Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 09/12/2563 ]
กรมวิทย์ เตือน ห้ามรับประทาน-ห้ามจับ หมึกสายวงน้ำเงิน พิษร้ายอันตรายถึงตาย

 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เตือนระวังอันตรายจากหมึกสายวงน้ำเงินหรือหมึกบลูริง (Blueringed octopus) มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก มีสารพิษเรียกว่าเตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งเป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า รุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่า ทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส รับประทานเพียงแค่ 1 มิลลิกรัม ก็ทำให้เสียชีวิตได้ เน้นย้ำห้ามนำมารับประทานเด็ดขาดถึงแม้จะนำไปทำให้สุกด้วยความร้อน ปิ้ง ย่าง ทอดหรือต้มก็ไม่สามารถทำลายพิษได้ และห้ามจับหรือสัมผัสเพราะหากถูกกัดก็อาจได้รับพิษเช่นกัน
          นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า หมึกสายวงน้ำเงินหรือหมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) เป็นหมึกยักษ์ จำพวกหนึ่งแต่มีขนาดเล็กตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัว ประมาณ 4-5 เซนติเมตร มี 8 หนวด แต่ละหนวดยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร หมึกสาย วงน้ำเงินมีจุดเด่นที่ต่างจากหมึกทั่วไป ตรงที่มีลวดลายเป็นวงแหวนสีน้ำเงิน กระจายตามลำตัวและหนวด ซึ่งจะตัดกับสีของลำตัวที่ออกเป็น สีเหลืองน้ำตาลอย่างชัดเจน วงแหวน สีน้ำเงินเหล่านี้สามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม ทั่วโลกพบหมึกสายวงน้ำเงินทั้งหมดประมาณ 4 ชนิด สำหรับในประเทศไทยมีรายงานการพบหมึกสายวงน้ำเงินสกุล Hapalochlaena maculosa ในน่านน้ำไทยทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย หมึกสายวงน้ำเงินมีสารพิษที่มีความร้ายแรงมากผสมอยู่ในน้ำลาย ผู้ที่ถูกกัดอาจตายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง จึงนับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำ ที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก สารพิษของหมึกสายวงน้ำเงินนั้น เรียกว่า เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งเป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า ทั้งนี้เตโตรโดท็อกซินที่พบทั้งในหมึกสายวงน้ำเงินและปลาปักเป้าไม่ได้ถูกสร้างจากภายในตัว ของพวกมันเอง เพราะสัตว์เหล่านี้ไม่มียีนที่ควบคุมการสร้างพิษนี้ มีการศึกษาพบว่าพิษนี้สร้างจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น แบคทีเรียในวงศ์ Vibrionaceae, Pseudomanas sp., Photobacterium phosphorium ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าตามบัญชีแนบท้ายพระราชกฤษฎีกา "ห้ามมิให้ นำสัตว์น้ำบางชนิดเข้ามาใน ราชอาณาจักร พ.ศ.2547"
          ทั้งนี้ เตโตรโดท็อกซิน เป็นพิษที่มีผลต่อระบบประสาท โดยปริมาณที่มนุษย์รับประทานแล้วเสียชีวิตคือ ประมาณ 1 มิลลิกรัม ซึ่งมีความรุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นพิษนี้ทน ความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงไม่สามารถทำลายพิษได้ด้วยการใช้ความร้อนปกติในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังไม่มียาแก้พิษ ผู้ป่วยที่ได้รับพิษเตโตร โดท็อกซินมีอัตราตาย สูงถึง 50-60 เปอร์เซ็นต์ และในกรณีที่ถูกหมึกสายวงน้ำเงินกัด ซึ่งพิษที่เกิดจากกัดจะเกิดอย่างรวดเร็วภายใน 5 นาทีหลังถูกกัด เริ่มจาก มีอาการชาบริเวณริมฝีปาก ลิ้น ต่อมา ชาบริเวณใบหน้า แขนขาและ เป็นตะคริวในที่สุด น้ำลายไหล คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ซึ่งอาการปวดท้องจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นกล้ามเนื้อจะเริ่มทำงานผิดปกติ อ่อนแรง ในผู้ป่วย ที่ได้รับพิษปริมาณมากระบบประสาทส่วนกลางจะไม่ทำงาน หายใจไม่ออกเนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอดได้ ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 4-6 ชั่วโมง แต่ก็มีรายงานการเสียชีวิตเร็วที่สุดหลังจากได้รับพิษไปเพียง 20 นาทีเท่านั้น
          อย่างไรก็ตาม การปฐมพยาบาล เบื้องต้นต้องหาวิธีนำอากาศ เข้าสู่ปอด เช่น เป่าปาก จากนั้นต้องรีบนำส่งแพทย์โดยด่วน เพื่อ ใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้าช่วยชีวิตเป็นผล ผู้ป่วยจะฟื้นเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง เว้นแต่ว่าจะขาดอากาศนานเกินไปจนทำให้สมองตาย สำหรับผู้ที่ได้รับพิษจากหมึกสาย วงน้ำเงินกัด ควรทำการปฐมพยาบาล ในทันทีหลังถูกกัด โดยใช้เทคนิคการกดรัดและตรึงอวัยวะส่วนนั้น ไม่ให้เคลื่อนไหว เพื่อทำให้พิษ ไม่แพร่กระจายเข้าระบบไหลเวียนโลหิต โดยใช้ผ้าพันจากอวัยวะส่วนปลายไล่มาจนถึงบริเวณเหนือแผลที่ถูกกัด ถ้าเป็นบริเวณแขนหรือขาให้ใช้วัสดุไม้ดามไว้ด้วย ถ้าถูกกัดบริเวณลำตัวในกรณีที่พันได้ให้พันด้วย แต่อย่าให้แน่นจนทำให้หายใจลำบาก และไม่ควรกรีดปากแผลที่ถูกกัด เพราะจะทำให้พิษกระจายมากขึ้น เทคนิคนี้เป็นการซื้อเวลาเพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นก่อนนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
          ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีห้องปฏิบัติการพิษวิทยาที่สามารถตรวจสอบความเป็นพิษของหมึกสายวงน้ำเงินได้ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการส่งตรวจ ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค จึงได้จัดทำสื่อเผยแพร่ในรูปแบบอินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่ายและเผยแพร่ ผ่านในหลายช่องทาง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ที่จะนำไปใช้ในการสังเกตลักษณะทางกายภาพของหมึกสายวงน้ำเงิน ที่มีจุดเด่นที่สำคัญสีสันลำตัว คล้ายวงแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วงและสามารถเรืองแสงได้เมื่อคุกคามหรือรบกวน ดังนั้นห้ามนำมา รับประทานเด็ดขาด ถึงแม้จะนำไปทำให้สุกด้วยความร้อน ปิ้ง ย่าง ทอดหรือต้มก็ไม่สามารถทำลายพิษได้ และห้ามจับหรือสัมผัสเพราะหากถูกกัดก็อาจได้รับพิษเช่นกัน

 pageview  1210905    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved