Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 09/03/2563 ]
กลับถึงไทย-แห่หนีกักโรคล่า80ผีน้อยเจ้าหน้าที่เร่งตามแกะรอย

   'สธ.'สั่งรายงานตัวใน3วันขัดขืนดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด'บิ๊กตู่'ส่งทหารช่วยคัดกรองวอชิงตันพบติดเชื้อรายแรก
          สธ.เผยแรงงานที่กลับจากเกาหลี 537 คน ให้ความร่วมมือเข้าระบบกักตัว ขีดเส้นผีน้อยที่มาก่อนลอตแรก แล้วหลบหนีไม่ยอมเข้าระบบ ให้มารายงานตัวใน 3 วัน ฝ่าฝืนดำเนินคดีตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ ประเมินการ ระบาดลามทุกประเทศทั่วโลก ชี้ในไทยเชื้อจะอยู่ประมาณ 6-9 เดือน  ส่วนสถานการณ์ประจำวันไม่พบ ผู้ป่วยเพิ่ม รักษาหายอีก 2 ราย ส่วนนายกฯสั่งกอ.รมน.-กองทัพสนับสนุนภารกิจคัดกรองของสธ.ทุกพื้นที่ ขณะที่จีนติดเชื้อรายใหม่ 44 คน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอิตาลีลามหนัก ยอดป่วยพุ่งพรวด 1.2 พันคน ใน 24 ชม. เล็งปิดเขตลอมบาร์ดี สหรัฐฯผวาหนักพบติดเชื้อรายแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
          เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมพลเรือโทธานี แก้วเก้า เจ้ากรมกิจการพลเรือนพลเรือนทหารเรือ แถลงความคืบหน้าการรับชาวไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้เข้าสังเกตอาการ 14 วัน หลังสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังวิกฤติทั่วโลกว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันจัดพื้นที่ควบคุมโรคเพื่อสังเกตอาการเริ่มป่วย (State Quarantine) รองรับแรงงานนอกระบบที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสังเกตอาการ ตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลคนไทยกลุ่มนี้อย่างดีที่สุด ให้รับตัวไว้เฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน จนพ้นระยะฟักตัวของโรค ป้องกันการแพร่ระบาด และความปลอดภัยของคนในประเทศ
          สัตหีบรับ750ผีน้อยดูอาการ
          นายสาธิตกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขให้รับผิดชอบดำเนินการรองรับกลุ่มแรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คมนาคม ตรวจคนเข้าเมือง กองทัพ ฝ่ายความมั่นคง เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะนำแรงงานนอกระบบที่เดินทางมาจากทุกเมืองของเกาหลีใต้ หลังจากถูกคัดกรองที่สนามบิน หากมีไข้ มี อาการระบบทางเดินหายใจจะถูกส่งไปโรงพยาบาล ที่กำหนดไว้ ที่เหลือจะส่งเข้ารับไว้สังเกตอาการที่พื้นที่ควบคุมโรคฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งรองรับได้สูงสุด 750 คน โดยจะใช้มาตรการเดียวกับคนไทยที่กลับมาจากเมืองอู่ฮั่น
          หนีฟันคดีพรบ.โรคติดต่อ
          เช่นเดียวกับ แรงงานถูกกฎหมาย/ ผู้โดยสารอื่นที่มาจากเกาหลีใต้ จะถูกคัดกรอง ที่สนามบินหากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจจะถูกส่งไปโรงพยาบาลที่กำหนดไว้เช่นกัน ที่เหลือจะถูกส่งตัวไปพื้นที่ควบคุมโรค(Local Quarantine) ใกล้ภูมิลำเนา ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมไว้ โดยมีระบบเฝ้าระวังติดตามอาการจนครบ 14 วัน เช่นกัน ทั้งนี้ ขอให้แรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้ ที่ยังไม่รับการเฝ้าระวังสังเกตอาการในพื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐกำหนด ให้เข้ารายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตามภูมิลำเนา ภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558
          จี้รายงานตัวภายในสามวัน
          ส่วนกรณีที่ผู้กลับจากเกาหลีใต้ช่วงกลางดึกวันที่ 7 มีนาคม ที่สุวรรณภูมิ ไม่ให้ความร่วมมือในการกักตัวดูอาการ โดยหลบหนีการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนหนึ่งนั้น นายสาธิตกล่าวว่า  การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จึงขอให้บุคคลกลุ่มดังกล่าวไปรายงานตัวต่อ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่พำนักอยู่ภายใน 3 วัน ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด โดยได้กำชับให้ เจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศดำเนินการเอาผิด เพื่อให้ผู้ที่ฝ่าฝืนได้โทษแล้ว
          60คนแรกเข้าระบบเฝ้าระวัง
          นายสาธิตกล่าวต่อว่า สำหรับคนไทยกลุ่มแรกเริ่มทยอยเดินทางมาฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อเวลา 01.15 น. และเวลา 02.45 น. ของวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม รวม 60 คน เป็นผู้ชาย 27 คน ผู้หญิง 33 คน มีหญิงตั้งครรภ์ 3 คนที่ต้องดูแลพิเศษเป็น และกลุ่มเสี่ยงสูง 2 คน จากเมืองแทกูและเมืองคยองซังเหนือ ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองสุภาพ อาการปกติ ไม่มีไข้ สัมภาระทุกชิ้นที่นำติดตัวมา รวมทั้ง รองเท้า และอุปกรณ์สื่อสารได้รับการทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อก่อนขึ้นห้องพัก
          ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกองทัพเรือตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพ ตรวจวัดไข้สอบถามอาการทุกวัน ดูแลด้านสุขภาพจิต โดยทีมแพทย์ จิตแพทย์ และพยาบาล จากโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ และทีมตรวจคัดกรองสุขภาพจากสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขตที่ 6 และโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 โดยกองทัพเรือจัดให้แรงงานไทยจากเกาหลีใต้พักที่อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ แยกพักเป็นอาคารชายกับหญิง มีระบบรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเรือ เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมสนับสนุนอาหารวันละ 3 มื้อ
          ไทยไร้ป่วยใหม่กลับบ้านอีก2
          ด้านนพ.ธนรักษ์ ผลิรัตน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคแถลงที่กระทรวงสาธารณสุขถึงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ว่า มีผู้ป่วยสะสม 50 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ และกลับบ้านได้แล้ว 2 คน รวมผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 32 คน ป่วยรุนแรงขั้นวิกฤติ 1 คน อาการคงที่ไม่ได้แย่ลง มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 4,233 คน เพิ่มจากเดิมกว่า 100 คน กลับบ้านแล้ว 2,629 คน
          ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสะสมตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม-7 มีนาคม มีจำนวน  4,366 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว และอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,629 ราย ส่วนใหญ่ เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในรพ. 1,737 ราย เฉพาะผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรควันที่ 7 มีนาคมประมาณ 130 คน
          จีนติดเชื้อชะลอตัวหลักร้อย
          ส่วนสถานการณ์ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ แล้วทั้งสิ้น  106,472 คน เสียชีวิต 3,600 ราย รักษาหายแล้ว 59,965 ราย  สำหรับจีนชะลอตัวชัดเจนหลังติดเชื้อเพิ่มวันละหลักพันราย มาเหลือหลักร้อยราย  ส่วนประเทศอื่นทวีความรุนแรงมากขึ้น และนอกเหนือจาก 4 ประเทศ ที่ประกาศเป็นเขตโรคติดต่ออันตรายนอกราชอาณาจักร กระทรวงสาธารณสุขยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงเดินทางไป 4 ประเทศได้แก่  สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และยังจับตาประเทศอื่น ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้เราอาจพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นในประเทศของเรา
          เชื่อยังระบาดอีก6-9เดือน
          นพ.ธนรักษ์กล่าวอีกว่า สถานการณ์แพร่ ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ว่า ต้องอยู่ตรงนี้ อีกสักระยะ ไม่ได้จบเดือนสองเดือน เพราะสถานการณ์ระบาดไม่ได้ขึ้นกับประเทศไทยประเทศเดียว แต่ขึ้นอยู่กับประเทศอื่นว่าจัดการโรคนี้ได้ดีแค่ไหน เช่น กรณีประเทศจีนทำงานแข็งมาก จนตอนนี้ จำนวนผู้ป่วยรายใหม่เลดลงอย่างรวดเร็ว ถ้าประเทศอื่นทำได้ดีอย่างประเทศจีนก็จะดี อย่างไรก็ตาม ถ้าประเทศที่มีระบบสาธารณสุขค่อนข้างอ่อนแอ จะจัดการการระบาดได้ยากกว่า ถ้าหากเทียบกับสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ เมื่อการระบาดเริ่มต้น จนถึงจุดสูงสุดจะใช้ระยะเวลาระบาดประมาณ 6-9 เดือน เชื้อไวรัส โควิด-19 ก็เช่นกันคล้ายกับไข้หวัดใหญ่
          ทุกประเทศทั่วโลกไม่รอดแน่
          "การระบาดต้องเกิดขึ้นทั่วโลกแน่นอน ขณะนี้มีประเทศที่ได้รับผลกระทบไปแล้ว 90 ประเทศ และมีประเทศที่พูดได้เต็มปากว่าเข้าระยะระบาดวงกว้างแล้วประมาณ 10 ประเทศ เชื่อว่าอีกสักพักหนึ่งการระบาดก็คงขยายวงไปจนครบหมดทุกประเทศ ฉะนั้นสำหรับประเทศไทย เราต้องเผชิญแรงกดดันจากการที่เราจะเจอผู้เดินทางมาจากประเทศต่างๆ เหล่านี้ ก็คงจะมีในระดับที่สูงต่อไป ขณะเดียวกันเราก็ต้องพยายามป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศให้ดีที่สุด" นพ.ธนรักษ์กล่าว และว่า ถ้าถามว่า จะจบตอนไหน ตอบยากจริงๆ ในประเทศที่มีการระบาดแล้วเขาควบคุมไม่ได้ และกว่าจะถึงจุดสูงสุดก็คงอีกประมาณ 6 เดือน เพราะฉะนั้นเราคงจะตอบได้ว่า เราคงต้องอยู่กับเรื่องนี้ไปสักระยะหนึ่ง
          เผยเฝ้าระวัง4เที่ยวบินจากเกาหลี
          นพ.ธนรักษ์ยังกล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม ถึงเวลา 02.45 น. ของวันที่ 8 มีนาคมตรวจเฝ้าระวังเที่ยวบินจากเกาหลีรวม 4 เที่ยวบิน เริ่มเที่ยวแรกคือ LJ003 มีผู้โดยสาร 104 คน ทั้งนี้ มีผู้เดินทางทั้ง 4 เที่ยวบินมีหมด 537 คน เป็นแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ 133 คน ในจำนวนนี้พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง 6 ราย ส่งรักษาที่รพ.ของรัฐแล้ว มีผู้เดินทางจากเมืองแทกูและคยองซังเหนือ ส่งไปสังเกตอาการที่ฐานทัพเรือสัตหีบ 14 วัน 60 คน เป็นชาย 27 คน หญิง 33 คน ส่วนที่เหลือ 67 คน ส่งไปสถานที่รับไว้สังเกตอาการตามภูมิลำเนา ภายใต้การกำกับสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเวลา 14 วัน
          ย้ำต้องกักตัวเพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ
          ส่วนกรณีมีแรงงานบางส่วนประมาณ 70-80 คน หลบหนีไม่ยอมเข้าระบบเฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นเที่ยวบินก่อนที่จะเริ่มดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งพยายามเข้าไปพูดคุย และขอความร่วมมือ แต่ยังไม่สามารถชี้แจงได้ ผู้โดยสารจึงตระหนกว่าอาจจะเกิดขึ้นกับเขา ทั้งนี้มาตรการที่หน่วยงาน ภาครัฐทุกหน่วยทำนั้นเป็นไปด้วยความเข้าอก เข้าใจเพื่อลดความเสี่ยงให้คนไทยทั่วไป และครอบครัวของแรงงานเอง รวมถึงชุมชน พอสื่อสารด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน เมื่อเริ่มดำเนินการเต็มที่กับ 4 เที่ยวบิน ผู้โดยสารทั้งหมดให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่มีใครหลบหนี
          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ที่มาจากเกาหลีเข้าประเทศไทยก่อน 4 เที่ยวบินนี้ จะมีการตามเข้าระบบเฝ้าระวังตัวเองที่บ้าน จนครบ 14 วัน พร้อมมาตรการบังคับให้รายงานภาวะสุขภาพทุกวัน หากไม่ทำตามก็จะให้มาอยู่ในสถานที่ที่รัฐจัดหาให้ ซึ่งมีกำหนดสถานที่เข้าไว้ทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว
          "ขอย้ำว่าการนำคนไปอยู่ในที่ที่จัดหานั้นเขาไม่ได้ป่วย เพียงแต่เป็นมาตรการที่ทำไปเพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อในสังคม และคนในครอบครัวของแรงงานด้วย เพราะเมื่ออยู่ในศูนย์ฯ หากมีอาการจะได้รักษาได้เร็ว โอกาสแพร่เชื้อแทบไม่มี แต่หากอยู่ข้างนอกแล้วมีอาการคนแรกที่จะติดเชื้อคือคนในครอบครัวของแรงงานเอง เพราะฉะนั้นจึงฝากถึงคนที่ตั้งแง่รังเกียจ และไม่อยากให้มีการกักกันในพื้นที่ตนเข้าใจ แต่อยากให้เปลี่ยนจากการตั้งแง่ รังเกียจเป็นความเข้าใจ เป็นความร่วมมือกันดีกว่า ประเทศไทยต้องการสิ่งนี้มากๆ ถึงผ่านวิกฤตินี้ไปได้" นพ.ธนรักษ์ กล่าว
          เร่งตามตัว80ผีน้อยหนีกักตัว
          นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ประมาณ 70-80 คน หลบหนีการกักกันของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระหว่างนำตัวไปยังอาคารรับรองสัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองว่า กระทรวงมหาดไทย (มท.) และสธ.อยู่ระหว่างประสานงานเร่งติดตามแรงงานทั้งหมดกลับมา   ยืนยันว่า รัฐบาลยังรับมือสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติแบ่งประเภทแรงงานเป็นสองกลุ่ม จากสองเมือง ตั้งแต่ที่สนามบินไปส่งที่สัตหีบแล้ว
          น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข สั่งการให้นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เร่งตรวจสอบรายชื่อข้อมูลผู้ที่เดินทางว่าใครหลบหนีไปได้บ้าง เพื่อนำตัวกลับมากักกันโรค และดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคต่อไป
          'บิ๊กตู่'สั่งทหารหนุนภารกิจสธ.
          พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม เผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พร้อม ปลัดกระทรวงกลาโหมหารือเหล่าทัพ ที่ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อรับทราบสถานการณ์และสนับสนุน สธ.รับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยภาพรวมที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมจัดกำลังพลสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกระบวนการคัดกรอง แรงงานไทยกลุ่มเสี่ยงที่ทยอยเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐและนำพาเข้าพื้นที่ควบคุมโรคในกองทัพเรือ อ.สัตหีบ แล้ว 63 ราย โดยจะร่วมคัดกรอง แรงงานกลุ่มดังกล่าวและส่งเข้าดูแลในพื้นที่ควบคุมที่กำหนดร่วมกับ สธ.อย่างต่อเนื่องไปในทุกเที่ยวบิน
          พล.ท.คงชีพกล่าวต่อว่า กระทรวงกลาโหมอยู่ระหว่างประสานสธ. เพื่อพิจารณาพื้นที่ควบคุมโรคอื่นเพิ่มเติม โดยไม่ให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมในพื้นที่ รองรับให้เพียงพอกับปริมาณกลุ่มเสี่ยง และขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติมสำหรับการทำงานในพื้นที่ควบคุมโรคที่จัดตั้งขึ้น ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญแจ้งเหล่าทัพว่านายกฯย้ำและสั่งการให้กอ.รมน.จังหวัดเข้าไปสนับสนุนและร่วมเสริมการทำงานของสธ.ในแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่ร่วมดูแลคัดกรอง ที่สนามบินนานาชาติ การเคลื่อนย้ายและดูแลในพื้นที่ควบคุมโรคที่แต่ละจังหวัดจัดตั้งขึ้น ขณะเดียวกัน ขอให้จัดกำลังพลเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของ สธ.เสริมความเข้มแข็งของระบบและมาตรการคัดกรองทุกสนามบินในประเทศ และประสิทธิภาพการนำทุกกลุ่มเสี่ยงเข้าระบบควบคุมที่รัฐกำหนด
          ดอนเมืองยกระดับคัดกรองเข้ม
          ขณะเดียวกัน เรืออากาศโทสัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า สนามบินดอนเมืองยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ตรวจเข้มทุกเที่ยวบิน ทั้งขาเข้าและออก โดยวางจุดตรวจคัดกรอง 4 จุดหลัก คือ ขาเข้า-ขาออกภายในประเทศ, ขาเข้า-ขาออกต่างประเทศ เป็นการประสานการทำงานร่วมกันระหว่าง ทอท. สธ. ตม. และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง กรณีที่พบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่ สธ.จะทำตามขั้นตอนทางการแพทย์ กักตัวเพื่อตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยนำ ผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายไปเฝ้าระวังยังที่พัก ซึ่งเป็น ตู้คอนเทนเนอร์ด้านนอกบริเวณอาคาร Piere 6 ที่ไม่ปะปนกับผู้โดยสารทั่วไป  หากพบเข้าข่ายจะนำตัวส่งสถาบันบำราศนราดูรต่อไป
          สำหรับเที่ยวบินจากประเทศกลุ่มเสี่ยง วันนี้ ที่จะลงดอนเมือง มีจากจีนประมาณ 5 เที่ยวบิน ญี่ปุ่นประมาณ 8-9 เที่ยวบิน ส่วนเกาหลีใต้ไม่มีลงที่ดอนเมือง จะเป็นวันพรุ่งนี้วันที่ 9 มีนาคม เวลา 15.00 น. ย้ำมาตรการคัดกรองผู้เดินทางเป็นไปตามมาตรฐานที่สธ.กำหนด
          จีนติดเชื้อรายใหม่44ลดต่อเนื่อง
          ทางด้านสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกนั้น คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติ หรือ เอ็นเอชซี ของจีน รายงานสถานการณ์ระบาดถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่อีก 44 ราย ลดลงจากที่พบเมื่อวันศุกร์ ที่มี จำนวน 99 ราย ขณะที่เมืองต่างๆ ในจีนเริ่ม ผ่อนปรนมาตรการเข้มงวดในการกักตัว ที่บังคับใช้มากว่า 1 เดือนแล้ว สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ 44 รายนั้น 41 ราย ตรวจพบที่เมืองอู่ฮั่น เมืองต้นทางการระบาดของ โควิด-19 ส่วนอีก 3 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ เดินทางมาจากนอกประเทศจีน สำหรับยอด ผู้ติดเชื้อในประเทศจีนอยู่ที่ 80,701 ราย  ขณะเดียว เจ้าหน้าที่รายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 27 ราย ลดลงจาก 28 รายของสถิติเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ผู้เสียชีวิตทั้งหมดพบที่มณฑลเหอเป่ย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในจีนอยู่ที่ 3,097 ราย
          ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.00 น. มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 106,472 ราย เสียชีวิต 3,600 ราย และรักษาหายแล้ว 60,359 ราย
          อิตาลีป่วย1.2พันจ่อปิดเขตศก.
          รัฐบาลอิตาลีเตรียมปิดเขตลอมบาร์ดี ซึ่งเป็นเขตร่ำรวยที่สุดของอิตาลี และมีเมืองมิลานเป็นเมืองเอก หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งแบบก้าวกระโดด โดยจะสั่งห้ามประชาชนเข้าหรือออกจากเขตลอมบาร์ดี เด็ดขาด พิพิธภัณฑ์ สถานที่ออกกำลังกาย ศูนย์วัฒนธรรม ลานเล่นสกีและสระว่ายน้ำจะถูกปิดบริการทั้งหมด สถานศึกษาที่ถูกสั่งปิดชั่วคราวถึงวันที่ 15 มีนาคม จะปิดต่อไปจนถึงวันที่ 3 เมษายน คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากยอด ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้นรวดเร็วในระยะ 24 ชั่วโมง โดยเพิ่มถึง 1,200 คน เป็น 5,883 คน และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 36 คน เป็น 233 คน นับเป็นประเทศมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุด ในยุโรป
          วอชิงตันพบติดเชื้อรายแรก
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รายแรก เป็นชายวัย 50 ปี ไม่มีประวัติ เดินทางไปต่างประเทศ และไม่มีประวัติสัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อคนใด โดยนางเมอรีล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีดิสตริค ออฟ โคลอมเบีย ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นรายแรกแล้ว หลังจากนำผู้ป่วยต้องสงสัย 11 คน ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดย ผู้ติดเชื้อนี้เป็นชายวัย 50 ปี และไม่มีประวัติการ เดินทางไปต่างประเทศแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีประวัติว่าสัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อ คนใดอีกด้วย ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่าสหรัฐมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด 447 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 19 คน และผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ในรัฐต่างๆ จำนวน 19 รัฐ

 pageview  1210938    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved