Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 12/10/2563 ]
รถไฟชนรถทัวร์พังยับดับ18ศพ-บาดเจ็บ42คน

กำลังจะไปทอดกฐินที่แปดริ้วรฟท.ล้อมคอกสั่งเร่งแก้ปัญหา
          เกิดอุบัติเหตุสยอง ม้าเหล็กขยี้รถบัสโดยสารขบวนทอดกฐินแหลกที่ จ.ฉะเชิงเทรา พบศพเกลื่อน 18 ศพ บาดเจ็บระนาว 42 คน กู้ภัยทยอยนำส่งโรงพยาบาล 4 แห่ง ผวจ.ฉะเชิงเทรา ประสาน ร.ฟ.ท.รุดตรวจสอบ- ช่วยเหลือ ยันคนขับรถไฟเตือนแล้ว ส่วนกรมขนส่งทางราง ล้อมคอกปัญหา เร่งแก้ไขจุดตัดถนน
          เมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุรถไฟขบวนบรรทุกสินค้า (ตู้คอนเทนเนอร์) ที่ 852 ระหว่างสถานีแหลมฉบัง-สถานีหัวตะเข้ ได้ชนกับรถบัสโดยสาร ทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนำพาผู้โดยสารประมาณ 60 คน เดินทางไปทำบุญ ทอดกฐิน ที่วัดบางปลานัก จ.ฉะเชิงเทรา โดยทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ บนจุดตัดทางรถไฟสถานีแขวงกลั่น หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจุดดังกล่าวมีสัญญาณเตือน แต่ไม่มีเครื่องกั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ และบาดเจ็บประมาณ 30 ราย  ภายหลังตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งเหตุ จึงรุดเข้าตรวจสอบและ ช่วยเหลือ
          ทั้งนี้ หน่วยกู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุในรถบัสคันดังกล่าว เปิดเผยว่า ภาพที่เห็นคือรถบัสและขบวนรถไฟที่ชนกันอยู่ในสภาพเสียหายยับเยิน มีเสียงผู้ได้รับบาดเจ็บร้องครวญครางขอความช่วยเหลือระงมไปทั่ว ขณะที่ผู้ซึ่งพอจะช่วยเหลือตัวเองได้ ต่างทยอยออกมาด้านนอกรถ บางคนก็พยายามช่วยผู้บาดเจ็บที่ยังติดอยู่ในรถออกมา ซึ่งครั้งแรกได้รับรายงานว่ามีเด็กเล็กภายในรถด้วย 2 คน แต่ปลอดภัยทั้งคู่ส่วนศพผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ได้ถูกทยอยเคลื่อนย้ายร่างออกมา
          สำหรับผู้เสียชีวิต 18 คน เป็นชาย 8 และหญิง 10 คน ในเบื้องต้นทราบชื่อแล้วบางส่วน ได้แก่ น.ส.รำไพ พาไธสง อายุ 33 ปี, น.ส.สุภัสสร แววอุ้ย อายุ 28 ปี, นายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี, นายปัญจพล ตรุลมถล อายุ 28 ปี, น.ส.เมลดา ภูครองผา, นางสุวีน นุ่มเวร, นางวิน โค ลัด (ยังไม่ทราบสัญชาติ), นางนันกัวลู(ยังไม่ทราบสัญชาติ), นางเพชร วรรณศรี, นายวิน โก โก (ยังไม่ทราบสัญชาติ), นายจอ ซัว(ยัง ไม่ทราบสัญชาติ), นายใคร ศรีเสนา, นางนิดาวรรณ คำมะลา, นายพวงพยอม และนายกล้า ส่วนผู้บาดเจ็บรวม 42 ราย เข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พุทธโสธร 19 ราย, รพ.บ้านโพธิ์ 10 ราย, รพ. คลองเขื่อน 6 ราย และ รพ.เกษมราษฎร์ 7 ราย
          ด้าน นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้น ครั้งนี้ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ รวมทั้ง ผู้เสียชีวิตที่พบในที่เกิดเหตุ 18 ราย ส่งไปชันสูตรศพและรอติดต่อญาติเพื่อมารับศพต่อไป ส่วนผู้บาดเจ็บที่มีกว่า 40 คน ได้ทยอยส่งไปยัง รพ. 4 แห่ง ประกอบด้วย รพ.พุทธโสธร รพ.เกษมราษฎร์ รพ.คลองเขื่อน และ รพ.บ้านโพธิ์ สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขณะที่บริเวณที่เกิดเหตุสามารถเปิดใช้เส้นทางรถไฟได้ 1 ราง ภายหลังมีการลำเลียงผู้ประสบเหตุ และเคลียร์พื้นที่แล้ว
          "ขณะนี้ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ ประสานแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เข้าดูแลผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด จนกว่าจะปลอดภัย ก่อนจะประสานญาติทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ สำหรับผู้โดยสารที่มากับรถบัสคันดังกล่าว ทราบว่าเดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ อยู่ระหว่างเดินทางไปทอดกฐินที่วัดในเขตต.บางเตย ห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 กิโลเมตร แต่ก่อนถึงต้องข้ามทางรถไฟ เป็นจุดตัดที่เกิดเหตุ โดยมีการประสานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อปรับทัศนวิสัยเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ซ้ำอีก" นายไมตรี กล่าว
          นายไมตรีกล่าวต่อว่า ในเบื้องต้น สิ่งที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ การทำลูกคลื่นให้รถชะลอความเร็วห่างจากทางรถไฟ 100 เมตร จัดการตัดต้นไม้บริเวณ ข้างทางก่อนถึงทางรถไฟ 30 เมตร เพื่อให้มองเห็นขบวนรถไฟที่วิ่งมา ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวได้พูดคุยกับทางผู้ว่าการการรถไฟฯ แล้ว โดยจะทำเครื่องกีดขวางทาง หรือเครื่องกั้นโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก โดยจะนำเคสที่เกิดขึ้นนี้เป็นบทเรียน เป็นโมเดลเพื่อดำเนินในทุกจุดเสี่ยงไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
          ขณะที่ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฉะเชิงเทรา รายงานว่าเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 20 ศพ และบาดเจ็บกว่า 30 ราย โดยตัวเลขยังไม่นิ่งเนื่องจากผู้บาดเจ็บมีทั้งอาการสาหัสและบาดเจ็บไม่มาก ทั้งหมดยังคงเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.
          ส่วนนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พร้อมด้วยนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และคณะ ลง พื้นที่ตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดย นายพิเชฐกล่าวว่า สภาพเส้นทางรถไฟกับจุดตัดที่เกิดเหตุนั้น บริเวณเสาโทรเลขที่ 51/1 มีป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น เป็นจุดตัดทางลักผ่าน (ถนนของ อบจ.ฉะเชิงเทรา) ช่วงเกิดเหตุมีรถโดยสารกีดขวางเส้นทาง ปิดทางประธานเดิม และทางกลางระหว่างสถานีเปรง-สถานีคลองบางพระ จึงเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ทางกรมขนส่งทางราง อยู่ระหว่างพิจารณาศึกษาและดำเนินการแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่จุดตัดทางรถไฟดังกล่าว
          ขณะเดียวกัน นายนิรุฒ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยทราบว่ามีการกู้ซากรถได้หมดแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บก็ถูกทยอยนำส่ง รพ.จึงอยู่ระหว่างเคลียร์เส้นทางจุดเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ในเบื้องต้น คาดว่าคนขับรถบัสคันเกิดเหตุ ไม่ได้ยินเสียงหวูดเตือนจากขบวนรถไฟ ประกอบกับจุดตัดดังกล่าวไม่มีไม้กั้นเพราะไม่ได้ขึ้นทะเบียนจุดตัดทางรถไฟ มีเพียงสัญญาณไฟ และป้ายบอกแจ้งเตือน ซึ่งการรถไฟฯ จะเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกราย
          ทั้งนี้ สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น ดังกล่าวได้รับทราบเบื้องต้นว่าทางพนักงานขับรถไฟขบวนนี้ ได้พยายามให้สัญญาณเตือนอย่างดีที่สุดแล้ว แต่รายละเอียดเพิ่มเติมนั้น คงต้องรอผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ขณะที่การเคลียร์พื้นที่จะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบกับการเดินรถไฟขบวนอื่นๆ
          วันเดียวกัน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าชนกับรถบัสโดยสารของประชาชนที่จะเดินทางไปทำบุญทอดกฐิน เหตุเกิดในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยนายกฯ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกำชับให้ ผวจ.ฉะเชิงเทรา หน่วยงาน บรรเทาสาธารณภัย หน่วยบริหารการแพทย์ฉุกเฉิน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และอำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุด
          นายอนุชา เปิดเผยด้วยว่า นอกจากนี้นายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป พร้อมกับแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชน ในการเดินทางช่วงวันหยุดและอยู่ในช่วงการทำบุญทอดกฐิน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีพายุเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางที่ลำบากขึ้นและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขอให้หน่วยงาน เช่น กระทรวงคมนาคม ตำรวจและทหาร ดูแลทั้ง เส้นทางคมนาคม ให้เดินทางได้อย่างสะดวก แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทาง
          นอกจากนั้น ทหารและพลเรือนซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต้องเตรียมความพร้อมสำหรับบรรเทาภัยหากเกิดขึ้นแล้ว จะได้รีบเข้าช่วยเหลือได้ทันที รวมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนใช้ถนน ขับขี่ยานพาหนะด้วยความไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน

 pageview  1210912    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved