Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 13/08/2563 ]
เสี่ยงระบาดซ้ำสธ.ห่วงไทยเริ่มการ์ดตกปล่อยคนแออัด-ไม่ใส่แมส

ไทยพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 5 ราย กลับจาก "สหรัฐ-อินเดีย-อียิปต์" สธ. ห่วงหลายกิจกรรมกิจการเริ่มหย่อนมาตรการสาธารณสุข ไม่จำกัดคน- ไม่ใส่แมส-ไม่ลงทะเบียน"ไทยชนะ" ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกยังมี ผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตต่อเนื่อง พร้อมงัด มาตรการสกัดการระบาดอีกครั้ง อย่าง เมืองโอ๊คแลนด์ของนิวซีแลนด์ประกาศล็อกดาวน์รอบสอง ถึง 14 ส.ค. พร้อมบังคับใช้มาตรการ สธ.เคร่งครัด หลังพบผู้ติดเชื้อในประเทศครั้งแรกในรอบ 102 วัน ส่วนรัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย เสียชีวิต ทำสถิติใหม่ ขณะนักวิทยาศาสตร์ นานาชาติ ตั้งข้อสงสัย เป็นห่วงประสิทธิภาพ ความปลอดภัยวัคซีนโควิด-19 ที่รัสเซีย ประกาศความสำเร็จผลิตประเทศแรก โดยองค์การอนามัยโลก ประสานรัฐบาล "ปูติน" ขอตรวจสอบ
          เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ล่าสุด พบผู้ป่วยใหม่อีก 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทาง มาจากต่างประเทศ และเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้  ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,356 ราย  มีผู้ที่รักษาหายป่วยแล้วอีก 6 ราย ทำให้มีจำนวนสะสมของผู้ที่รักษาหายแล้ว 3,169 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 58 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 129 ราย
          ไทยพบป่วยใหม่อีก5ราย
          สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย แบ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นชายสัญชาติอเมริกัน อายุ 50 ปี เดินทางถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2563 เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้แบบทางเลือก (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพฯ และเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ ผู้ที่เดินทางกลับจากอินเดีย 1 ราย เป็น ชายไทย อายุ 18 ปี อาชีพนักศึกษา เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เข้าพักสถานที่ กักกันของรัฐในกรุงเทพฯ ตรวจพบเชื้อ วันที่ 10 สิงหาคม  อีก 3 ราย เป็นผู้ที่ เดินทางกลับจากอียิปต์ เป็นชายไทย อายุ 23, 24, และ 29 ปี อาชีพนักศึกษา เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เข้าพักสถานที่กักกันของรัฐที่จ.ชลบุรี ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ
          สธ.ห่วงระบาดไทยเริ่มการ์ดตก
          ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคกล่าวว่าแม้ไทยจะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่รับเชื้อในประเทศ มาระยะหนึ่งแล้ว แต่มีรายงานการระบาดครั้งใหม่ ในหลายประเทศที่เคยควบคุมโรคได้ดีมาก่อน เช่น เวียดนาม นิวซีแลนด์ ดังนั้น ทุกภาคส่วนยังต้อง เข้มงวดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม โรคต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับ การกักตัวและตรวจหาเชื้อ โดยเก็บตัวอย่าง จากโพรงจมูก และตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันสกัดกั้นการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาแพร่ให้คนในประเทศ
          "สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะนี้เริ่มพบหลายสถานที่และกิจการหย่อนมาตรการป้องกันโรค เช่น ปล่อยให้ผู้ใช้บริการเบียดเสียดใกล้ชิดและ ไม่สวมหน้ากากอนามัย นับเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ นอกจากนี้ ประชาชนบางส่วน ไม่ได้ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ผ่านแพลตฟอร์ม/แอพพลิเคชั่นไทยชนะ หากมีผู้ติดเชื้ออยู่ในสถานที่ เข้าใช้บริการก็จะยากนำผู้สัมผัสเข้าระบบเฝ้าระวังอาการ" นพ.โสภณกล่าว และว่าไม่ว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร ถ้าประชาชนยังเข้มมาตรการส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ พยายามเว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการ แพร่เชื้อ รวมทั้งหลายหน่วยงานต้องตรวจเข้มมาตรการคัดกรองก่อนเข้า-ออก พื้นที่ต่อไป หากทุกภาคส่วนร่วมมือ เริ่มจากจุดเล็กๆ คือคน และขยายสู่ ครอบครัว ชุมชน สังคม จะช่วยให้ประเทศไทยปลอดภัยและจำกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ หากพบผู้ติดเชื้อในประเทศอีกครั้ง
          ทั่วโลกติดเชื้อยังพุ่งไม่หยุด
          ขณะที่สถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกถึงเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ตามเวลาในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรวม 20,550,352 ราย รักษาหายแล้ว 13,464,634 ราย เสียชีวิต 746,596 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับ 1.สหรัฐอเมริกา 5,306,851 ราย เสียชีวิต 167,761 ราย 2.บราซิล 3,112,393 ราย เสียชีวิต 103,099 ราย 3.อินเดีย ติดเชื้อ 2,332,908 ราย เสียชีวิต 46,216 ราย 4.รัสเซีย ติดเชื้อ 902,701 ราย เสียชีวิต 46,216 ราย 5.แอฟริกาใต้ ติดเชื้อ 566,109 ราย เสียชีวิต 10,751 ราย ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 113
          โอ๊คแลนด์ล็อกดาวน์รอบสอง
          สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ยังคงน่าเป็นห่วง มี ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตต่อเนื่อง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ว่า ทางการประกาศใช้มาตรการล็อกดาว์ระดับ 3 ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 72 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 07.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ส่วนพื้นที่อื่นในประเทศให้ยกระดับมาตรการจากระดับ 1 ขึ้นมาเป็น 2 นอกจากนี้ ตำรวจยังตั้งจุดตรวจทั่วเมืองโอ๊คแลนด์ตั้งแต่ก่อนถึงเวลา เพื่อย้ำเตือนประชาชนว่าภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 3 นั้น ผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ได้ต้องแสดงเอกสารว่ามีที่อยู่ปัจจุบันคือเมืองโอ๊คแลนด์เท่านั้น และขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกลับมาให้บริการตรวจคัดกรองแบบไดรฟ์ทรูอีกครั้ง ซึ่งมีประชาชนรอใช้บริการเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนจำนวนมากไปกว้านซื้อสินค้ามากักตุน
          นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยังย้ำเตือนสถานประกอบการเอกชนทุกแห่งในประเทศต้องจัดทำคิวอาร์โค้ดลงทะเบียนด้านสาธารณสุขให้เสร็จภายใน 7 วัน นอกจากนี้ สถานอนุเคราะห์ผู้สูงอายุทุกแห่งในนิวซีแลนด์ให้อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ 3 วันด้วย โดยผู้ที่เข้าและออกได้มีเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้น
          สำหรับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในนิวซีแลนด์ ตามข้อมูลของสธ.ระบุจำนวน ผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 1,220 คน ยังคงเหลือ ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 22 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน
          ออสซี่ตายทุบสถิติมากกว่า20คน
          อีกด้านหนึ่งสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากออสเตรเลียว่า นายดาเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย แถลงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรัฐ ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย ยืนยันผู้ป่วยใหม่ 410 คน เพิ่มสถิติผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่เป็น อย่างน้อย 15,646 คน คงเหลือผู้รักษาอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 7,877 คน ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรียเพิ่มเป็นอย่างน้อย 267 คน หลังมีการยืนยันผู้เสียชีวิตอีก 21 คน ในวันเดียว เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ทั้งระดับรัฐและระดับประเทศ โดยเป็น ครั้งแรกด้วยที่ออสเตรเลียมีผู้เสียชีวิต รายวันจากโรคดังกล่าวมากกว่า 20 คน
          ทั้งนี้ แอนดรูว์สเชื่อว่าอัตราติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรียผ่านจุดวิกฤติที่สุดแล้ว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน น่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราแบบนี้ไปอีกระยะ และเตือนฝ่ายต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ว่า หากทางการปล่อยให้ทุกคนใช้ชีวิตปกติ ท่ามกลางสถานการณ์ไม่ปกติ เป็นไปได้มากที่รัฐวิกตอเรียต้องล็อกดาวน์ตลอด ปี 2564 จึงขอให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยตระหนักและรับผิดชอบต่อส่วนรวม
          ส่วนสถิติสะสมทั่วออสเตรเลียเกี่ยวกับโควิด-19 ตามรายงานโดยกระทรวง สาธารณสุขในกรุงแคนเบอร์รา ยืนยันผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 22,127 คน เพิ่มขึ้น 428 คน แบ่งเป็น 410 คนที่รัฐวิกตอเรีย และอีก 18 คน ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ รักษาหาย แล้ว 12,201 คน เพิ่มขึ้น 251 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 353 คน เพิ่มขึ้น 21 คน โดยมากกว่า 70% ของผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยอยู่ที่รัฐวิกตอเรีย
          รัสเซียตั้งชื่อวัคซีน'สปุตนิกV'
          ความคืบหน้าหลังรัสเซียประกาศความสำเร็จในการคิดค้นทดลองวัคซีนต้านโวรัสโควิด-19 สำเร็จ พร้อมผลิตใช้ในประเทศแล้วนั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ของรัสเซียว่า รัสเซียตั้งชื่อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติเป็นรายแรกแล้วว่า "สปุตนิกV" (Sputnik V) โดยตั้งชื่อตามดาวเทียมดวงแรกของโลก และถือเป็น ความสำเร็จของรัฐบาลรัสเซียในการเป็น ประเทศแรกที่ได้อนุมัติวัคซีน นายคิริลล์ ดมิทรีฟ หัวหน้ากองทุนความมั่นคงแห่งชาติ(อาร์ดีไอเอฟ) ของรัสเซียผยว่า รัสเซีย ได้รับคำร้องขอแล้วจากกว่า 20 ประเทศสำหรับวัคซีน 1 พันล้านโดสที่จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การเร่งผลิตวัคซีนของรัสเซียดังกล่าว ทำให้นักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมรัสเซียถึงยอมเสี่ยงเอาชื่อเสียงของประเทศชาติกับเรื่องนี้ ก่อนมีผลยืนยันทางวิทยาศาสตร์และความปลอดภัย
          นักวิทยาศาสตร์ห่วงปลอดภัย
          โดยสมาคมองค์การทดลองทางคลินิก ของรัสเซีย เรียกร้องรัฐบาลชะลอการอนุมัติใช้วัคซีนที่ยังไม่จบการทดลองระยะสาม ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายที่ต้องใช้อาสาสมัคร จำนวนมากและใช้เวลานานหลายเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจริง การเร่งอนุมัติไม่ได้ทำให้รัสเซียเป็นผู้นำพัฒนาวัคซีน แต่จะทำให้ผู้รับวัคซีนต้องตกอยู่ในอันตรายโดย ไม่จำเป็น ขณะที่นักวิชาการอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนของอังกฤษเตือนว่า อันตรายที่เป็นผลจากการใช้วัคซีนที่ยัง ไม่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจะยิ่งทำให้ปัญหาขณะนี้ไม่สามารถจัดการได้
          20ปท.แห่สั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้า
          นายคิริลล์ ดมิทรีฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) กองทุนลงทุนโดยตรงรัสเซียที่ให้ทุนสนับสนุนวิจัยวัคซีนเผยว่า แพทย์และครูในรัสเซียเริ่มรับวัคซีนที่พัฒนาเสร็จแล้ว การทดลองระยะสุดท้ายจะเริ่มวันนี้ ครอบคลุมคนจำนวนมากและคนหลายประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย ฟิลิปปินส์ ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ขณะนี้มีประมาณ 20 ประเทศสั่งซื้อวัคซีนรัสเซียล่วงหน้าแล้ว
          WHO ขอตรวจสอบสปุตนิกV
          ขณะที่นายทาริก ยาซาเรวิก โฆษกองค์การอนามัยโลก แถลงวันเดียวกันว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ต้องการตรวจสอบวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของรัสเซีย หลังจากรัสเซียประกาศอนุมัติวัคซีนโควิด-19 เป็นประเทศแรกของโลก ขณะนี้องค์การอนามัยโลกกำลังหารือและประสานรัสเซีย ถึงการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนสปุตนิกV ป้องกันโควิด-19 ที่รัสเซียพัฒนาขึ้น โดยสถาบันวิจัยกามาเลยา ร่วมกับกระทรวงกลาโหม องค์การอนามัยโลกเผยข้อมูลด้วยว่า ขณะนี้มีผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมด 168 ราย มีเพียง 28 ราย ที่คืบหน้าถึงขั้นทดลองกับมนุษย์ ขณะที่วัคซีนของรัสเซียยังอยู่ในระยะที่ 1 เท่านั้น

 pageview  1210917    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved