Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 30/11/2563 ]
ผลตรวจ65คนเป็นลบไม่พบติดเชื้อจากสาวเชียงใหม่

สั่งกักตัวคนขับรถแกร็บไบค์บิ๊กตู่กำชับผู้ว่าชายแดนคุมเข้มสกัดไวรัสโควิดหวนแพร่ระบาด
          ศบค.พบผู้ป่วยโควิดใหม่ 11 คน กลับมาจาก 9 ปท.ส่วนใหญ่ตรวจพบเชื้อ ไม่แสดงอาการ ยอดสะสมเพิ่มเป็น 3,977 ราย ขณะที่ผบช.ภ.5 สั่งตำรวจเชียงใหม่-เชียงราย สอบเส้นทางเข้าไทยของสาว 29 ติดเชื้อมาทางไหน และไม่ผ่านตรวจคัดกรอง เล็งเอาผิดลอบเข้าเมือง ด้านนายกฯกำชับผู้ว่าฯจังหวัดติดชายแดน สกัดเข้มต่างด้าวลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เฝ้าระวังโควิด ฮึ่มเจอเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดำเนินคดีไม่มีเว้น ส่วน"กัมพูชา"เจอผู้ป่วย โควิดเพิ่ม   เป็นการติดเชื้อในประเทศ
          ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 11 ราย ในสถานที่กักกันของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,977 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,800 ราย มีผู้ป่วยรักษาใน โรงพยาบาล 117 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย ซึ่งทั้ง 11 ราย เข้าพักในสถานที่กักกันโรคของรัฐ  เมื่อตรวจหาเชื้อครั้งแรก ผลตรวจพบเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ
          ป่วยใหม่11รายมาจาก9ปท.
          สำหรับผู้ป่วยใหม่รายที่ 1 มาจากสหรัฐอเมริกา เป็นพระสงฆ์ สัญชาติไทย อายุ 52 ปี  ผู้ป่วยใหม่รายที่ 2 และราย 3 มาจากลิเบีย โดยรายที่ 2 เป็นชายสัญชาติไทย อายุ 25 ปี อาชีพนักศึกษา  รายที่ 3 เป็นชาย สัญชาติไทย อายุ 26 ปี อาชีพนักศึกษา   ส่วนผู้ป่วยใหม่รายที่ 4 มาจากโมซัมบิก เป็นชาย สัญชาติไทย อายุ 60 ปี อาชีพค้าขาย   ผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 5 มาจากอิตาลี เป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 37 ปี   ผู้ป่วยรายที่ 6  มาจากฝรั่งเศส เป็นชาย สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 55 ปี อาชีพพนักงานบริษัท  ผู้ป่วยใหม่รายที่ 7 มาจากปากีสถาน เป็นชาย สัญชาติปากีสถาน อายุ 42 ปี อาชีพเกษตรกร  ผลตรวจพบเชื้อ มีไข้ ไอและเจ็บคอ
          ขณะที่ผู้ป่วยใหม่รายที่ 8 และรายที่ 9 มาจากเกาหลีใต้ โดยรายที่ 8 เป็นหญิงสัญชาติไทย อายุ 33 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน  ผู้ป่วยรายที่ 9 เป็นชายสัญชาติไทย อายุ 40 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน  ผู้ป่วยรายที่ 10 มาจากโอมาน เป็นหญิง สัญชาติโอมาน อายุ 23 ปี  อาชีพธุรกิจส่วนตัว และผู้ป่วยใหม่รายที่ 11 มาจากคูเวต  เป็นชายสัญชาติคูเวต อายุ 28 ปี มีประวัติติดเชื้อโควิดเมื่อ 4 เดือน ที่แล้ว ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก ผู้ติดเชื้อ  62,562,948 ราย  รักษาหายแล้ว  43,188,234 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว  1,458,099 ราย
          ตร.เร่งสอบเส้นทางหนีเข้าไทย
          ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่เป็นหญิงอายุ 29 ปี ช่วงวันที่ 21-24 พฤศจิกายน โดยมีการเดินทางไปห้างสรรพสินค้าย่านถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง เพื่อไปกินชาบู ดูหนัง จากนั้นวันที่ 23 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ไอ วันต่อมา เดินทาง ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนพบเชื้อ ทำให้ต้องติดตามกลุ่มเสี่ยงมาตรวจหาเชื้อและกักตัวดูอาการ จำนวน 326 คนนั้น  พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข  ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าหญิงดังกล่าวเข้ามาช่องทางจ.เชียงรายไม่ผ่านการตรวจโรคและกักตัว 14 วันตามกฎหมาย ตรงนี้ได้กำชับให้ผบก.เชียงราย และผบก.เชียงใหม่ ตรวจสอบหาข้อมูลว่าเข้ามาอย่างไรผ่านจุดใด ทำไมเข้ามาโดยไม่ผ่านการตรวจโรคและกักตัว ซึ่งหากลักลอบเข้ามาต้องถูกดำเนินคดี ข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และดูพ.ร.บ.สาธารณสุข ด้วยว่าผิดกฎหมายข้อใดอีกบ้าง ขอเวลาตรวจสอบข้อมูลและกำชับให้ทุกด่านตรวจตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ห้ามการ์ดตก ให้เข้มงวดตามแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
          ฝ่ายปกครองตรวจสถานบริการ
          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง และ ตำรวจ สนธิกำลังลงพื้นที่สุ่มตรวจ กำกับ ติดตามและประเมินผลสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะสถานบริการ อาทิ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในอ.เมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วย ร้าน 12 ห้วยแก้ว, ร้านกู๊ดบาร์, ร้านนาเบะ, ร้านวอมอัพ, ร้านตะวันแดง และร้านอินฟินิตี้ ผลปฏิบัติ หน้าที่พบ ผู้ประกอบการสถานบริการทุกแห่งให้ความร่วมมือตามมาตรการฯอย่างดี  ศปก.จ.กำชับให้สถานประกอบการป้องกันโรคตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อไป
          เทศบาลประชาสัมพันธ์เตือนปชช.-นทท.
          ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ใช้เครื่องขยายเสียงแบบพกพา ประชาสัมพันธ์ประชาชนและนักท่องเที่ยว บริเวณถนนคนเดินวัวลาย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อเฝ้าระวังป้องกัน COVID-19 หลังจังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นหญิงอายุ 29 ปี ที่เดินทางกลับจากเมียนมา เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา พบประวัติไปสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า และโรงภาพยนตร์
          นายณัฐชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวและผู้ค้าปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ การสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สแกนคิวอาร์โค้ด "ไทยชนะ" และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ บริเวณจุดคัดกรองทางเข้าถนนคนเดิน วัวลาย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
          ผลตรวจ65รายเชียงใหม่ไม่พบติดเชื้อ
          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จากต่างประเทศ ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ทีมสอบสวนโรคได้ทำการติดตามผู้สัมผัสและตรวจหาเชื้อ โดยทำการตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงไปแล้ว 65 ราย ผลไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องกักตัวต่อจนครบ 14 วัน ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงใหม่ ได้จัดสถานที่กักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และเน้นย้ำผู้สัมผัสทุกรายให้สังเกตอาการ ผิดปกติอย่างใกล้ชิด หากพบอาการ ผิดปกติ จะถูกตรวจหาเชื้อซ้ำ และแยกกักในโรงพยาบาล สำหรับผู้สัมผัสที่กักกันตนที่บ้าน จะมีการประสานให้โควิด หมู่บ้าน ดูแลและประเมินจนกว่าจะครบ 14 วัน ดังนั้น จึงขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก คอนโดมิเนียม และประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบบุคคลแปลกหน้าหรือพบผู้เดินทาง ที่ไม่ผ่านการกักตัว 14 วัน
          'Grab'กักตัวคนขับรับส่งหญิงติดเชื้อ
          ขณะที่ แกร็บ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ระบุตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนประสานงานกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยให้ความร่วมมือตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลัง เพื่อระบุตัวตนของพาร์ทเนอร์คนขับ รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ปฏิสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดในช่วงดังกล่าว
          ขณะนี้พาร์ทเนอร์คนขับที่ให้บริการในช่วงนั้น ได้เข้ารับการตรวจเชื้อ COVID-19 ในโรงพยาบาล และอยู่ระหว่างกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการแล้ว  ทั้งนี้ บริษัทกำชับให้ทำตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ส่งเสริมให้ทั้งพาร์ทเนอร์คนขับและผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการเดินทาง โดยหนึ่งในมาตรการที่เคร่งครัดคือ หาก ผู้โดยสารพบว่าพาร์ทเนอร์คนขับไม่สวมหน้ากาก หรือมีอาการป่วยหรือไม่สบาย" สามารถยกเลิกบริการได้ทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิก ขณะเดียวกันพาร์ทเนอร์คนขับก็สามารถยกเลิกการรับงานได้เช่นกันหากพบว่าผู้โดยสารไม่สวมหน้ากากหรือมีอาการป่วย
          นายกฯสั่งสกัดหลบหนีเข้าเมือง
          ด้านน.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับ ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนไทยติดประเทศเพื่อนบ้านทั้ง เมียนมา กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนติดตามการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายเป็นกรณีเร่งด่วน หลังพบมีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเดินทางเข้ามาประเทศไทย ก่อให้เกิดความกังวลในความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  นอกจากนี้ นายกฯยังกำชับตำรวจและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด คำนึงถึงผลกระทบจากปัญหาที่จะตามมาจากการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นสำคัญ
          คาดโทษจนท.มีเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง
          "หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการลักลอบเข้าเมือง ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีละเว้น เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประชาชนว่าแนวทางป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของไทยรัดกุม ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการระบาดของเชื้อโควิด-19" น.ส.ไตรศุลี กล่าวและว่า นายกฯยังขอบคุณ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ร่วมทำงานเข้มแข็งตั้งแต่ตั้งช่วงต้นปี  ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 จนถึง ขณะนี้ไทยสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก โดย ผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่ล้วนพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ นายกฯจึงขอเป็นกำลังใจให้ ทุกภาคส่วนปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจต่อประชาชน
          ไม่กระทบยอดจองรร.เชียงใหม่
          นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยถึงกรณีพบหญิงวัย 29 ปี ติดเชื้อโควิด-19 จากเมียนมาและเดินทางมาจ.เชียงใหม่ ว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการจองห้องพักโรงแรมของจ.เชียงใหม่ จากการสอบถามโรงแรมรีสอร์ทในเชียงใหม่ ยังไม่พบนักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพักแต่อย่างใด ช่วงวันหยุดยังมียอดจองห้องพักโรงแรมเขต ตัวเมืองเชียงใหม่สูงกว่าร้อยละ 80  มั่นใจว่านักท่องเที่ยวไม่ตื่นตระหนก เพราะมีการแจ้งไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้ชัดเจนว่าไปยังที่ใดบ้าง และหลังเดินทางจาก เมียนมา มาพักอยู่ในจ.เชียงใหม่ เพียง 3 วัน จำกัดพื้นที่ไม่กี่แห่ง ก่อนไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล เชื่อว่าไม่กระทบมากนัก และหน่วยงานรัฐมีมาตรการควบคุมสกัดโรคอยู่แล้ว สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวของเชียงใหม่ช่วงปลายปี มีแนวโน้มคึกคักมากขึ้น
          เชียงรายตั้งจุดตรวจชายแดน
          ส่วนบรรยากาศชายแดนไทย- เมียนมา ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง เพิ่มความเข้มงวด ในการลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนด้าน อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน อ.เชียงแสน โดยเฉพาะ อ.แม่สาย มีการจัดกำลังลาดตระเวน และตั้งจุดตรวจตามจุดเสี่ยงริมแม่น้ำสายและบนถนนเชื่อมต่อจากชายแดนมายังตัวเมืองชั้นใน ป้องกันสกัดการลักลอบข้ามฝั่งผ่านช่องทางธรรมชาติของแรงงานต่างด้าวและคนไทยที่อยู่ในฝั่งเมียนมาเข้ามายังฝั่งไทย เช่นเดียวกับในจ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังพบผู้ป่วยโควิด-19 ต่อเนื่อง ซึ่งเมียนมาเพิ่มมาตรการเข้มงวดมากขึ้น ด้วยการประกาศให้ร้านค้าที่ตั้งอยู่สองข้างทาง โดยเฉพาะจากตลาดท่าล้อถึงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ที่ติดต่อกับไทย ให้ปิดร้านตั้งแต่เวลา 18.00 น. และยังประกาศใช้มาตรการห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่ 24.00-04.00  น.
          รวบ 11 แรงงานเมียนมาหนีโควิด
          ขณะที่นายภัทรดนัย อุทัยรัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง อ.แม่สอด จ.ตาก นำคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันและความมั่นคง ลาดตะเวนสกัดกั้นชาวเมียนมาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลังรับรายงานมีแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมาลักลอบเข้าเมือง เพื่อไปขายแรงงานในจังหวัดชั้นใน จึงประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และสมาชิก อส.อ.แม่สอดที่ 3 ไปที่หลังอุทยานตากสิน หมู่ 6 ต.ด่านแม่ละเมา พบชาวเมียนมาพร้อมสัมภาระ 11 คน ชาย  7 คน หญิง 4 คน กำลังผิงไฟอยู่ในป่า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารคนเข้าเมือง แต่ไม่มีเอกสารจึงควบคุมตัวดำเนินคดี ในจำนวนนี้มีนายโซโซ อายุ 43 ปีและนายซานหล่าย อายุ 33 ปี คนนำพา จึงแจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดย ไม่ได้รับอนุญาต 9 คน
          ด้านสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในเมียนมา พบผู้ป่วย 1,344 ราย ยอดสะสม 87,977 ราย และมีผู้เสียชีวิต 22 ราย ยอดสะสม 1,887 ราย
          เขมรเจอป่วยในปท.7รายรวด
          ส่วนสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชาออกแถลงการณ์ยืนยันพบ ผู้ติดเชื้อใหม่ 7 คน จากจำนวนดังกล่าว 6 คนเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันคือ นายแชม สาวุธ  เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ภรรยาของนายแชม และสมาชิกซึ่งอาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันอีก 4 คน  ขณะที่ผู้ป่วยอีกคนหนึ่งเป็นหญิงชาวกัมพูชาอเมริกัน อาศัยอยู่ที่เมืองไพลิน มีพรมแดนติดกับอ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ทาง ตะวันออกของไทย  ซึ่งการพบผู้ป่วยทั้ง 7 คนในกัมพูชา ถือเป็นครั้งแรกที่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ  ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาสั่งปิดศูนย์การค้าอีออน สาขากรุงพนมเปญ เพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่ หลังสอบสวนโรคพบว่า เป็นสถานที่ซึ่งภรรยานายแชมไปใช้บริการ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังยกระดับเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสาธารณสุขที่กรุงพนมเปญ จังหวัดเสียมราฐ จังหวัดบันทายมีชัยหรือบันเตียเมียนเจย และจังหวัดมณฑลคีรีทำให้ขณะนี้กัมพูชามีสถิติผู้ป่วยโควิด-19 สะสมเพิ่มเป็น 315 คน ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
          ทั่วโลกพุ่ง62ล้าน-ตาย1.45ล้านคน
          วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ทั่วโลกในรอบ 24 ชั่วโมงว่า มีผู้ติดเชื้อ รวม 62,637,007 ราย  เสียชีวิตรวม 1,459,339  ราย  รักษาหายรวม 43,241,619 ราย  โดยสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศอันดับ 1 ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดที่ 13,610,357 ราย เสียชีวิตสะสม 272,254 ราย  อันดับ 2 อินเดีย ติดเชื้อสะสม 9,393,039 ราย เสียชีวิตสะสม 136,733 ราย  อันดับ 3 บราซิล ติดเชื้อสะสม 6,290,272 ราย เสียชีวิตสะสม 172,637 ราย  อันดับ 4 รัสเซีย ติดเชื้อสะสม 2,269,316 ราย  เสียชีวิตสะสม 39,527 ราย  และอันดับ 5 ฝรั่งเศส ติดเชื้อสะสม 2,208,699 ราย  ติดเชื้อสะสม 52,127 ราย ไทยอยู่ในอันดับที่ 151 มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,977 ราย

 pageview  1210906    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved