การกินอาหารในปริมาณมากเกินไป ไม่ถูกหลักโภชนาการ ย่อมทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนลงพุงตามมา แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากรอธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำการสร้างสุขภาพดีให้ตนเองด้วยการนำหลักพอเพียงมาใช้ในการกินอาหารแต่ละมื้อ เพื่อให้ได้สารอาหารและพลังงานที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวันและสามารถลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน มีหลักการง่ายๆ ดังนี้
1.กินพออิ่มในแต่ละมื้อ โดยตักอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
2.ดัดแปลงอาหารที่เหลือเป็นอาหารจานใหม่ เช่น นำผัดคะน้า นำมาต้มจับฉ่ายผสมกับผัก อื่นๆ หรือผลไม้ที่เหลือหลายชนิดสามารถมาทำเป็นสลัดผลไม้สร้างสีสันให้กับการกินยิ่งขึ้น
3.เรียนรู้วิธีการเก็บรักษาอาหารแต่ละประเภท เพื่อยืดอายุการใช้งานของวัตถุดิบต่างๆ และยังคงคุณค่าทางโภชนาการไม่ให้เน่าเสียไปก่อนที่จะนำมาประกอบอาหาร
4.หุงข้าวผสมข้าวโพด ถั่ว เผือก มัน เพื่อเพิ่มวิตามินและยังได้สารอาหารอื่นๆ เพิ่มเติม
5.เลือกวัตถุดิบคุณภาพดีราคาถูก เช่น ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเลือกใช้ ไข่ เต้าหู้ และถั่วเมล็ดแห้ง มาสลับหมุนเวียน กินผักพื้นบ้าน กินผลไม้ตามฤดูกาลที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง
6.ลดการกินจุบกินจิบ กินอาหารให้เป็นเวลา โดยกินอาหารหลัก 3 มื้อ ก็เพียงพอแล้ว หรือ ถ้าอยากกินอาหารว่างควรเลือกกินผลไม้ ถั่ว นม แทนขนมขบเคี้ยว หรือของหวาน
7.งดการกินอาหารมื้อดึก เพราะขณะนอนหลับเป็นช่วงเวลา ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญน้อย และเกิดสะสมเป็นไขมันในร่างกายได้ง่าย
8.เคี้ยวอาหารช้าๆ เพราะร่างกายคนเราจะเริ่มรู้สึกอิ่มเมื่อกินอาหารเข้าไปประมาณ 20 นาที
9.ไม่กิน ทิ้งขว้าง มีวินัยในการซื้อและการกินที่ดี ต้องมีการคำนวณปริมาณและราคา ในการซื้ออาหารแต่ละครั้ง
10.เน้นกินเมนูที่หลากหลาย มีโภชนาการครบ 5 หมู่ และควรกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกวัน
การกินอย่างพอเพียงยังสามารถนำไปใช้ในการลดน้ำหนัก ควบคู่กับการออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที ขนมจีน เพื่อช่วยเผาผลาญพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันได้อีกด้วย
คนรักสุขภาพ สามารถติดตาม คอลัมน์ และเรื่องน่าอ่าน อีกมากมาย ได้จากนิตยสารชีวจิต ฉบับล่าสุด |