Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 03/02/2563 ]
รักษาผู้ป่วยไวรัสหายใน48ชม. รพ.ราชวิถีเฉียบใช้ยาไข้หวัดและยาต้านเอดส์

 หญิงจีนวัย71ปีมีอาการดีขึ้นสธ.แถลงชื่นชมผลงานแพทย์จัดหมอ8นายรับคนไทย4กพ.จีนดับ304ศพ-ติดเชื้อ1.4หมื่นทางรอด! ราชวิถีพบแนวทางรักษาไวรัสโคโรนา  ใช้ยาแก้หวัดผสมยาต้านไวรัสเอชไอวี รักษาหญิงจีนอาการหนักหายใน 48 ชม. "อนุทิน" ถกด่วนผู้บริหารสธ.กำชับคุมเข้มสกัดระบาดในไทย ยันรบ.พร้อมส่งเครื่องบิน ทีมหมอ รับคนไทยกลับ 4 กุมภาพันธ์ จัดสถานที่ 3-4 แห่ง กักตัวดูอาการ ชงนายกฯเคาะใช้สถานที่ไหน  ด้านผู้ติดเชื้อของไทยยัง 19 คน เท่าเดิม รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 8 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิต ในจีนพุ่ง 304 ศพ ติดเชื้อกว่า 1.4 หมื่นคน เคราะห์ซ้ำ ที่มณฑลหูหนาน พบไข้หวัดนกระบาดซ้ำอีก นานาชาติ สั่งระงับเที่ยวบินงดออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศ
          เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวง สาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข แถลงหลังเรียกผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขทุกกรมในสังกัดประชุมนัดพิเศษวันหยุด เพื่อติดตามความคืบหน้า และรับมือกับสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัสอู่ฮั่น ว่า การเรียกประชุมนัดพิเศษ ครั้งนี้ เพื่อระดมสมองในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว นับจากวันนี้จะเป็นไปอย่างเข้มข้น ตั้งแต่สนามบิน สถานพยาบาล ชุมชน
          ใช้ยาหวัด-HIVรักษาหาย48ชม.
          นายอนุทินกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเรื่องน่ายินดี เมื่อได้รับรายงานจากทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี ที่ให้การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาการรุนแรง หายภายใน 48 ชั่วโมงแล้ว โดยใช้เทคนิคยารักษาไข้หวัด และยาต้านเอชไอวี รักษาผู้ป่วยชาวจีนที่มีอาการรุนแรงติดเชื้อมา 10 วัน มีอาการอักเสบในเลือดสูงขึ้น น้ำท่วมปอด ขณะนี้อาการดีขึ้น ผลเชื้อจากบวกกลายเป็นลบ แต่ยังมีผู้ป่วยอีก 18 ราย ยังไม่ได้รับเทคนิคการรักษาดังกล่าว
          จัดสถานที่3-4แห่งกักตัวดูอาการ
          นายอนุทินกล่าวถึงการส่งเครื่องบิน พาณิชย์ไปรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่นของจีนว่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์ รัฐบาลพร้อมส่งเครื่องบินพาณิชย์ไปรับคนไทยกลับแล้ว ตนจะไม่ไปเอง มีเพียงทีมแพทย์ 8 คน ประกอบด้วย แพทย์ด้านฉุกเฉิน แพทย์ทางระบาด จิตแพทย์ ตลอดจนพยาบาล พร้อมเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างการเดินทาง เมื่อกลับถึงประเทศไทยแล้วจะแยกตัวไว้ และเฝ้าระวังโรค 14 วัน แต่เชื่อว่าก่อนเดินทางออกมาจากจีนต้องได้รับการตรวจละเอียดว่าปราศจากอาการไข้และเชื้อไวรัสโคโรนา
          ส่วนสถานที่เบื้องต้นเตรียมไว้ 3-4 แห่ง เพื่อกักตัวคนไทยทั้งหมดไว้ดูอาการนั้น ต้องหารือนายกรัฐมนตรี เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งว่าจะใช้สถานที่ใด ส่วนเรื่องไม่ห้ามคนจีนเดินทางเข้าประเทศไทยยืนยันอีกครั้งว่า วันนี้คนจีน เข้ามาในประเทศไทยน้อยมากแล้ว สำหรับจำนวนคนไทยในอู่ฮั่นนั้นมี 160 คน แต่ลงทะเบียนต้องการเดินทางกลับ 140 คน
          บิ๊กคลีนนิ่ง-สั่งผลิตเจลล้างมือเพิ่ม
          ด้านนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงระดมสรรพกำลังจากทุกกรมในสังกัดเพื่อดูแลประชาชน โดยสัปดาห์หน้ากรมอนามัยจะเป็นหน่วยงานหลักทำ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ส่วนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพก็ระดม อสม.กว่า 1 ล้านคน ออกให้ความรู้ในการป้องกันตนเองจากโรคดังกล่าวให้ประชาชนทราบ ส่วนอุปกรณ์ป้องกันตัวทั้งหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือมีเพียงพอนั้น ได้สั่งองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เร่งผลิตเจลล้างมือเพิ่มด้วย
          หมอแจงข่าวดีวิธีรักษาไวรัสอู่ฮั่น
          นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาล ราชวิถี และ รศ.นพ.สืบสาย คงแสงดาว นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาว่า สามารถคิดค้นวิธีการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีอาการรุนแรงอาการดีขึ้นใน 48 ชั่วโมง ผลแล็บจากบวกกลายเป็นลบ โดยใช้ยาที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมเป็นยาต้านไวรัส เอชไอวีหรือยาต้านไวรัสเอดส์ มาปรับใช้ ควบคู่กับยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่
          "ผลสำเร็จในการใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ และยาต้านไวรัสเอดส์ กำจัด ไวรัสโคโรนาจากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจและอาการดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ถือเป็นความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา เป็นหญิงชาวจีนมาจากเมืองอู่ฮั่น อายุ 71 ปี ที่เข้ารับการรักษาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหัวหินและส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 29 มกราคม แพทย์พบมีอาการรุนแรงจึงตัดสินใจใช้ยา Oseltamivir ที่เป็นยาต้านไวรัสหวัดที่เคยใช้รักษาโรคเมอร์ส โดยใช้ร่วมกับยา Lopinavir และ Ritonavia ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเอดส์ จนผู้ป่วยรายนี้อาการดีขึ้น ผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลบภายใน 48  ชั่วโมง ถือเป็นความสำเร็จของแพทย์ไทยที่คิดค้นตัวยานี้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้สำเร็จ และรายงานไปยังนิตยสารทางการแพทย์ของโลก เพื่อบันทึกและจะนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป ซึ่งยาทั้ง 2 กลุ่ม 3 ชนิดนี้ ใช้ได้ผลกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง" ทีมแพทย์รพ.ราชวิถี ระบุ
          สธ.ย้ำติดเชื้อ19คนรักษาหายแล้ว8
          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ยืนยันพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 19 คน เท่าเดิม ในจำนวนนี้รักษาหายและกลับบ้านแล้ว 8 คน ที่เหลืออีก 11 คน อยู่ระหว่างการติดตามรักษาอาการในห้องแยกโรคปลอดเชื้อความดันต่ำของโรงพยาบาล มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม-1กุมภาพันธ์ 2563 สะสมทั้งหมด 382 คน  อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 71 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 311 คน
          รบ.ยันควบคุมโรคตามหลักสากล
          นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมติดตามสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ปฏิบัติตามขั้นตอนป้องกันและควบคุมโรคตามหลักมาตรฐานสากล ซึ่งประเทศไทยได้รับการยอมรับอยู่ในอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย นอกจากนี้ นายกฯยังห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของคนไทยทั้งหมด  สุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนสำคัญที่สุด รวมถึงคนชาติอื่นที่มาอยู่มาเที่ยวไทยด้วย
          "สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่นนั้น รัฐบาลพูดคุยกับทางการจีนมาอย่าง ต่อเนื่องตั้งแต่เกิดสถานการณ์ แต่ทุกอย่างมีขั้นตอน ไม่ใช่จะทำได้ทันที และในที่สุดเราจะส่งเครื่องบินพาณิชย์ไปรับ คนไทยในเร็ววันนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทีมแพทย์สาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข กรมการกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ท่าอากาศยานดอนเมือง บมจ. ท่าอากาศยานไทย สำนักงาน ตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร และสายการบินแอร์เอเชีย เตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา" โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าว และยืนยันว่า รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ให้แพร่ระบาดในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เริ่มแรก ผู้ป่วยทุกรายติดเชื้อมาจากต่างประเทศ และขณะนี้มี 1 ราย ที่ติดจากนักท่องเที่ยว จีนในไทย หลายรายได้รับการรักษาจนหายกลับบ้านได้แล้ว แต่ถ้ามีการติดเชื้อหรือแพร่ระบาดเกิดขึ้นจริง รัฐบาลมีมาตรการรองรับเป็นลำดับขั้นที่สอดคล้องกับสถานการณ์ไว้แล้ว ขอให้ ประชาชนเชื่อมั่น
          ทอ.พร้อมให้รบ.ใช้พื้นที่กักคนไทย
          พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการ ทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลจะใช้พื้นที่ทหารกักตัวคนไทย ที่เดินทางกลับจากอู่ฮั่นว่า กองทัพอากาศพร้อมให้ความร่วมมือ ไม่มีปัญหา ส่วนจะใช้พื้นที่ใดนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลในส่วนของกองทัพอากาศมีหน้าที่สนับสนุนหากมีการร้องขอ ทั้งนี้ รัฐบาลประสานให้เตรียมความพร้อมในทุกเรื่องที่กองทัพอากาศมีทรัพยากรอยู่ในมือ และมีความพร้อมเพียงแต่รอคำสั่งจากรัฐบาล ส่วนกรณีจัดชุดคัดกรองจากกรมแพทย์ทหารอากาศ ตรวจสุขภาพคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่นนั้น เรื่องนี้มีการตั้งคณะทำงาน ขึ้นมาโดยกรมควบคุมโรคระบาด กระทรวง สาธารณสุข (สธ.) จะเป็นเจ้าภาพ
          ยอดตาย-ติดเชื้อในจีนยังพุ่ง
          วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนาในต่างประเทศว่า  คณะกรรมาธิการ สุขภาพแห่งชาติของจีน รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนเกินกว่า 14,300 คนแล้ว เจ้าหน้าที่ของมณฑลหูเป่ย์ ศูนย์กลางการระบาด มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 45 ศพ ในรอบ 24 ชั่วโมง รวมแล้วอย่างน้อย 304 ศพ
          ลามทั่วโลก-นานาปท.ห้ามจีนเข้า
          ขณะนี้เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ระบาดไปมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยอังกฤษ รัสเซีย และสวีเดน รายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรก ทำให้หลายประเทศพยายามหามาตรการควบคุม การระบาด สหรัฐ และออสเตรเลีย เป็นประเทศแรกๆ และกำลังมีหลายประเทศดำเนินการตามมาในการห้ามพลเมืองชาวจีน หรือ ผู้ที่เดินทางไปจีนช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เดินทางเข้าประเทศ  ขณะที่ออสเตรเลียสั่งห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากจีนเข้าประเทศ และชาวออสเตรเลียที่เพิ่งไปจีนมาต้องกักตัวเองตรวจสอบการติดเชื้อเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับ เวียดนามสั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดจากจีนตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ และรัสเซียประกาศระงับการออกวีซ่าสำหรับทำงานให้ชาวจีนและการอนุญาตให้ชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ทั้งสหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมนี และอีกหลายประเทศแนะนำพลเรือนไม่ให้เดินทางไปจีนในช่วงนี้ ส่วน เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของฮ่องกงหลายพันคน ลงมติผละงานประท้วง 4 วัน ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป เพื่อกดดันรัฐบาลฮ่องกงปิดชายแดนที่ติดกับจีน ป้องกันไวรัสจากจีน
          อินโดฯระงับเที่ยวบิน-งดวีซ่าจีน
          นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรี ต่างประเทศอินโดนีเซียแถลงวันเดียวกันนี้ว่า อินโดนีเซียจะระงับเที่ยวบินระหว่างอินโดนีเซียกับจีนทั้งไปและกลับตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไปและห้ามนักท่องเที่ยวที่เคยไปจีนช่วง 14 วัน ที่ผ่านมาเข้าประเทศ หรือแวะเปลี่ยนเครื่องบิน
          "รัฐบาลจะหยุดนโยบายให้ชาวจีน เข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าและหยุดออกวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองกับผู้อาศัยอยู่ในจีน พร้อมกันนี้ ยังขอให้ชาวอินโดนีเซีย หลีกเลี่ยงการเดินทางไปจีนขณะที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา สายพันธุ์ใหม่" นางมาร์ซูดีกล่าว
          หวัดนกระบาดซ้ำมณฑลหูหนาน
          วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงปักกิ่ง ว่า กระทรวงเกษตรของจีนออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ระบุพบการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งใน เขตฉวงชิ่ง ของเมืองเฉาหยาง ในมณฑล หูหนาน ทางภาคกลางตอนล่างของจีน และมีพรมแดนทางเหนือติดกับมณฑลหูเป่ย์ ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา จากสถานการณ์ ไข้หวัดนกที่ฟาร์มในมณฑลหูหนานส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องกำจัดสัตว์ปีกในฟาร์มต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อและฟาร์มในพื้นที่ใกล้เคียงรวมกันอย่างน้อย 17,828 ตัว ขณะที่ฟาร์มซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเชื้อโรคมีไก่ประมาณ 7,850 ตัว แต่ติดเชื้อและตายไปแล้วราว 4,500 ตัว
          จีนติดเชื้อตายนอกปท.รายแรก
          ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ผู้ป่วยซึ่งเป็นชายชาวจีนอายุ 44 ปี จากเมืองอู่ฮั่น เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นผู้เสียชีวิตนอกแผ่นดินใหญ่คนแรก ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 โดยนายฟรานซิสโก ดูเก้  รมว.สาธารณสุขฟิลิปปินส์ แถลงว่า ตั้งแต่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซาน ลาซาโร ในกรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา อาการทรุดเป็นลำดับและมีอาการปวดบวม ตลอดจน อาการจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี ได้ทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว คณะแพทย์ พยายามช่วยชีวิตผู้ป่วยอย่างสุดความสามารถแล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์ขอแสดงความเสียใจอย่างสูงสุดไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต และเร่งประสานกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมะนิลา เพื่อส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล ต่อไป ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยสะสมจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อย่างน้อย 1 คน เป็นหญิงชาวจีน อายุ 38 ปี เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น เดินทาง เข้าประเทศเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ตอนนี้อาการดีขึ้นเป็นลำดับ
          จีนขอบคุณไทยดูแลรักษาผู้ป่วย
          เพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความเรื่อง "จีน-ไทยร่วมมือต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่" ว่า การรับมือกับโรคระบาด จีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการประสานงานและร่วมมือกับฝ่ายไทย โดยสถานทูตจีนติดต่อประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานอื่นของไทยอย่างใกล้ชิด โดยดำเนินการความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพด้านต่างๆ อาทิ ส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีการแบ่งปันข้อมูลด้านสุขอนามัยและการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส การดูแลประชาชนของอีกฝ่ายหนึ่งที่พำนักอยู่ในประเทศของตน ตลอดจนรักษาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ
          จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขไทย ณ วันที่ 31 มกราคม เวลา 24.00 น. พบว่ามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 ราย และ 17 ราย เป็นชาวจีน และ 2 ราย เป็นชาวไทย ในจำนวนนี้ มี 7 ราย ที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว และ 4 ในนั้นได้เดินทางกลับประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างที่นักท่องเที่ยวจีนมีอาการป่วยและเข้ารักษาในสถานพยาบาลของไทยนั้น ฝ่ายไทยได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยจีนเป็นอย่างดี ในการนี้ ขอขอบคุณฝ่ายไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่นเดียวกัน ฝ่ายจีนก็ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องชีวิตและสุขภาพร่างกายของชาวไทยในประเทศจีน โดยมีการติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลไทยตลอดจนสถานทูตและสถานกงสุลไทยประจำประเทศจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนและร่วมกันดูแลชาวไทยในอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ เรามีความเชื่อมั่นว่า ภายใต้ความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย จีนและไทยจะสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดของโรคระบาดนี้ให้ได้อย่างแน่นอน

 pageview  1210939    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved