ทบ.ระดมเข้าช่วยเหลือสส.วอน'ครม.'ลงพื้นที่
          น้ำท่วมเมืองคอนหนักสุดในรอบ 30 ปี ดับเซ่นแล้ว 9 ศพ ชี้น้ำป่าไหลบ่าท่วมถนน บ้านเรือน พื้นที่เกษตร ส่วนที่สุราษฎร์ เร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง-รถที่จอดในสนามบิน หนีน้ำ ด้าน ทบ.ส่งทหารช่วยซับน้ำตาชาวใต้ สส. นครฯวอน ครม.ลงพื้นที่ช่วยเหลือด่วน
          เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด 70 อำเภอ 358 ตำบล 2,318 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 261,253 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 9 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ น้ำท่วมขังใน 7 จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย และคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่ง ระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจ ความเสียหายครอบคลุมทุกด้านเพื่อให้การช่วยเหลือ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง
          เมืองคอนท่วมหนักในรอบ30ปี
          ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้น้ำท่วม ในหลายพื้นที่ มีมวลน้ำจากเทือกเขาหลวง ไหลบ่าเข้าเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 30 ปี โดยมวลน้ำไหลเข้าท่วมถนนราชดำเนิน ถนนสายหลัก ตั้งแต่สี่แยกหัวถนนไปถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ขณะที่หน้า รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รถไม่สามารถผ่านไป-มาได้
          รพ.มหาราชฯหวั่นกระทบผู้ป่วย
          นพ.ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผอ. รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ได้ติดตามการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ด้วยความเป็นห่วงผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา และหวั่นเกรงว่าน้ำจะเพิ่มสูงจนไม่สะดวกต่อการให้บริการ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ ต่างต้องทำงานอย่างหนักในการป้องกัน ไม่ให้น้ำไหลเข้าถึงห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน
          ขณะเดียวกัน สำหรับพื้นที่เศรษฐกิจ ทั้งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลนครศรีธรรมราช มีระดับน้ำสูงต่อเนื่อง ชาวบ้าน ทหาร และ เจ้าหน้าที่ ปภ.ต่างเตรียมพร้อมในการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งบรรยากาศทั่วไป ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีผู้ใช้ เฟซบุ๊คชื่อ "ราชสีห์ จิตอาสา" โพสต์คลิป วีดีโอ เป็นภาพน้ำป่าที่ไหลเข้าไปในมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครศรีธรรมราช ผ่านองค์พระพุทธสิหิงค์ องค์ใหญ่คล้ายน้ำตก
          ตายเซ่นน้ำท่วมใหญ่แล้ว9ศพ
          อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์น้ำท่วม ใน จ.นครศรีธรรมราช จนถึงเวลานี้ส่งผล ให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.วิภารัตน์ ไม้ค้าง อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ในพื้นที่ อ.นบพิตำ ซึ่งเดินทางด้วยรถยนต์ มากับเพื่อนคือ น.ส.ฐิตวันต์ วิเศษราษฎร์ อายุ 47 ปี โดยขับรถข้ามสะพานกลาย บ้าน โรงเหล็ก ในช่วงที่กระแสน้ำพัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนสะพานถูกตัดขาด รถพลัด ตกคลอง ซึ่งทั้งคู่ได้ทุบกระจกรถลอยคอกลางน้ำ โดย น.ส.ฐิตวันต์ ลอยคอเกาะกิ่งไม้ไว้จึงรอดชีวิต แต่ น.ส.วิภารัตน์ หมดสติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือและปั๊มหัวใจ แต่ก็เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
          สธ.แจงรพ.ยังเปิดบริการปกติ
          นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจ ราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า น้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราช เป็นแบบมาเร็วไปเร็ว ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วม 9 ราย รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ซึ่งมี 1 ราย เป็นเด็กอายุเพียง 1 ปี 2 เดือน อยู่ระหว่าง เข้ารับการรักษาในห้องไอซียู อาการยังทรงตัว ส่วนผู้ป่วยติดเตียง รวม 141 ราย ซึ่งทางครอบครัวและท้องถิ่นได้เคลื่อนย้าย ไปยังที่ปลอดภัยแล้ว ยังไม่ได้รับการร้องขอให้รับตัวเข้ามารักษาต่อที่โรงพยาบาล แต่มีการจัดทีมบุคลากรสาธารณสุข ไปเยี่ยม ส่วนสถานพยาบาลทุกแห่งในขณะนี้ยังคงเปิดบริการตามปกติ ยกเว้น รพ.สต. 4 แห่ง ที่ต้องปิดให้บริการชั่วคราวคือ รพ.สต. ที่อำเภอสิชล 2 แห่ง ที่อำเภอช้างกลาง และที่อำเภอฉวาง
          สุราษฎร์ย้ายรถสนามบินหนีน้ำ
          ที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกติดต่อกันกว่า 2 วัน ได้เบาบางลง แต่ปริมาณน้ำยังสะสมอยู่จำนวนมาก โดยที่ทางหลวงสาย 401 สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช หน้า รพ.กาญจนดิษฐ์ ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ น้ำยังท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร มีเพียงรถใหญ่ที่สัญจรไป-มาได้ ส่วนรถเล็กทางเจ้าหน้าที่ได้ห้ามขับผ่าน เพราะเสี่ยงจะเกิดอันตรายได้
          ด้านที่จอดรถโซนทางไปสนามบิน สุราษฎร์ธานี มีรถยนต์ของประชาชนที่นำ มาจอดไว้ประมาณ 50 คัน ทางสนามบินฯ ได้มีการประกาศให้เจ้าของรีบเคลื่อนย้ายรถออกโดยด่วน เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง เกินครึ่งล้อรถ และบางคันน้ำเริ่มเข้าไปภายในรถแล้ว ซึ่งระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น เกรงว่าจะเกิดความเสียหาย
          พ่อเมืองสุราษฎร์ชี้กระทบ8อำเภอ
          นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำใน จ.สุราษฎร์ธานี ในขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ อ.วิภาวดี อ.ท่าฉาง อ.บ้านนาเดิม อ.เคียนซา อ.ชัยบุรี และอ.พุนพิน ได้สั่งการให้ทุกอำเภอดูแลความปลอดภัยประชาชนเป็นหลักจุดใดมีความเสี่ยงให้อพยพทันทีและประสานกำลังทหาร และอาสาสมัครกู้ภัยช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
          ทบ.ส่งทหารเข้าช่วยผู้ประสบภัย
          วันเดียวกัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ทางพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.มีความห่วงใยต่อ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงกำชับให้กองทัพภาค ที่ 4 ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัย และคลี่คลายสถานการณ์ตามแผนการ ช่วยเหลือร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ซึ่งทาง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบหมายให้หน่วยทหารในพื้นที่ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว
          ทั้งนี้ สำหรับ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก ทางทหาร ได้เร่งช่วยเหลืออพยพชาวบ้านในพื้นที่ ไปยังสถานที่ซึ่งทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ และขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ย้ายผู้ป่วย ติดเตียงไปยังโรงพยาบาลและรับประชาชน ที่ติดค้างอยู่ พร้อมกันนั้นได้จัดรถครัวสนามประกอบอาหาร และให้ผู้ติดค้างย้ายมายังศูนย์อพยพโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายในสัปดาห์นี้
          ชินวรณ์จี้รบ.เร่งช่วยชาวบ้าน
          ที่ รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และ สส.นครศรีธรรมราช จากพรรค การเมืองอื่น แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยใน จ.นครศรีธรรมราช อย่างเร่งด่วน โดยนายชินวรณ์กล่าวว่า จากที่ได้หารือกัน และทาง ผวจ.นครศรีธรรมราช ประกาศเขตอุบัติภัยทั้งจังหวัดแล้ว ทราบว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อขอให้สั่งให้หน่วยทหารเข้าไปในพื้นที่ ไปสร้างสะพานแบริเออร์ และปภ.ดูแลช่วยเหลือประชาชนโดยเร็ว
          นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อยากให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สั่งการไปยังองค์กรปกครองท้องถิ่นโดยตรงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และขอเรียกร้องให้รัฐบาลส่งเงินกรณีฉุกเฉินไปช่วยโดยตรง เพราะทราบว่าขณะนี้ท้องถิ่นได้ใช้เงินส่วนท้องถิ่นไปแล้ว
          สส.เมืองคอนวอนครม.ลงพื้นที่
          ด้าน นายสายัณห์ ยุติธรรม สส. นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอเรียกร้องนายกฯ ให้ลงพื้นที่ภายใน 2-3 วันนี้ และขอให้จัดคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่จ.นครศรีธรรมราช การ ก่อนวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อให้กระทรวงทบวง กรม หน่วยงานต่างๆ ไปรวมที่จังหวัด ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ประสบภัย
          ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ เป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ภาคใต้ โดยรัฐบาลจะเร่งให้ความช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่าง รวดเร็ว อย่างไรก็ดี ขณะนี้นายกฯ ยังไม่มี กำหนดการเดินทางไปเยี่ยมพี่น้องประชาชน