Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 04/12/2563 ]
เชียงรายเจออีก4คนจากฝั่งท่าขี้เหล็กป่วยโควิด

 สธ.ชี้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงพะเยา-พิจิตร-พิษณุโลกป่วนปิดรร.กักตัวกลุ่มเสี่ยงสัมผัสมท.สั่งทุกจว.เข้มหนีเข้าเมือง
          ไทยติดโควิดเพิ่ม 13 ราย รวบ 6 สาว ลอบข้ามแดนผ่านทางธรรมชาติ สธ.ยันคุมสถานการณ์ได้ ไม่ระบาดรอบสอง เผย 10 สาวติดเชื้อจากสถานบันเทิงในเมียนมา  เร่งตรวจกลุ่มสัมผัส 699 ราย เสี่ยงสูง 175 คน สั่งอสม.ลุยพื้นที่เคาะประตูบ้าน สอบสวนโรคในชุมชน ย้ำใครรู้ตัวไปพื้นที่เสี่ยงหรือกลับจากเมียนมาให้แสดงตัวต่อจนท.เพื่อตรวจคัดกรองกักตัว ส่วนด่านแม่สายเปิดรับคนไทยฝั่งท่าขี้เหล็กกลับ สแกนเข้ม เจอรายใหม่ 4 ราย ทำงานที่เดียวกับ ลอตแรก ปัดล็อกดาวน์ 6 จว.พบคนป่วย "อนุทิน" ยังฉุน พวกหนีเข้าเมืองพาเชื้อเข้าปท. ชี้เปิดรับคนตกค้างฝั่งท่าขี้เหล็กกลับ เพื่อเข้าระบบตรวจคัดกรอง มท.สั่งทุกจว.เข้ม 4 มาตรการสกัดระบาดช่วงปีใหม่ ผลจากการพบ 10 สาวติดเชื้อ ทำรร.ในพะเยาพิจิตร-พิษณุโลก หยุดเรียนระนาว
          ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ส่วนใหญ่ตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,039 ราย  รักษาหายเพิ่ม 10 ราย  มียอดสะสม ผู้ที่รักษาหายแล้ว 3,832 ราย ผู้เสียชีวิต ยังอยู่ที่ 60 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 147 ราย
          ป่วยใหม่13มี6รายลอบข้ามแดน
          สำหรับผู้ป่วยใหม่ 13 ราย แบ่งเป็น 1.ผู้ที่มาจากอินเดีย 1 ราย เป็นชายสัญชาติอินเดีย อายุ 35 ปี อาชีพนักปิโตรเคมี   2.ผู้ที่มาจากสวีเดน 1 ราย เป็นหญิงสัญชาติอียิปต์ อายุ 32 ปี อาชีพแพทย์ 3.ผู้ที่มาจากปากีสถาน 1 ราย เป็นชายสัญชาติปากีสถาน อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานบริษัท 4.ผู้ที่มาจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 31 ปี อาชีพพนักงานร้านอาหาร 5.ผู้ที่มา จากเม็กซิโก 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 46 ปี อาชีพช่างเย็บผ้า 6.ผู้ที่มาจากเนเธอร์แลนด์ 2 ราย ซึ่งเป็นหญิงไทย อายุ 42, 49 ปี 7.ผู้ที่มาจากเมียนมา 6 ราย ทั้งหมดเดินทาง เข้าประเทศไทยตามเส้นทางธรรมชาติ มี 2 ราย คือ หญิงไทย อายุ 23, 25 ปี อาชีพพนักงานในสถานบันเทิง ขณะที่ 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพพนักงานในสถานบันเทิง  อีกทั้ง มี 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 36 ปี มีอาการไอ น้ำมูก เจ็บคอและ ปวดกล้ามเนื้อ รักษาตัวที่รพ.ราชบุรี นอกจากนี้ มีหญิงไทย อายุ 25 ปี ตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ อยู่ในสถานกักกันโรคจ.พิจิตร และมีหญิงไทย อายุ 21 ปี ว่างงาน มีอาการไอ น้ำมูก และเจ็บคอ
          สธ.ยันคุมได้ไม่มีการระบาด
          ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงความ คืบหน้ากรณีหญิงไทยลักลอบข้ามแดนเมียนมา ติด COVID-19 และพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 10 ราย ว่า ขณะนี้หญิงไทยทั้ง 10 รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มีอาการไม่หนักมาก  ซึ่งสธ.ยังยืนยันว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และยังไม่พบว่ามีการติดเชื้อไปยังบุคคลอื่น ทั้งหมดสามารถติดตามค้นหากลุ่มเสี่ยงและสอบสวนโรค เพื่อทำไทม์ไลน์ ยืนยันไม่น่ามีปัญหาในการแพร่กระจายเชื้อ
          ไม่ล็อกดาวน์เสี่ยงพบ10ผู้ติดเชื้อ
          "ไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ การเฝ้าระวังต้องรอผลตรวจผู้มีความเสี่ยงสัมผัสสูง ในรอบ 2 ผลส่วนใหญ่ ยังเป็นลบ แต่ต้องกักตัว 14 วัน" นพ.เกียรติภูมิกล่าวและว่า ภายใน 7 วัน ผลยังไม่บวก ถือว่ายังไม่มีการระบาดสู่วง ผู้สัมผัสกลุ่มอื่น ถ้าผ่านไป 10 วัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูง ถือว่าปลอดภัย แต่หากครบ 14 วันถือว่าปลอดภัย เบื้องต้น กำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตาม ค้นหาผู้ที่อยู่ใน กลุ่มสัมผัส ทั้งนี้ เหตุการณ์โควิด-19 เหมือนทำสงคราม สธ.เป็นทัพหน้า ประชาชนต้องเป็นฝ่ายสนับสนุน ช่วยป้องกันเหมือนที่เราเคยทำและผ่านมาได้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ทราบว่า การลักลอบเข้ามานั้น อาศัยช่วงเปลี่ยนเวรของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ประสาน ฝ่ายปกครองให้ปรับปรุงดำเนินการในจุดนี้อย่างเข้มข้นแล้ว
          ติดจากเมียนมา-สัมผัส699คน
          ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงเพิ่มเติมว่า  ยังยืนยันตัวเลขคนไทยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 10 คน คือ จ.เชียงใหม่ 3 คน เชียงราย 3 คน กทม. 1 คน พิจิตร 1 คน ราชบุรี 1 คน พะเยา 1 คน ทั้งหมดทำงานและไปเที่ยวที่สถานบันเทิงวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และตรวจพบติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน-1 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่มีผู้สัมผัสทุกกลุ่มรวม 699 คน  แบ่งเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง 175 คนและกลุ่มเสี่ยงต่ำ 524 คน ผลตรวจขณะนี้ยังไม่พบเชื้อเพิ่มเติม
          "สรุปกลุ่มนี้ทั้ง 10 คน ติดมาจากสถานบันเทิงฝั่งท่าขี้เหล็ก เมียนมา เจ้าหน้าที่ ประสานเมียนมาขอรายชื่อคนไทยที่ตกค้างและรวบรวมเพื่อให้กลับไทยตามด่านที่ถูกต้อง จะได้คัดกรองและนำเข้าระบบกักตัว โดยเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา จะประสานตรวจสอบ ร่วมกัน ขณะนี้เจ้าหน้าฝ่ายปกครองคุมเข้ม แนวชายแดน สแกนทุกตารางนิ้ว ซึ่งช่วงเช้า วันที่ 3 ธ.ค. มี 150 ราย ที่ประสงค์เข้ามา ตัวเลขยังไม่นิ่ง"นพ.โอภาสกล่าว
          สั่งอสม.พื้นที่เสี่ยงเคาะประตูบ้าน
          และว่า เนื่องจากการระบาดในเมียนมา ยังไม่มีท่าทีว่าดีขึ้น ทำให้คนไทยที่ทำงานในเมียนมาเดินทางมาไทยทางช่องทางธรรมชาติผ่าน อ.แม่สาย ซึ่งการลักลอบเข้าเมืองถือว่า มีโทษรุนแรง ผู้ติดเชื้อเดินทางไปเที่ยวและกลับไปอยู่บ้านหรือที่พักเดิม จากนั้น เริ่มมีป่วย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจพบผู้ติดเชื้อ ทั้ง 10 ราย
          นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ขอให้เจ้าของคอนโดมิเนียม ที่พักและสถานที่ ที่พบคนกลุ่มนี้มาพักช่วงเดือนพฤศจิกายนให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประสาน อสม.เคาะประตูบ้านพื้นที่เสี่ยง และขอให้คนไทยใช้ชีวิตปกติ แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัย
          เปิดจุดเสี่ยงสิงห์ปาร์ค-บนเครื่อง
          นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า สำหรับที่งานฟาร์ม Festival ที่สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย มีกลุ่มผู้ติดเชื้อไปเที่ยวและมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะวันที่ 29 พฤศจิกายน จากการสอบสวนโรคพบ หญิงพะเยา อายุ 28 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นเข้าพื้นที่ดังกล่าว เวลา 19.30 น. ไปซื้อตั๋ว ไปที่จุดตรวจอาวุธ เวลา 19.41 น. ไปห้องน้ำและเข้าฟาร์ม ดังนั้น จุดสำคัญคือ ถ้าผู้ร่วมงานแล้วไปที่หน้าเวที ไปโซนลานเบียร์ ไปห้องน้ำในเวลาดังกล่าว ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ผ่านสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ โทร.084-805-3131 หรือ 084-805-2121 หรือ 054-281-027-15, 091-007-2384 หรือ 081-883-0415 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย โทร 053-910-384, 053-910385  ส่วนบนเครื่องบินนั้น มีมาตรการให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกคนอยู่แล้ว ความเสี่ยงจะต่ำ แต่หากไม่ใส่หน้ากากอนามัย กลุ่มเสี่ยงคือ 2 แถวหน้า และ 2 แถวหลัง และนั่งแถวเดียวกับผู้ป่วย เบื้องต้น ขอให้สอบถามทางสาธารณสุขได้ และตอนนี้กรมควบคุมโรค มีรายชื่อทั้งหมดอยู่และจะติดต่อไปตาม ขั้นตอนเพื่อนำมาตรวจคัดกรอง
          อนุทินอารมณ์ค้างตามล้างตามเช็ด
          ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 10 คน ที่ลักลอบเข้าเมืองว่า เป็นสิ่งที่เราเคยคาดการณ์ไว้แล้วว่าต้องเกิด ส่วนบุคคลที่สัมผัสเสี่ยงสูงหรือใกล้ชิดก็พบจำนวนมาก และได้ตรวจเชื้อ ส่วนใหญ่ยัง ไม่พบ ต้องเฝ้าระวังอยู่ คนเหล่านี้ที่กลับมาเข้ามา เพราะรู้ว่าตัวเองป่วย รู้ว่าฝั่งเมียนมา ติดเชื้อมากแล้วกลับเข้ามา แทนที่จะพบแพทย์และแสดงตน กลับไปเที่ยวโดยไร้ความรับผิดชอบไปสถานที่ต่างๆ ทำความเสียหายให้บ้านเมืองมหาศาล แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องตามล้างตามเช็ด กระทรวงสาธารณสุขได้แต่ตามเก็บให้ได้มากที่สุด
          คุมระบาดได้-จี้คนเข้าปท.แสดงตัว
          นายอนุทินยังยืนยันว่า สธ.ควบคุมโรค ติดตามหาผู้ป่วยได้ แต่ขอให้คนที่กลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็กแสดงสปิริตมารับการตรวจที่ โรงพยาบาล เพื่อให้ข้อมูลและขยายผลสอบสวนโรคต่อไป เราไม่ได้ตั้งใจจะไปดำเนินคดีหรือเอาพวกเขาเข้าคุก ไปก็เปลืองคุกเปล่าๆ ยิ่งมาแสดงตนยิ่งเป็นประโยชน์
          มท.สั่งทุกจว.เข้ม4มาตรการสกัด
          ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า การประชุม ศบค.มท.พิจารณากรณีพบคนไทยลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านและติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกำหนดมาตรการเพิ่มให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ อย่างเคร่งครัดช่วงวันที่ 1-31 ธันวาคม เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปร่วมกิจกรรมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร สั่งการถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ถือปฏิบัติตามมาตรการเพิ่มเติมของศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยเคร่งครัด ได้แก่ 1.เฝ้าตรวจ/เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายพื้นที่ตอนในอย่างเข้มข้นเร่งด่วนในจังหวัดชายแดนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.ตรวจกำกับดูแลกิจการหรือกิจกรรมที่เสี่ยงระบาด ให้เข้มงวดมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากขึ้น 3.ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เฝ้าสังเกตบุคคลที่กลับเข้ามาในชุมชน และ 4.สร้างการรับรู้ ความเข้าใจความร่วมมือภาคประชาชนและประชาสังคม ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเคร่งครัด
          'เชียงราย'ตรวจเข้มเจอติดอีก4คน
          ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่เสี่ยง ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า หลัง จ.เชียงราย เปิดให้คนไทยที่ทำงานในจ.ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมากลับมา วันที่สอง ปรากฏว่ามีคนไทยกลับมา 31 คน ผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ตามมาตรการรับคนไทยกลับ ป้องกันลักลอบเข้าประเทศทางช่องทางธรรมชาติ โดยตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พบคนเดินทาง กลับมาเป็นหญิงสาวที่ทำงานในโรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำรถตรวจพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย ไปประจำการที่ด่านพรมแดนและพื้นที่ใกล้เคียง ได้ตรวจหาเชื้อในผู้เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพบผู้ติดเชื้อ 3 ราย เป็นหญิงสาวที่เคยทำงานอยู่ที่โรงแรมวันจีวันทั้งหมด ส่วนอีก 1 คน เป็นเพศชาย
          ทำงานสถานบันเทิงเดียวกลุ่มแรก
          แพทย์ระบุ ผลตรวจพบเป็นบวกทั้ง 3 ราย นั้นเป็นผู้ที่พักอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐในอ.แม่สาย ซึ่งจำนวนผู้เดินทางเข้ามาเฉพาะจากโรงแรมวันจีวันขณะนี้มีหลักสิบ แต่จะดำเนินการไปต่อเนื่อง คาดจะมีผลบวกประมาณ 50% เพราะตรวจไปแล้ว 6 ราย พบผลบวก 3 ราย และกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อในอ.เมืองเชียงราย 3 ราย ก็พบติดเชื้อ 1 ราย ดังนั้น กรณีมีเป้าหมายจากโรงแรมวันจีวัน 50-72 คน อาจมีอัตรา 30-50% จึงต้องตรวจสอบรายชื่อและที่มาให้ชัดเจน เพื่อทำแผนที่บุคคลเอาไว้ป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อเราทราบแหล่งที่มาของโรคว่ามาจากแหล่งเดียว ซึ่งหญิงสาวที่ลักลอบเข้าไทยแล้วตรวจพบติดเชื้อ 10 รายนั้นก็มาจากแหล่งเดียวกัน  ทราบว่าเป็นสถานบันเทิงที่มีพนักงานประมาณ 150-180 คน และเป็นคนไทยประมาณ 50-72 คน ดังกล่าว
          พิจิตรสั่งปิดรร.เกือบทั้งจังหวัด
          อีกด้านหนึ่ง มีรายงานจากจ.พิจิตร ซึ่งพบหญิงวัย 25 ปี ติดเชื้อโควิด ที่กลับจาก เมียนมาโดยลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติ และเดินทางไปท่องเที่ยวหลายแห่งในจังหวัด ทำให้โรงเรียน และสถานศึกษาเกือบทั้งจ.พิจิตร ประกาศสั่งปิดเรียนชั่วคราวเบื้องต้น ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ถึงวันที่ 6 ธันวาคม ป้องกัน การระบาดและให้ครู อาจารย์ บุคลากร นักเรียนนักศึกษากลุ่มเสี่ยงไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลพิจิตร หรือโรงพยาบาลประจำอำเภอ เนื่องจากสถานบันเทิงทั้งสองแห่งที่ผู้ป่วยติดเชื้อไปเที่ยว เป็นที่นิยมของนักเรียนนักศึกษา ขณะที่ร้านอาหารกลางคืน เงียบเหงา แทบไม่มีลูกค้าไปใช้บริการ
          พะเยาปิดรร.หลายแห่ง-รพ.งดเยี่ยม
          เช่นเดียวกับ จ.พะเยา หลังหญิง วัย 28 ปี ติดเชื้อโควิดกลับจากเมียนมา ผ่าน อ.แม่สาย และไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค ไปห้าง ที่จ.เชียงราย ก่อนเดินทางกลับไปจังหวัด ทำให้โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ปิดการเรียนการสอน เนื่องจากช่วงดังกล่าวมีผู้ปกครองและนักเรียน ประชาชนในจังหวัดพะเยา ไปเที่ยวคอนเสิร์ตที่สิงห์ปาร์คด้วยเช่นกัน โดยนายมานะ พิริยพัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนพะเยาพิทยาคม เผยว่า โรงเรียนมีมาตรการป้องกันการระบาด ด้วยการให้นักเรียนที่ไปงานสิงห์ปาร์ค เฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้าน ซึ่งงดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 3-6 ธันวาคม ทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อ ในโรงเรียนและเรียนออนไลน์ ขณะที่ในรพ.พะเยา ประกาศงดเยี่ยมคนไข้
          ปิดรร.พิษณุโลกบินไฟลท์เดียวผู้ติดเชื้อ
          ส่วนที่พิษณุโลก จ่าสิบเอกประมวล วันมี ผู้อำนวยการโรงเรียนนครไทย ออกคำสั่ง ประกาศโรงเรียนนครไทย เรื่อง ปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษว่า หลังจ.พิษณุโลก พบคนติดเชื้อ หลังกลับจากเมียนมา โดยผ่านด่านธรรมชาติ และโรงเรียนนครไทย สำรวจพบครูของโรงเรียนรายหนึ่งเดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วยรายดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกันการระบาด จึงมี มาตรการป้องกัน โดยให้ปิดสถานศึกษาชั่วคราว ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีหน้าที่ราชการหรือปฏิบัติหน้าที่เวรยาม มาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติและให้ครูบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนใส่หน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

 pageview  1210906    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved