Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 12/10/2563 ]
สธ.งัดแผนเฝ้าระวังเชิงรุกคุมเข้มแม่สอดสกัดโควิดเมียนมาบุกไทย

 หลังคนติดเชื้อลอบเข้ามาซื้อของจัดระเบียบรถขนส่งสินค้าป่วยใหม่2รายมาจากตปท.
          ไทยติดโควิด-19 ใหม่ 2 ราย มาจากซูดานใต้-ญี่ปุ่น กักตัวครบ 14 วัน ถึงตรวจพบเชื้อ ด้านสธ.แถลงกรณีคนขับรถส่งของชาวเมียนมาติดโควิดเข้าพื้นที่แม่สอด สสจ.ตากเร่งสอบสวนโรค หาผู้สัมผัสโดยส่งรถตรวจเชื้อพระราชทานคัดกรอง งัดระยองโมเดลสกัดระบาด ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษยกระดับเฝ้าระวังเข้มข้น  เตือนปชช.อย่าการ์ดตก และการนำคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายเข้ามา มีความผิดฝ่ายปกครองจัดการเด็ดขาด หมอหนูชี้ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย แต่ตรวจเจอ-คุมได้เร็วสำคัญกว่า ยันไทยเตรียมพร้อมทุกด้านแล้ว  ขณะที่รองผู้ว่าฯตากจัดระเบียบรถขนส่งสินค้าเมียนมาห้ามเข้าอ.แม่สอด กำหนดจุดขนถ่ายโอนสินค้า เข้าไทย ย้ำแรงงาน-คนขับใส่แมส เว้น ระยะห่าง
          เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข นพ.โอภาส  การย์กวินพงศ์  รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป ร่วมกันแถลงความคืบหน้ากรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นคนขับรถชาวเมียนมา ที่เข้ามาซื้อสินค้าในตลาดแม่สอด ทำให้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตากเข้าสอบสวน โรคเร่งด่วน
          กำชับรพ.ตาก-แม่สอดคุมระบาด
          โดยนพ.โอภาสกล่าวว่า จากนโยบายที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข สั่งให้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19  ทั้งเฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะคนขับรถไปมาระหว่างชายแดน ซึ่งไทยประสานประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด จะเห็นว่ามาตรการเชิงรุกมาสามารถตรวจจับสัญญาณการติดเชื้อได้  ในภาพรวมเราดำเนินการเข้มข้นมาต่อเนื่อง  ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุที่จ.ตาก ตนพูดคุยกับผอ.รพ.ตาก และรพ.แม่สอดแล้ว พร้อมกำชับการ เตรียมความพร้อมรองรับหากเกิดสถานการณ์ แพร่ระบาดขึ้น
          งัดระยองโมเดลขอปชช.ร่วมมือ
          ส่วนมาตรการต่อไปคือ เฝ้าระวังเชิงรุก ต่อเนื่อง จัดทีมสอบสวนจากกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ ส่งรถพระราชทานเก็บตัวอย่างเพื่อเฝ้าระวังคัดกรองโรค การตรวจเชิงรุก เพิ่มเติม การสนับสนุนชุดตรวจน้ำยา PCR และวัสดุอุปกรณ์ สนับสนุนเครื่องตรวจเลือดเพิ่มเติม เพื่อควบคุมให้ได้เร็วที่สุด โดยจะนำจ.ระยอง กรณีทหารอียิปต์เป็นตัวอย่างที่ประชาชนต้องร่วมมือกัน แต่หากประชาชนไม่สบายใจสามารถไปขอรับการตรวจฟรีได้ที่รถพระราชทานฯที่จะจัดจุดจอดไว้ตามที่จังหวัดกำหนด   อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่าการนำชาวต่างชาติผิดกฎหมายเข้ามา ในประเทศนั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เสี่ยง ติดเชื้อ และนำเชื้อโรคเข้ามาในประเทศ ทางฝ่ายปกครองทั้งทหารและตำรวจจะดำเนินการอย่างจริงจัง
          สธ.ยกระดับเฝ้าระวังเชิงรุก
          ด้านนพ.ธนรักษ์กล่าวว่า  เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะยังมีโอกาสพบผู้ป่วยในประเทศได้อีก สิ่งสำคัญไม่ใช่ความพยายามป้องกัน แต่สิ่งที่เราทำได้คือ ไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่ม มากขึ้นในประเทศ ต้องป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อของคนไทยเพิ่มเติมในพื้นที่ ซึ่งกระทรวงจะจัดระบบเฝ้าระวัง และดำเนินการ เชิงรุกให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้น ทั้งนี้ คนในพื้นที่ต้องไม่ตระหนกและเข้าใจการปฏิบัติตัวในสถานการณ์ต่างๆ ตนเชื่อว่า เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ถ้าทุกคนทบทวนการปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด หวังว่าเราจะเข้าใจเหตุการณ์และผนึกกำลังผ่านสถานการณ์นี้ไปได้
          สรุป3รายติดโควิดส่งรพ.เมียวดี
          นพ.โสภณกล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์โควิด-19 ฝั่งประเทศเมียนมาว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และพบผู้ที่ติดเชื้อบางรายที่จ.เมียวดีอยู่ฝั่งตรงข้ามอ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้ตรวจคัดกรองผู้ขับรถขนส่งสินค้า โดยรพ.แม่สอดแจ้งว่าเริ่มดำเนินการตรวจตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม  55 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ขณะที่วันที่ 9 ตุลาคม ตรวจ 60 ราย พบผู้ติดเชื้อเป็นพนักงานขับรถชาวเมียนมา 2 ราย แต่ไม่มีอาการป่วย จึงได้ส่งตัวกลับไปรักษาโรคที่รพ.เมียวดี และ วันที่ 10 ตุลาคม ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่พบว่าพนักงานขับรถชาวเมียนมา 2 รายที่ติดเชื้อนั้นเกี่ยวข้องกับ 2 โกดังคือ โกดังอารี และโกดังสินรุ่งเรือง จึงตรวจคัดกรองแรงงานในชุมชนดังกล่าว 74 ราย พบ 1 ราย ที่เป็นพนักงานขับรถชาวเมียนมามีผลบวก ขณะนี้สรุปแล้วพบว่ามี 3 รายติดเชื้อ และส่งตัวทั้งหมดไปรักษาที่รพ.เมียวดี เรียบร้อยแล้ว  นอกจากนี้ ยังให้คำแนะนำคนในพื้นที่ให้เคร่งครัดมาตรการสาธารณสุขโดยเฉพาะใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ขณะผู้สัมผัสพนักงานขับรถชาวเมียนมาทั้ง 3 ราย เข้ากักตัวใน state quarantine 14 วันเรียบร้อยแล้ว
          ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษรับมือ
          นายธนิตพลกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนายอนุทิน และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้ความสำคัญการดูแลการระบาดในพื้นที่ประเทศข้างเคียงมาตลอด ตนลงไปดูพื้นที่ตั้งแต่เริ่มระบาดที่รัฐยะไข่ เห็นการเตรียมความพร้อมของฝ่ายความมั่นคงที่ยกระดับการดูแลพื้นที่ชายแดนมาตลอด มีการป้องกันค่อนข้างหนาแน่น ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อม โดยตนไปประชุมกับโรงพยาบาลจ.ตาก และสาธารณสุขจังหวัดตากให้เตรียมความพร้อมเวชภัณฑ์และห้องปฏิบัติการ รองรับสถานการณ์จะเกิดขึ้น เรารับผู้ป่วยได้มากถึง 20-30 คน จากนั้น ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษมีผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆที่มีความชำนาญเรื่องระบาดวิทยาในพื้นที่เฉพาะชายแดน และขอให้กรมควบคุมโรคแจ้งมายังเขต เพื่อให้เตรียมความพร้อมให้เขตเข้ามาสนับสนุนหากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะนี้ถือเป็นการทดสอบระบบ โดบกรมควบคุมโรคดำเนินการทันทีและทันการณ์หลังเกิดเหตุขึ้น พร้อมตั้งภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังด้วย อาทิ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสามาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) เป็นต้น ที่ผ่านการอบรมเรื่องโควิด-19 ชายแดนเฉพาะ และสามารถสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้านให้เฝ้าระวัง และ แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ตลอดเวลา
          เตือนประชาชนการ์ดห้ามตก
          "ยืนยันว่าเราเตรียมความพร้อมรัดกุม การควบคุมโรคจากนี้อาจกระทบประชาชนบางกลุ่มบ้าง เพราะการควบคุมโรคและเรื่องเศรษฐกิจเราไม่สามารถเลือกข้างใดข้างหนึ่งได้ 100%  เพราะไม่สุดท้ายเราจะพังทั้งสองฝ่าย สิ่งสำคัญคือ ขอฝากประชาชนว่าคนไทยที่พยายามบอกว่าเราการ์ดไม่ตก แต่หน้ากากอนามัยตอนนี้ตก ไปอยู่ที่คาง ดังนั้น ในพื้นที่ที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนควรสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน และทำตามมาตรการของกรมอนามัย อีกทั้ง ตอนนี้ มีประเพณีกฐิน และลอยกระทงต่างๆ สามารถทำได้ แต่ขอให้รักษาระยะห่าง สวมหน้ากาก กลับบ้านอาบน้ำ และล้างมือ ตลอดเวลา" นายธนิตพล กล่าว
          หมอหนูไม่แปลกพบคนติดเชื้อ
          ที่รพ.ส่งเสริมสุขภาพ (รพ.สต.) ขนงพระใต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อชาว เมียนมาจากการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยเมียนมา บ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตากว่า ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย  ตนมองว่าการตรวจเจอและคุมโรคได้รวดเร็ว สะท้อนถึงประสิทธิภาพการทำงาน ดีกว่าการตรวจไม่เจอ และปล่อยให้แพร่เชื้อไปเรื่อยๆ ปัจจุบัน สธ.มีพร้อมทั้งประสบการณ์ องค์ความรู้ ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะยาที่สำรองไว้จำนวนมหาศาล สถานการณ์ตอนนี้ แตกต่างจากเมื่อหลายเดือนก่อนอย่างยิ่ง นอกจากนั้น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ทำงานด้วยความเข้มแข็ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีแผนและพร้อมเผชิญเหตุอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนคลายความกังวล
          จัดระเบียบรถส่งสินค้าแม่สอด
          ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ในพื้นที่จ.ตาก ที่พบชาวเมียนมาติดเชื้อ โควิด-19 เข้ามาในประเทศว่า นายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมตัวแทนหน่วยภาครัฐ และเอกชน ลงพื้นที่จัดระเบียบ รถขนส่งสินค้า โดยเปิดจุดรับส่งสินค้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อให้รถขนส่งสินค้า ไทย-เมียนมา มาแลกเปลี่ยนสินค้าบริเวณจุดดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้รถขนส่งสินค้าจากเมียนมา เข้ามารับสินค้าในอ.แม่สอด จ.ตาก อย่างเด็ดขาด
          นายศุภภิมิตรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อสองวันที่ผ่านมา โรงพยาบาลแม่สอด ออกพื้นที่ตรวจป้องกันไวรัสโควิด-19 กลุ่มพนักงานขับรถขนส่งสินค้าชาวเมียนมาประมาณ 100 ราย พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 2 ราย อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนโรคโรงพยาบาลแม่สอด ออกตรวจบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดพนักงานขับรถชาวเมียนมา บริเวณโกดังสินค้า และตลาด กว่า 70 ราย เช้าวันนี้จึงนำผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบหลังเพิ่มระดับความเข้มข้นป้องกัน เพื่อสกัดการระบาดรวมถึงบริหารจัดการการขนส่งสินค้าส่งออก/นำเข้า โดยกำหนดจุดจอดรถสินค้าที่มาจากเมียนมา เพื่อ ขนถ่ายสินค้า บริเวณสะพานมิตรภาพไทย- เมียนมาแห่งที่ 2
          แรงงานต้องใส่แมส-เว้นระยะ
          โดยการส่งสินค้าจากจุดเริ่มต้นถึงปลายทาง กำชับให้ดำเนินการจัดส่งโดยใช้รถบรรทุก และแรงงานของตนเองไปส่งบริเวณจุดที่กำหนด โดยผู้ที่ไปส่งสินค้า และแรงงานขนย้าย ให้สวมหน้ากากอนามัยและพกแอลกอฮอล์เจลล้างมือ รวมถึงเว้นระยะห่าง จัดกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวก ตรวจสอบ และจัดระเบียบขนส่งสินค้า และจะติดตามประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เพื่อปรับปรุงให้การขนส่งคล่องตัวมีประสิทธิภาพต่อไป ซึ่งจ.ตาก ประสานทางการเมียนมา และชี้แจงผ่านผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายแล้ว
          ไทยป่วย2กักตัว14วันเจอเชื้อ
          วันเดียวกัน เฟซบุ๊คศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19  ประจำวันว่า ไทยมีผู้ป่วยใหม่ 2 ราย  รวมจำนวนคนติดเชื้อสะสม 3,636  ราย แบ่งเป็น ติดเชื้อในประเทศ 2,445 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคที่รัฐกำหนด (Quarantine) 698 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,451 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 126 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย ทั้งนี้ ในจำนวน ผู้ป่วยสะสม 3,636 ราย รักษาในกรุงเทพ มหานคร และ จ.นนทบุรี 1,990 ราย ภาคเหนือ 98 ราย ภาคกลาง 692 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 112 ราย ภาคใต้ 744 ราย
          สำหรับผู้ป่วยใหม่ 2 รายนั้น เดินทางมาจาก 2 ประเทศ ได้แก่ ซูดานใต้ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 36 ปี อาชีพข้าราชการ ทหารข่าวเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 22 กันยายนถึงประเทศไทย รวมผู้เดินทางเที่ยวบินเดียวกัน 181 ราย มีผู้ติดเชื้อ 31 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.68 เข้าพักในสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 26 กันยายน วันที่ 4 ของการกักตัว ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ผลไม่พบเชื้อ ต่อมาวันที่ 4 ตุลาคม เป็น วันที่ 12 ของการกักตัว ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ผลตรวจไม่ชัดเจน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม วันที่ 14 ของการกักตัว ตรวจหาเชื้อ ครั้งที่ 3-4 ผลตรวจไม่ชัดเจน และวันที่ 9 ตุลาคม เป็นวันที่ 17 ของการกักตัว ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ เข้ารักษาใน รพ.พระมงกุฎเกล้า  และญี่ปุ่น 1 ราย  เพศหญิง สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 36 ปี เมื่อ วันที่ 24 กันยายน เดินทางถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 กันยายน เป็นวันที่ 5 ของการกักตัว ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ผลตรวจไม่พบเชื้อ และเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม วันที่ 11 ของการกักตัว ผลพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ เข้ารับรักษาใน รพ.เอกชน ในกรุงเทพฯ
          เมียนมาป่วยวันเดียว2พันครั้งแรก
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ของเมียนมาว่า กระทรวงสาธารณสุขของเมียนมารายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ยืนยันผู้ติดเชื้อใหม่ 2,158 คน เพิ่มขึ้น 697 คน เมื่อเทียบกับสถิติของวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคมผ่านมา และถือเป็นสถิติรายวันสูงสุด นับตั้งแต่การยืนยัน ผู้ป่วยคนแรก เมื่อวันที่ 23 มีนาคม อีกทั้ง ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรค ที่เมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 2,000 คน สถิติดังกล่าวทำให้จำนวน ผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 26,064 คน รักษาหายสะสมอย่างน้อย 7,050 คน เพิ่มขึ้น 312 คน ส่วนสถิติสะสมของ ผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 598 คน เพิ่มขึ้น 32 คน ทั้งนี้ วิกฤติไวรัสโควิด-19 ใน เมียนมาทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ ที่รัฐยะไข่ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันภูมิภาคย่างกุ้งกำลังเป็นศูนย์กลางการระบาด โดยเขตโอกกะละปาเหนือมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด อยู่ที่อย่างน้อย 1,273 คน ส่วนเมืองซิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 990 คน
          ทรัมป์ไม่เป็นพาหะนำเชื้อโรค
          ส่วนความคืบหน้าอาการป่วยของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ติดเชื้อไวรัสควิด-19 นั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตันว่า ทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ของร.ต.นพ.ฌอน คอนลีย์ หัวหน้าคณะแพทย์ประจำตัวผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ระบุ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าตรวจคัดกรองแบบพีซีอาร์ ที่เป็นการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูก เมื่อช่วงเช้า วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น และผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการระบุชัดเจน ว่าผู้นำสหรัฐไม่มีความเสี่ยงเป็นพาหะนำโรคแก่บุคคลอื่น อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตกับการที่ร.ต.นพ.คอนลีย์ไม่ใช้ คำว่า ผู้นำสหรัฐ ปลอดเชื้อ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังปฏิเสธที่จะยืนยันว่าทรัมป์หายดีแล้วจริงหรือไม่
          อินเดียติดหลักหมื่นสะสม7.5ล้าน
          ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศวันเดียวกันนี้ เกือบ 75,000 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 7.5 ล้านคน เป็นรองแค่สหรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสะสมที่ 7.67 ล้านคน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในอินเดีย อาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากการตรวจหาไวรัสในอินเดียที่มีประชากร 1,300 ล้านคน ต่ำกว่าในหลายประเทศ  จึงเป็นไปได้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการหลายเท่า  สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในอินเดียนั้น นับถึงวันอาทิตย์ อยู่ที่ 108,334 ราย ต่ำกว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐและอีกหลายประเทศที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ในสหรัฐมีผู้เสียชีวิต 214,000 ราย ขณะที่บราซิลมีผู้ติดเชื้อไวรัสน้อยกว่าอินเดีย 2 ล้านคน แต่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 150,000 ราย ซึ่งปัจจัยที่เป็นไปได้คือ การที่อินเดียมีประชากรที่อายุค่อนข้างน้อย มีภูมิคุ้มกัน และการรายงานตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริง การที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งสูงเกิดขึ้นขณะที่รัฐบาลยังเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเดินหน้า หลังได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์เข้มงวดเมื่อเดือนมีนาคม
          โควิดโลกสะสมกว่า37ล้านคน
          เว็บไซต์ www.worldometer.info รายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน 213 ประเทศทั่วโลกในรอบ 24 ชั่วโมงว่า มีผู้ติดเชื้อสะสม 37,508,813 ราย เสียชีวิตสะสม 1,078,011 ราย รักษาหายสะสม 28,148,257 ราย ซึ่งสหรัฐยังคง มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นอันดับที่ 1 ของโลก โดยมีผู้ติดเชื้อ 7,945,505 คน เสียชีวิต 219,282 คน  อันดับ 2 ยังคงเป็นอินเดีย มีผู้ป่วยรวม 7,053,806 คน  เสียชีวิตรวม 108,371 คน  อันดับ 3 บราซิล มีผู้ติดเชื้อ 5,091,840 คน  เสียชีวิต 150,236 คน อันดับ 4 รัสเซีย ติดเชื้อ 1,298,718 คน เสียชีวิต 22,597 คน อันดับ 5 โคลอมเบีย ติดเชื้อ 902,747 คน เสียชีวิต 27,660 คน ไทยอยู่ในอันดับที่ 140 มีคนติดเชื้อ 3,636 คน เสียชีวิตคงที่ 59 คน รักษาหายแล้ว 3,451 คน

 pageview  1210912    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved