สิงคโปร์ติดเชื้อแซงไทยวันเดียวทะลุ386ราย
          รัฐบาลจีนอนุมัติการทดสอบวัคซีนป้องกันโรค"โควิด-19" จากหน่วยงานอีก 2 แห่ง สิงคโปร์คุมไม่อยู่ ยอดติดเชื้อทะลัก รวมเกือบ 3 พัน พุ่งแซงหน้าไทยแล้ว สหรัฐยังครองสถิติยอดป่วย-ตายสูงสุด อิตาลีดับทะลุ 2 หมื่นราย ปธน.ฝรั่งเศสประกาศขยายล็อกดาวน์ถึง 11 พฤษภาคม ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ยังยึดถือมาตรการเข้ม ปัดเสียงเรียกร้องให้ผ่อนคลาย ขณะที่ยอดติดเชื้อทั่วโลก 1.9 ล้านราย เสียชีวิต 1.2 แสนราย
          เมื่อวันที่ 14 เมษายน สำนักข่าว ต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงเมื่อวันจันทร์(ตามเวลาท้องถิ่น) ว่าผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่เพิ่มเป็นอย่างน้อย 10,056 คน หลังมีการยืนยันผู้เสียชีวิต 671 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 195,565 คน โดยมีการยืนยันผู้ติดเชื้อใหม่อีก 6,240 คน
          โดย คูโอโม มองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ "ผ่านจุดวิกฤติที่สุด ไปแล้ว" เนื่องจากผู้ป่วยหนักมีแนวโน้มทรงตัว แม้จะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับ "การแพร่ระบาดระลอกที่สอง" หากมีการยืดหยุ่นมาตรการจำกัดต่างๆ นานา "เร็วเกินไป" อย่างไรก็ตาม เขากำลังหารือกับผู้ว่าการรัฐ ที่อยู่ใกล้เคียงในฝั่งตะวันออก ได้แก่ นิวเจอร์ซีย์ คอนเนตทิคัต เพนซิลเวเนีย เดลาแวร์ และโรดไอแลนด์ เพื่อจัดตั้ง คณะทำงานเฉพาะกิจร่วมกัน ในการ กลับมาเปิดเมืองพร้อมกันอย่างเป็นระบบ เช่นเดียวกับ นายกาวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งกล่าวว่ากำลังหารือกับ ผู้ว่าการของหลายรัฐในฝั่งตะวันตก รวมถึงออริกอนและวอชิงตัน ในการกลับมาเปิดเมือง และกำหนดมาตรการควบคุมโรคร่วมกัน
          อิตาลีเสียชีวิตทะลุ2หมื่นราย
          ยอดผู้เสียชีวิตจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในอิตาลี เพิ่ม เป็นกว่า 20,000 คนแล้ว ซึ่งสูงเป็นอันดับสอง ของโลก รองจากสหรัฐ โดยตัวเลขของรัฐบาลอิตาลี ที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว 20,465 คน อย่างไรก็ตาม จำนวน ผู้ติดเชื้อใหม่ในอิตาลีเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ส่วนจำนวน ผู้ป่วยหนัก ก็ลดลงทุกวันเช่นกัน นับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน เป็นต้นมา
          ฝรั่งเศสขยายล็อกดาวน์11พ.ค.
          สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจาก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ว่า การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 กำลังเริ่มทรงตัวและความหวัง กำลังกลับคืนมา แต่การควบคุมการ แพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดด้วยการล็อกดาวน์ห้ามประชาชนออกนอกบ้านจะยังมีผล ต่อไปจนถึงวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม แต่การผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์นั้นมีความเป็นไปได้ หากเรายังเป็นประชาชน ที่ดี รับผิดชอบและเคารพกฎ และถ้าการแพร่ระบาดยังคงลดน้อยต่อไป สำหรับโรงเรียนนั้นจะเริ่มทำการเรียนการสอนได้อีกครั้งในวันที่ 11 พฤษภาคม เช่นกัน แต่ร้านอาหารและคาเฟ่จะต้องปิดต่อไป เช่นเดียวกับพรมแดนที่ติดกับประเทศ ที่ไม่ใช่สมาชิกอียู
          ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสแถลงว่า พบผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสโควิด-19 ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มอีก 574 ศพ รวมเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14,967 ศพแล้ว และติดเชื้อ 136,779 ราย
          ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์คุมเข้ม
          ขณะที่ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต่างปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางและการชุมนุมในที่สาธารณะ ทั้งๆ ที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างมาก ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสก็อต มอริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า ยังคงต้องรออีกหลายสัปดาห์ ก่อนจะตัดสินใจยกเลิกมาตรการเหล่านั้น ทั้งนี้ ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 63 คน ใน 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นต่ำที่สุด ในช่วง 1 เดือน
          ส่วนนิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพียง 8 คน ในวันนี้ ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ นางจาซินดา อเดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า จะต้องรอดูสถานการณ์ ไปอีก 1 สัปดาห์ เป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต่างก็ปิดพรมแดนไม่รับชาวต่างชาติและใช้มาตรการกักกันพลเมือง ที่เดินทางกลับเป็นเวลา 14 วัน
          จีนอนุมัติทดสอบวัคซีนโควิด
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยอ้างจากรายงานของสำนักข่าวซินหัว ว่า รัฐบาลจีนอนุมัติการทดสอบขั้นแรกในมนุษย์ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีน 2 แบบ ซึ่งคิดค้นโดยบริษัทในประเทศ เพื่อป้องกันโรค โควิด-19 โดยวัคซีนทั้งสองแบบพัฒนา โดยซิโนแวค ไบโอเทค บริษัทวิจัยด้านชีวเภสัชภัณฑ์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงปักกิ่ง และสถาบันผลิตภัณฑ์ชีวภาพแห่งเมือง อู่ฮั่น ในเครือกลุ่มบริษัทเภสัชภัณฑ์แห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
          วัคซีนชุดนี้เป็นวัคซีนโรคโควิด-19 ชุดแรกของจีนที่ได้รับการอนุมัติเพื่อการทดลองทางคลินิก ทำงานโดยนำจุลชีพก่อโรคที่ตายแล้วมาใช้กระตุ้นภูมิต้านทานของโรค และมีข้อดีตรงกระบวนการผลิตที่สมบูรณ์ มาตรฐานคุณภาพที่ควบคุมได้ และขอบเขตการป้องกันที่กว้างขวาง
          นอกจากนั้น วัคซีนทั้งสองยังสามารถนำไปใช้ในการฉีดวัคซีนปริมาณมาก รวมถึง สามารถตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ
          อนึ่ง จีนวางรากฐานที่มั่นคงแก่การวิจัยวัคซีนต่างๆ ซึ่งถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในการต่อสู้กับโรคไวรัสตับอักเสบ เอ, โรคไข้หวัดใหญ่, โรคมือ-เท้า-ปาก และโปลิโอ โดยบรรดาผู้พัฒนาวัคซีนสามารถผลิตในปริมาณมากและพร้อมใช้วัคซีนแบบเร่งด่วนตามกฎหมายและ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
          ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลปักกิ่งอนุมัติการทดสอบทางคลินิกในมนุษย์ ให้กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งพัฒนา โดยสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารแห่งชาติ ร่วมกับบริษัทแคนซิโนไบโอของฮ่องกง ขณะเดียวกันสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นไอเอช) กำลังพัฒนาและทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เช่นกัน
          อินเดียขยายเวลาปิดเมืองถึง3พ.ค.
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ว่า นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการ ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา ออกไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตาม โมดียืนยันว่าภาครัฐจะมีมาตรการผ่อนคลายให้กับพื้นที่ซึ่งไม่พบผู้ป่วยใหม่ นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 20 เมษายน เป็นต้นไป ขณะที่ข้อกำหนด เพิ่มเติมสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรจะมีการทยอยประกาศออกมาตั้งแต่วันพุธที่ 15 เมษายนนี้
          สิงคโปร์ติดเชื้อแซงหน้าไทยแล้ว
          สถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ในอาเซียน ล่าสุด มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง เมื่อสิงคโปร์ ที่ได้รับการยกย่องก่อนหน้านี้ว่าสามารถรับมือได้ดีเป็นลำดับต้นๆ ของโลก แต่ ณ ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ได้แซงไทยไปแล้ว มีผู้ติดเชื้อรวม 2,918 คน ล่าสุดพบรวดเดียว 386 ราย แต่ผู้เสียชีวิตมีเพียง 9 คนเท่านั้น ส่วนไทยตัวเลขวานนี้ มีผู้ติดเชื้อ 2,579 คน เสียชีวิตแล้ว 40 ราย ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในอาเซียน คือ 4,932 ราย รองลงมาคือ มาเลเซีย 4,817 คน และอินโดนีเซีย 4,557 ราย
          ชี้ร้ายกว่า'ไข้หวัดใหญ่2009'สิบเท่า!
          ทางด้าน นพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ ) กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 บนโลก ว่ายังมีอัตราแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และเชื้อโรค ดังกล่าวยังสามารถเป็นอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิต ถือว่ามีความรุนแรงกว่าถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับ "ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ กลุ่มย่อย เอช1เอ็น1" หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ไข้หวัดใหญ่ 2009" เมื่อปี 2552
          ยอดป่วยทั่วโลก1.9ล้านดับ1.2แสน
          ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก นับถึงช่วงเย็นวันที่ 14 เมษายน ตามเวลาในประเทศไทย พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,934,557 ราย ผู้เสียชีวิต 120,438 ราย รักษาหายแล้ว 456,736 ราย โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 587,173 ราย และมีเสียชีวิตมากที่สุดเช่นกัน ที่จำนวน 23,644 ราย สเปนมีผู้ติดเชื้อ 172,541 ราย เสียชีวิต 18056 ราย อิตาลีมีผู้ติดเชื้อ 159,516 ราย เสียชีวิต 20,465 ราย ฝรั่งเศส ผู้ติดเชื้อ 136,779 ราย เสียชีวิต 14,967 ราย เยอรมนี ผู้ติดเชื้อ 130,072 ราย เสียชีวิต 3,194 ราย