Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 14/12/2563 ]
หวันโควิดระบาด สั่งเลิกคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ผู้จัดไม่สน-เดินหน้าแสดงต่อ

 รองผู้ว่าฯเมืองโคราชจี้ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่พบป่วยใหม่17รายมาจากตปท.ศบค.สรุปสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน พบป่วยใหม่ 17 ราย โดย 9 ราย เป็นหญิงไทยจากเมียนมา อีก 8 กลับจากตปท.ไม่พบติดเชื้อในประเทศ ด้านผู้ว่าฯโคราชสั่งยุติคอนเสิร์ต "บิ๊กเมาน์เท่น" วันสุดท้าย หลังวิจารณ์ร้องเรียนสนั่นโซเชียลถึงความแออัดของคนเข้าชมและบางส่วน ไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขสกัดโควิด ระบาด อีกทั้งยังพบสาว อายุ 43 ปี มีโรคประจำตัวกล้ามเนื้ออ่อนแรง มาจากเชียงใหม่ พร้อมเพื่อนอีก 7 คน แล้วเป็นไข้ระบบหายใจ ล้มเหลว รมว.สาธารณสุข เฟซบุ๊คอัดยับงาน ดนตรีดังที่เขาใหญ่การ์ดตกเละเทะ ไม่เว้นระยะห่างและไม่ใส่แมส สธ.เผยสสจ.เตือนผู้จัดไปแล้ว แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ จึงเสนอให้จังหวัดยกเลิก
          เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิชาญ ปาวัน นายแพทย์เชี่ยวชาญ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงรายงานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ถึงสถานการณ์ ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยว่า ผู้ป่วยรายใหม่ วันเดียวกันนี้มี 17 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าพักในสถานที่ กักกันที่รัฐจัดให้ ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,209 ราย  ส่วนผู้ที่รักษาหายแล้วเพิ่ม 8 ราย จึงมียอดสะสมผู้ที่รักษาหายแล้ว 3,923 ราย มียอดสะสมผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 60 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 226 ราย ส่วนการติดเชื้อในกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ยังคงที่ 6 ราย ขณะนี้ต้องรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการในกลุ่มผู้สัมผัสให้ครบ 3 ครั้ง และยังไม่พบการกระจายไปในกลุ่มอื่นๆ
          ไทยป่วยใหม่17คนมาจากเมียนมา9
          สำหรับผู้ป่วยใหม่ 17 ราย ได้แก่ 1.ผู้ที่มาจากเมียนมา 9 ราย ทั้งหมดเดินทาง ถึงมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม แบ่งเป็น 4 ราย อยู่ในสถานกักกันโรคระดับ จังหวัดในจ.เชียงราย เป็นหญิงไทย อายุ 19, 27, 29, 30 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิง ส่วนอีก 5 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 22, 32, 33, 34, 35 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิง เป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (พียูไอ) ที่ด่านผ่านแดน โดยทั้ง 9 คน ถูกตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม และเข้ารักษาที่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทั้งนี้ มี 4 รายที่มีอาการสูญเสียการรับกลิ่น
          ทั้งนี้ อีก 8 ราย มาจากสหรัฐอเมริกา 2 ราย รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 69 ปี อาชีพแม่บ้าน รายที่ 2 เป็นหญิงสัญชาติอินเดีย อายุ 72 ปี อาชีพวิศวกร มาจาก สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย รายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 54 ปี รายที่ 2 เป็นชายสัญชาติสวิส อายุ 57 ปี ผู้ที่มาจากปากีสถาน 1 ราย เป็นชายสัญชาติปากีสถาน อายุ 45 ปี ผู้ที่ มาจากสหราชอาณาจักร 1 ราย เป็นชายสัญชาติอังกฤษ อายุ 71 ปี มีโรคประจำตัวผู้ที่มาจากสหราชอาณาจักร 1 ราย เป็นชายสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 65 ปี เป็น นักท่องเที่ยว  ผู้ที่มาจากญี่ปุ่น 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 22 ปี อาชีพรับจ้าง ผู้ที่มาจากบาห์เรน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 20 ปี อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว มีประวัติติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม แต่ไม่มีอาการ
          6บุคลากรแพทย์ติดกันเองในASQ
          นพ.วิชาญยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มบุคลากร การแพทย์ติดไวรัสโควิด-19 รวม 6 รายว่า จากการสอบสวนโรคโดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร ได้ข้อสรุปสอดคล้องกันว่า กรณีของบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อนั้น เป็นการติดเชื้อในสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) ไม่ใช่ติดในโรงพยาบาล เป็นลักษณะติดกันเองภายในกลุ่ม เนื่องจากมีการใช้ชีวิตร่วมกันใกล้ชิด และยังอยู่ในวงจำกัดไม่กระจายไปยังผู้อื่น ผลตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 51 ราย 2 ครั้งพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย คือ รายที่ 6 ส่วนที่เหลือไม่พบติดเชื้อ และยังอยู่ในระบบการดูแล กักตัวให้ครบ 14 วัน และจะตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 อีกครั้งตามมาตรฐาน
          ชี้โอกาสแพร่เชื้อน้อย-คอนโดไม่เสี่ยง
          ในส่วนผู้ป่วยรายที่ 6 ตามที่มีรายงาน ไทม์ไลน์ชี้ชัดว่ากระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นนั้น มีโอกาสน้อย เพราะทันทีที่ตรวจเจอเชื้อก็นำเข้ากักตัวที่โรงพยาบาล ส่วนข้อกังวลเรื่องคอนโดมิเนียมที่ผู้ป่วยพักอาศัยนั้น จากการสอบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยรายนี้อยู่ในคอนโดฯ ช่วงสั้นๆ ระหว่างรอผลตรวจในห้องปฏิบัติการและทันทีที่ทราบผลตรวจก็นำเข้าสู่การรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยละเอียดไม่พบผู้ใดสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ แต่ยังจะเฝ้าระวังและสอบสวนโรคเพิ่มเติมต่อไป
          "ผู้ป่วยรายที่ 6 อาศัยในคอนโดฯ ตอนนั้นยังจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงผลตรวจแล็บครั้งแรก ยังไม่พบติดเชื้อ และยังไม่ใช่ผู้ป่วย พอตรวจสอบโดยละเอียดไม่ได้ไปคลุกคลีกับใครที่คอนโดฯ จึงไม่มีใครเสี่ยงเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ทางคอนโดฯได้ทำความสะอาด ลิฟต์ โถงทางเดิน ห้องพักผู้ติดเชื้อเรียบร้อยแล้ว ยืนยันยังไม่มีรายงานพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม ไม่จำเป็นต้องกักตัวผู้ที่พักอาศัย ในคอนโดฯ ใช้ชีวิตได้ปกติ" นพ.วิชาญกล่าว
          แม่สายติดเชื้อโยงท่าขี้เหล็ก58คน
          ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์ระบาดของไวรัส โควิด-19 ถึงกรณีรับคนไทยจากจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้าประเทศไทย ด้านอ.แม่สาย จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อที่ 9 ราย ตามที่มีรายงานนั้น ยืนยันทั้งหมดเข้าสู่ระบบกักกันโรคแล้ว ไม่ได้เข้าไปในชุมชน ฉะนั้นความเสี่ยงของอ.แม่สาย ไม่ได้เพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมกรณีจ.ท่าขี้เหล็ก เรามีผู้ติดเชื้อ 58 คน ติดในประเทศเพียง 2 รายคือ ที่จ.สิงห์บุรี และจ.เชียงราย ซึ่งไม่แพร่กระจายต่อ
          ยกระดับมาตรการเข้มแนวชายแดน
          "จากกรณีจ.ท่าขี้เหล็กเมื่อดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา 2 สัปดาห์ พบจุดเสี่ยงของไทยคือ ชายแดน โดยเฉพาะกิจกรรมสีเทาที่ผิดกฎหมาย ทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องลักลอบเข้าประเทศ และเมื่อตรวจพบเชื้อ ก็มักปกปิดข้อมูลที่เป็นจริง ขณะนี้เราดำเนินมาตรการเข้มงวดขึ้นทุกแนวชายแดน ไม่ใช่เฉพาะชายแดนเมียนมา เช่น เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่จ.อุบลราชธานีจับชาวลาวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 61 คน นำเข้าสู่ระบบการกักกันในห้องขังเรียบร้อย ผลตรวจเป็นลบ และจะผลักดันกลับประเทศต่อไปตามขั้นตอน" นพ.โอภาสกล่าว
          กำชับปีใหม่เที่ยวสนุกห้ามการ์ดตก
          และว่า จากสถานการณ์ในประเทศไทยที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมาค่อนข้างนาน ทำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยลดน้อยลง ไม่เคร่งครัดการเว้นระยะห่าง และไม่ค่อยลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ รวมถึงมีเฟคนิวส์ค่อนข้างมาก ทำให้ประชาชน ตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม เป็นบทเรียนอย่างดี ที่จะทำให้เกิดการร่วมมือของภาครัฐภาค เอกชน ประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งความเข้มแข็งของคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดโดยผู้ว่าฯสามารถระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตรวจติดตามผู้สัมผัสการรักษาและการสื่อสารกับประชาชนได้อย่างดี ขณะที่ระยะหลังประชาชนตื่นตัวสวมหน้ากากมากขึ้น และแจ้งข้อมูลเบาแส คนลักลอบเข้าเมือง ทำให้หลายกรณีเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมกำกับได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ขอให้คงมาตรการที่เอาไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะได้ท่องเที่ยวในประเทศอย่างปลอดภัย ขอย้ำว่าการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ยังต้องทำต่อเนื่อง
          ชี้ข่าวปลอมสาวป่วยจากคอนเสิร์ต
          ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวในโซเชียลมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการเข้าไปเที่ยวงานเทศกาลเขาใหญ่ รวมถึงมาตรการดูแลการจัดงาน นพ.โอภาสกล่าวว่า จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นเรายังไม่พบ ผู้ติดเชื้อจากจ.เชียงใหม่ หรือที่อื่นไปร่วมคอนเสิร์ต อ.ปากช่อง  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีหญิงอายุ  43 ปี พร้อมเพื่อน 7 คน เดินทาง จากจ.เชียงใหม่ โดยเครื่องบินไปสนามบินดอนเมือง และนั่งรถตู้ไปงานคอนเสิร์ต อ.ปากช่อง และพักที่ปากช่อง ซึ่งหญิงรายนี้ มีโรคประจำตัวคือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้เกิดอาการทางเดินหายใจและเกิดหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ขณะนี้รักษาที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ส่วนที่กังวลว่าหญิงรายดังกล่าวจะติดเชื้อไวรัส โควิด-19 หรือไม่ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งหญิงดังกล่าว เพื่อนอีก 7 คน และคนขับรถตู้ ผลตรวจเป็นลบ ฉะนั้นการแชร์ข่าวพบผู้ติดเชื้อ 8 คน ไม่เป็นความจริง ขอประชาชนอย่าแชร์ต่อ เพราะเข้าข่ายข่าวปลอม อาจผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้
          ผู้ว่าฯ มีมติสั่งปิดพบหญิงเป็นไข้
          เวลา 12.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เรียกผู้บริหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม ป้องกันไวรัสโควิด-19 จนถึงตัวแทนผู้จัดงาน คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่นเขาใหญ่ ที่สนามกอล์ฟดิโอเซี่ยน เขาใหญ่ ถนนธนะรัชต์ กม.5 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม เข้าหารือ หลังมีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์การดูแลการจัดงานครั้งนี้  โดยเฉพาะความห่วงใยต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อพบว่า การจัดงานวันแรก 12 ธันวาคม มีประชาชนจำนวนมากเข้าชมงานอย่างแออัด เบียดเสียดกัน ไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ ถึงแม้นมีบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลมาตรวจคัดกรองเข้มข้นก็ตาม
          สั่งยกเลิกคอนเสิร์ต'บิ๊กเมาน์เท่น'
          หลังประชุมนายวิเชียรแถลงว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมามีมติเอกฉันท์ให้สั่งยุติการแสดงคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ในคืนสุดท้ายนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา พบหญิงอายุ 43 ปี มีอาการไข้ และมีโรคประจำตัวอยู่เดิม กล้ามเนื้ออ่อนแรง ส่งเข้ารักษาตัวต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา และทราบว่ายังมีอีก 7 คน มาจากจ.เชียงใหม่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่สุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อ ไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีสถานการณ์น่าเป็นห่วง และเกรงจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
          สำหรับงานบิ๊กเมาน์เท่น จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เป็นครั้งที่ 11 ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย มีการจำกัดจำนวนคนเข้างานเพียง 50,000 คน จากเดิมในพื้นที่กว่า 500 ไร่ รองรับได้ถึง 150,000 คน เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 (ศบค.)
          ยกคำอุทธรณ์-ห้ามจัดงานเหมือนเดิม
          ต่อมา ทางผู้จัดงาน ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม ได้เดินทางเข้าไปหารือกับทางจังหวัดเพื่อหาแนวทางในการจัดงานต่อให้จบ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรค จ.นครราชสีมา ได้พิจารณาคำร้องอุทธรณ์ของผู้จัดงานบิ๊กเมาน์เท่น โดยยืนยันคำสั่งยกเลิกการจัดคอนเสิร์ตเช่นเดิม เพราะไม่มั่นใจ มาตรการที่ผู้จัดคอนเสิร์ตอุทธรณ์มา คล้ายกับ มาตรการเดิมที่เคยเสนอมาแล้ว เกรงว่าจะเข้าลักษณะเดิม ดังนั้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิดจึงยกคำขอทบทวนคำสั่ง โดยให้ยึดประกาศเดิม คือ ปิดพื้นที่และไม่ให้มีการแสดงคอนเสิร์ตในคืนนี้ในทุกเวที
          ยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับ การเมือง แต่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด ส่วนการชดเชยให้ผู้ซื้อบัตรเข้าชมงานนั้น ยังไม่ได้หารือประเด็นนี้ คณะกรรมการฯ พิจารณาประเด็นป้องกันการแพร่ระบาดโควิด เท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          รองผู้ว่าฯประสานตร.เอาผิดผู้จัดฝ่าฝืนกม.
          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงนาม คำสั่งที่ นม 0032.008/33797 ถึงผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เรื่องให้บังคับใช้กฎหมายกรณีการแสดงคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival ระบุ ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมามีคำสั่งให้ปิดพื้นสถานที่ สนามกอล์ฟ ดิโอเชียน เขาใหญ่ อ.ปากช่อง ที่ในการใช้จัดคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival วันที่ 13 ธ.ค.2563 เวลา 14.00 น.- วันที่ 14 ธ.ค.2563 เวลา 14.00 น. เนื่องจากเป็นสถานที่มีโอกาสเสี่ยงแพร่โรคติดต่ออันตราย  เนื่องจากหลังออกคำสั่ง ปิดสถานที่ข้างต้นแล้ว ยังคงพบว่ามีการฝ่าฝืนคำสั่งปิดพื้นที่ โดยยังมีการแสดงคอนเสิร์ตอยู่ จ.นครราชสีมา จึงขอให้ท่านดำเนินการบังคับใช้กฎหมายแก่บุคคล ผู้เกี่ยวข้องในการจัด คอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival ต่อไป
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหัวค่ำยังคงมี การเปิดแสดงคอนเสิร์ตตามปกติต่อไป มีศิลปินนักร้องขึ้นเวทีอย่างต่อเนื่อง โดยมีแฟนเพลง ที่ซื้อบัตรไว้ล่วงหน้าทยอยเข้าชมงานตลอดเวลา และไม่สนใจคำสั่งปิดของผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาแต่อย่างใด โดยผู้จัดงานได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจวัด อุณหภูมิ และถือป้ายเตือนให้ผู้มาร่วมงานให้สวมหน้ากาก รวมถึงใช้เชือกฟางตีตารางให้เว้นระยะห่างนั่งชมเป็นแถวอย่างเคร่งครัด
          อนุทินซัดบิ๊กเมาน์เท่นการ์ดตกอื้อ
          ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คระบุถึงการจัดงานดนตรีที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ระหว่างการจัดงานสองวัน ตนได้รับข้อแนะนำ และความห่วงใยจากหลายคนหลายฝ่าย โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และปากช่อง หลายวันก่อนงานจะเริ่ม ตนได้แจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ให้คำแนะนำผู้จัดงาน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในงาน และให้คำแนะนำผู้จัดงาน ผู้ร่วมงานด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแจ้งให้ทราบว่าผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่ ใส่หน้ากากอนามัย แต่มีจำนวนไม่น้อยไม่ใส่  ที่ปฏิบัติไม่ได้เลยคือ การรักษาระยะห่าง เพราะผู้ร่วมงานมีจำนวนมาก
          เตือนแล้วไม่ใส่แมส-ไม่เว้นระยะห่าง
          "ทั้งนี้ ผมสั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด ทราบถึง การปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขภายในงาน และ เสนอแนะให้แก้ปัญหาที่พบในการจัดงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมแล้ว ทั้ง ไม่ใส่แมส ไม่เว้นระยะห่าง เพื่อป้องกัน ควบคุม การระบาดของไวรัสโควิด-19 นโยบายกระทรวง สาธารณสุข ไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรม แต่ผู้จัดต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขให้ได้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม" นายอนุทินระบุ

 pageview  1210903    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved