Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 17/08/2563 ]
ลอตแรกขายแล้วรัสเซียผลิตวัคซีนโควิดสำเร็จ

  20ประเทศทั่วโลกจองอื้อเวียดนามสั่ง150ล้านโดสไทยพบติดเชื้อใหม่1รายสธ.สั่งคุมเข้มตรวจหาเชื้อ
          โควิด-19 ยังลามทั่วโลก ยอดติดเชื้อกว่า 21 ล้าน ตายอย่างน้อย 7.6 แสน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ด้านรัสเซียผลิตวัคซีนสู้ไวรัสโควิด-19 ลอตแรกออกวางตลาดแล้ว เวียดนามเมินข้อกังขาเรื่องความปลอดภัย เล็งสั่งซื้อ 150 ล้านโดส ขณะที่ไทยพบ ผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย ในสถานที่ กักตัวรัฐ เป็นชายกลับจากสิงคโปร์ สธ.ย้ำไม่มีคนติดเชื้อในปท.ไม่ยืนยันว่าไทยปลอดภัย เน้นตรวจหาเชื้อให้เร็วเพื่อจำกัดการระบาด
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ว่า หลายประเทศยังมีการระบาดลุกลามเป็นวงกว้าง มีจำนวนผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น  และวันเดียวกันนี้ มีรายงานความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้งานได้ทันที
          รัสเซียผลิตวัคซีนลอตแรกสู่ตลาด
          กระทรวงสาธารณสุขรัสเซียเปิดเผยว่า สถาบันวิจัยกามาเลยา ผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลรัสเซีย ผลิตวัคซีน โควิด-19 ลอตแรกออกมาเรียบร้อยแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ออกมาประกาศความสำเร็จในการทดลองวิจัย พร้อมใช้งาน ท่ามกลางความวิตกกังวลของหลายฝ่ายเรื่องความปลอดภัย และสงสัยเป็นการทดลองข้ามขั้นตอน เกรงเป็นอันตรายกับผู้รับวัคซีนได้   แม้ปูตินจะยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวปลอดภัย เพราะลูกสาวของตนร่วมเป็นอาสาสมัครทดลองวัคซีนตัวดังกล่าวด้วย  และตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว เป็นความพยายามขัดขวางการวิจัยของรัฐบาลรัสเซีย
          เวียดนามประเดิมสั่งซื้อ150ล.โดส
          ขณะที่ วันเดียวกันสื่อท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่า รัฐบาลเวียดนามเตรียมสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซีย 150 ล้านโดส ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่ามีมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก สนใจสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียแล้ว  โดยรัสเซียตั้งชื่อวัคซีนตัวดังกล่าวว่า สปุตนิค 5 ตามดาวเทียมดวงแรกที่รัสเซียส่งสู่อวกาศได้เป็นชาติแรกของโลกเมื่อปี 1957 ผลงานการพัฒนาของสถาบันวิจัยกามาเลยาด้านระบาดวิทยาและจุลชีววิทยา ในกรุงมอสโก ร่วมกับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
          นิวซีแลนด์-ออสเตรเลียป่วยเพิ่ม
          ด้านกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์แถลงว่า นิวซีแลนด์พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 13 ราย ทำให้มีข้อสงสัยกันว่าการเลือกตั้งทั่วไปในนิวซีแลนด์ที่จะมีขึ้นเดือนกันยายน จะจัดขึ้นได้ตามกำหนดหรือไม่ ทั้งนี้ หลังจากนิวซีแลนด์ปลอดโควิด-19 นานถึง 102 วัน แต่มาพบผู้ป่วยอีกครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เมืองโอ๊คแลนด์ ทำให้ต้องประกาศล็อกดาวน์เมืองทันที เพื่อควบคุมการระบาด หากแต่จำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 13 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยอยู่ในนิวซีแลนด์ 69 ราย
          เช่นเดียวกับ ออสเตรเลียกำลังเผชิญการระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ใน 2 รัฐใหญ่ คือนิวเซาท์เวลส์ และวิกตอเรีย แต่เริ่มมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยลดลง โดยรัฐนิวเซาท์เวลส์มีรายงานพบผู้ป่วยรายใหม่เพียง 5 ราย ส่วนที่รัฐวิกตอเรียพบผู้ป่วยรายใหม่ถึง 279 ราย และเสียชีวิตอีก 16 ราย
          เกาหลีใต้ติดเชื้อในปท.กว่า200คน
          เช่นเดียวกับ ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) แถลงสรุปสถานการณ์โควิด-19 ของเกาหลีใต้รอบ 24 ชั่วโมงว่า ยังไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม สถิติผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่อย่างน้อย 305 คน คิดเป็นอัตราการ เสียชีวิต 1.99% ขณะที่มีผู้ป่วยได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลและสถานที่กักตัวอีก 9 คน เพิ่มจำนวนผู้ได้รับการรักษาหายสะสมเป็นอย่างน้อย 13,910 คน  อย่างไรก็ตาม สถิติผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15,318 คน เนื่องจากมีการยืนยันผู้ติดเชื้ออีก 279 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ที่เกาหลีใต้ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าวันละ 200 คน และยิ่งเพิ่มความวิตกให้ทุกฝ่ายเกี่ยวกับความรุนแรงของการระบาดในชุมชน เมื่อผลสอบสวนโรคเบื้องต้น พบว่าในจำนวนผู้ป่วยกลุ่มใหม่ เป็น ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพียง 12 คน หมายความว่าอีก 267 คน ได้รับเชื้อจาก ในประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงโซล
          รบ.ผวายกระดับเข้มคุมระบาด
          นายกรัฐมนตรีชอง ซเยคยอง ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมทางสังคมในกรุงโซลและพื้นที่ใกล้เคียงขึ้นจาก 1 เป็น 2 ซึ่งเงื่อนไขสำคัญรวมถึงการห้ามรวมตัวภายในสถานที่ร่มมากกว่า 50 คน และห้ามเกิน 100 คน เมื่ออยู่ในสถานที่กลางแจ้ง เท่ากับว่ามาตรการห้ามชมการแข่งขันกีฬาในสนามกลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งด้วย
          โลกป่วยกว่า21ล.ตาย7.6แสน
          สำหรับสถานการณ์ระบาดทั่วโลกล่าสุดจนถึงเวลา  17.00  น. ตามเวลาในประเทศไทย  พบผู้ติดเชื้อใน 213 ประเทศ ยืนยันติดเชื้อสะสม 21,631,857 ราย เสียชีวิตสะสม 769,226 ราย รักษาหาย 14,342,071 ราย โดยสหรัฐมียอดผู้ป่วยสะสมมากเป็นอันดับ 1 จำนวน  5,529,789 ราย  เสียชีวิต 172,606 ราย บราซิลมาเป็นอันดับ 2 มีผู้ติดเชื้อ 3,317,832 ราย  เสียชีวิต 107,297 ราย อินเดีย อันดับ 3 มีผู้ป่วย 2,594,112 ราย  เสียชีวิต 50,122 ราย รัสเซีย อันดับ 4 มีผู้ติดเชื้อ 922,853 ราย เสียชีวิต 15,685 ราย  และแอฟริกาใต้ อันดับ 5  มีผู้ติดเชื้อ 583,653  เสียชีวิต 11,677 ราย
          ไทยติดเพิ่ม1มาจากสิงคโปร์
          ส่วนประเทศไทย ศูนย์บริหารสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19  (ศบค.) สรุปสถานการณ์ระบาดในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่  1 ราย เป็นชายไทยอายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ และเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) มาถึงเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ผ่านการคัดกรองโรคที่ด่านควบคุมโรค ผลตรวจพบเชื้อและเข้ารับการรักษาในจังหวัดสมุทรปราการ โดยยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมคงอยู่ที่ 3,377 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine  440 ราย และมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 3,194 ราย   ส่วนผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 125 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย  จัดอยู่ในอันดับที่ 114 โลก
          จับตาฟิลิปปินส์-อินโดฯน่าห่วง
          ศบค.ยังวิเคราะห์สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอาเซียน  โดยฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียยังน่าเป็นห่วง  เนื่องจากฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 4,351 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 2,600 ราย ขณะที่อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,345 ราย และผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 6,071 ราย   เวียดนาม มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 21 ราย ทำให้ ยอดสะสมอยู่ที่ 951 รายแล้ว  และยังคงมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 23 ราย คิดเป็นอัตราตาย 2.42%
          สธ.ย้ำไทยยังเสี่ยง-เน้นเฝ้าระวัง
          ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การที่ประเทศไทยไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศมาถึง 83 วัน ตั้งแต่สิ้นสุดวันที่ 16 สิงหาคม ไม่ได้หมายความประเทศไทยจะปลอดภัยจากโควิด หรือคลายกังวลได้ และความเสี่ยงของการเกิดโรค ไม่ได้อยู่ที่จำนวนวันใกล้หลักร้อย เหมือนประเทศอื่น ที่ท้ายสุดกลับมาพบการติดเชื้อภายในประเทศ  ซึ่งสิ่งที่เป็นความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 คือ 1.ผ่อนปรนกิจกรรมกิจการที่เสี่ยง หรือ ใกล้ชิดกัน 2.การกลับเข้ามาของผู้ที่เดินทางกลับประเทศของคนไทยตกค้างในต่างประเทศ หรือ แรงงานต่างด้าว ที่ต้องเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะเห็นได้ว่า ความเสี่ยง 2 จุดนี้ คล้ายกันกับประเทศอื่น ที่กลับมาระบาดอีกครั้ง หลังไม่มีระบาดในประเทศมานาน เช่น เวียดนาม เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์
          "การควบคุมการระบาดของโควิด-19 ไทยไม่ได้มีเป้าหมายเป็นศูนย์ แต่ต้องตรวจจับให้เสร็จเร็ว  การรักษาพยาบาลมีประสิทธิภาพ ไม่ให้ระบาดจนเกินศักยภาพ หรือขีดความสามารถของกระทรวงสาธารณสุข จะรับได้ อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ครบ มีพอรับมือกับโรค ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะควบคุมการระบาดให้สมดุล พอทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้"นพ.สุวรรณชัยกล่าว  และว่า  ส่วนการผ่อนปรนอนุญาตให้เปิดโรงเรียนแบบ 100% เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถประเมินได้ ต้องรอให้ครบ 14 วันก่อน โดยต้องมีการประเมินร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ

 pageview  1210917    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved