิจการหย่อนมาตรการป้องกันโรค เช่น ปล่อยให้ผู้ใช้บริการเบียดเสียดใกล้ชิด และไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า นับเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ นอกจากนี้ ประชาชนบางส่วนไม่ได้ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ผ่านแพลตฟอร์ม/แอปพลิเคชันไทยชนะ ซึ่งหากมีผู้ติดเชื้ออยู่ในสถานที่เข้าใช้บริการ ก็จะยากต่อการนำผู้สัมผัสเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังอาการ" นพ.โสภณกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร หากประชาชนยังคงเข้มมาตรการส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ พยายามเว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ
          นพ.โสภณกล่าวอีกว่า สำหรับองค์กรสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้หลายวิธี เช่น การให้พนักงานทำงานที่บ้าน เหลื่อมเวลาทำงาน คัดกรองไข้และอาการป่วยก่อนเข้าพื้นที่ รวมถึงให้พนักงานที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด หยุดงานอยู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และรีบไปรับการรักษา หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันโดยเริ่มจากจุดเล็กๆ คือคน และขยายสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม จะช่วยให้ประเทศไทยปลอดภัย สามารถป้องกัน และจำกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ หากพบผู้ติดเชื้อในประเทศอีกครั้ง.

 pageview  1210917    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved