Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 18/06/2563 ]
สสส.ร่วมกับภาคี แนะ ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย เน้นกิจกรรมทางกายและโภชนาการที่ดี

 สสส. จับมือภาคี ระดมสมองเปิดมุมมอง "ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย" ชูกิจกรรมทางกาย 3 รูปแบบ เล่นสนุกผ่อนคลาย-เล่นเสริม ทักษะตามวัย-เล่นสร้างความแข็งแรง เสริมโภชนาการสมวัย ช่วยพัฒนาการสมบูรณ์ รอบด้าน ร่างกาย-จิตใจ-อารมณ์-สังคม-การเรียนรู้ หลังสำรวจพบเด็กมีกิจกรรม ทางกายลดลงกว่า 60%
          เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ณ อาคาร ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานแถลงข่าว "New Normal for Thai Children ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย" ภายใต้โครงการกิจกรรมส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายกลุ่มวัยเด็กในสถานศึกษา (Active Play Active School) พร้อมเสวนาหัวข้อ "ทิศทางการสร้างเสริมสุขภาวะบนชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย"
          นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต เกิดกระบวนการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกมิติ โดยเฉพาะมิติด้านสุขภาพที่ต้องปรับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่แตกต่างจากแนวปฏิบัติที่คุ้นเคย กระทบต่อระบบการศึกษาที่ต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียน "กลุ่มเด็ก" จึงใช้เวลาหน้าจอมากขึ้นทั้งการเรียน และเล่นเกมออนไลน์ ส่งผลให้มีกิจกรรม ทางกายเพียงพอในอัตราที่ลดลง เป็นที่ทราบ กันดีว่าการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อสู้กับ โควิด-19 ทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันพร้อมรับมือกับการคุกคามของโรคอุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น ในอนาคต กระทรวงศึกษาธิการเอง ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของเด็กนักเรียน และเป็นการ สร้างความอุ่นใจให้กับผู้ปกครองจึงออกมาตรการ เพื่อให้โรงเรียนนำไปใช้ปฏิบัติ เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มปัจจัยเสริมให้เด็กมีสุขภาวะที่ดี เพื่อรองรับการปรับตัวของเด็กๆ ในการเปิดภาคเรียนที่จะถึงนี้ ซึ่งสอดรับกับบทบาทของ สสส. ในการ กระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในชีวิตวิถีใหม่
          ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ผลการสำรวจข้อมูล การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางสุขภาพของประชากรในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด-19 โดย สสส. และสถาบัน วิจัยประชากร และสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า สถานการณ์ดังกล่าวนำมาซึ่งการ ปรับเปลี่ยนชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย ใน 2 มิติ คือ มิติเชิงบวก พบว่า มีเด็ก ร้อยละ 11.6 ที่มีโอกาสในการเล่น ออกแรงเคลื่อนไหว และ มีกิจกรรมทางกายมากขึ้นกว่าในช่วงปกติ ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการที่ผู้ปกครองได้ ทำงานจาก ที่บ้าน ทำให้มีเวลาที่จะร่วมเล่น และทำกิจกรรมกับบุตรหลาน มิติเชิงลบพบว่า มีเด็ก ร้อยละ 61.6 มีกิจกรรมทางกายที่ลดลง ขณะที่มีช่วงเวลาของการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หน้าจอเพื่อความบันเทิง เพิ่มสูงขึ้น เป็น 4 ชั่วโมงกว่าต่อวัน จากสถานการณ์ในมิตินี้ มีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะจากเดิมเฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง ซึ่งสูงกว่า ข้อแนะนำมาตรฐานกว่า 1 ชั่วโมงอยู่แล้ว สสส. จึงมุ่งหวังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมกันส่งเสริมให้ชีวิตวิถีใหม่ของเด็ก และเยาวชนไทยมีสุขภาวะที่ดี ผ่านการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอสูงขึ้นอีก ร้อยละ 10
          นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กล่าวว่า การกระตุ้น ให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการ ส่งเสริมกิจกรรมทางกายอย่างเหมาะสม พร้อมกับการส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้ เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกายอย่างมีสุขภาวะในมิติของการมีกิจกรรมทางกายในชีวิตวิถีใหม่ นอกจากจะเป็นการสร้างเสริมสุขภาพ ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถป้องกันหรือต่อสู้กับโรคภัยแล้ว ยังเป็นแนวทางการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคได้เป็นอย่างดี และจะเป็นการลดโอกาสการกลับมาระบาดซ้ำของไวรัสโควิด-19
          รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก ประธานกรรมการ บริหารแผนคณะที่ 5 สสส. กล่าวว่า การมีสุขภาวะที่ดีในช่วงวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญที่สุดที่จะนำพาอนาคตที่สดใสมาให้ พวกเขาได้ การเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม ผ่านการ ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย และการรับประทานอาหารที่เหมาะสม ให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ ของเด็ก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องร่วมมือกัน จากสถานการณ์ปัจจุบัน "กลุ่มเด็ก" มีกิจกรรมทางกายลดลง และมีการเลือก รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง แต่คุณค่า ทางโภชนาการต่ำ เป็นสาเหตุให้เกิดความเสี่ยง เช่น น้ำหนักตัวเกิน โรคอ้วน ส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ พัฒนาการล่าช้า ส่งผลต่อการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องสื่อสารสร้าง ความรู้ความเข้าใจกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู หรือผู้ดูแลเด็ก เพื่อช่วยกันส่งเสริมให้ เด็กไทยมีสุขภาวะที่ดี ด้วยการจัดอาหารให้ เด็กได้รับประทานอย่างมีคุณค่าทางโภชนาการ ครบ 5 หมู่ กินผัก ผลไม้ให้เพียงพอ ลดอาหารหวาน มัน เค็ม และให้ดื่มนมจืดอย่างน้อย 2 กล่องต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตตามช่วงวัย และการส่งเสริมให้มีกิจกรรม ทางกายที่เพียงพอ อย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน ผ่านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย 3 รูปแบบคือ 1.การเล่นเพื่อความสนุกสนานและผ่อนคลาย 2.การเล่นเพื่อเสริมสร้างทักษะต่างๆ ตาม ช่วงวัย และ 3.กิจกรรมทางกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ดำเนินรายการโดย นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส.
          ทั้งนี้ ช่วงบ่ายมีการเสวนา "เจาะลึก กิจกรรมทางกายของเด็กไทยบนชีวิตวิถีใหม่" โดย ผศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา หัวหน้า ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง แนวทางการส่งเสริมกิจกรรมทางกายของเด็กไทย เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ สร้างความสุขและความสนุกสนานให้กับเด็กๆ บนชีวิตวิถีใหม่ ผ่าน "คู่มือ การเรียนรู้ 3 มิติ เล่น-เรียน-รู้" ที่จะช่วยให้ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็ก จัดกิจกรรมให้เด็กในช่วงอยู่ที่บ้านโดยมี "ตารางการเรียนรู้ 3 มิติ" เป็นเครื่องมือเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ในช่วงเวลาทองของแต่ละวัน โดยประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะไม่ได้จำกัดอยู่ในแง่ของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้เท่านั้น แต่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และการรู้คิดของเด็กอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยอีกด้วย

 pageview  1210926    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved