ศบค.รับมาตรการกระทบปชช.แต่ต้องทำเพื่อลดการแพร่เชื้อ'บิ๊กป้อม'มั่นใจคุมแรงงานได้กทม.ตั้ง6จุดตรวจสกัดข้ามเขต
          ไทยติดโควิดทำสถิติใหม่อีกรอบวันเดียว 5,406 ราย ตาย 22 ศพ  ฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 9.14 ล้านโดส แจงประกาศ ศบค.มุ่งสกัดระบาด ลดเดินทาง เน้น ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ยอมรับ มีปชช.ได้รับผลกระทบจำนวน มาก แต่ต้องทำ ซึ่งรัฐบาล หาทางเยียวยาช่วยเหลือแล้ว ขณะที่สธ.เคลียร์ เตียงรับคนป่วยหนัก โดยให้คนป่วยสีเขียว กลับรักษาตัวที่บ้าน บิ๊กรัฐบาลประสานเสียงปัดลักหลับ ชี้ห้ามนั่งกินในร้านเพราะถอดแมสอันตราย ส่วนคนงานที่หนี ตจว. มีไม่มาก มท.กำชับผู้ว่าฯเฝ้าระวังให้กักตัวที่บ้านห้ามเดินทางในพื้นที่ มั่นใจสกัดเชื้อ ไม่แพร่กระจายได้ ปลัด กทม.ส่งเทศกิจ ร่วมตำรวจ-ทหารปิดแคมป์ก่อสร้างแล้ว 77 แห่ง พร้อมตั้งด่านตรวจสกัดเดินทางรอบกรุง
          เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.รายงานสถานการณ์ประจำวัน รวมถึงความคืบหน้าการยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด ของศบค.อาทิ ห้ามนั่งกินในร้านอาหาร ห้ามรวมตัวเกิน 20 คน ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ปิดแคมป์ก่อสร้าง และบับเบิลแอนด์ซีลโรงงานเป็นเวลา 1 เดือน มีผลวันที่ 28 มิถุนายนเป็นวันแรก
          ติดเชื้อนิวไฮ5,406ราย-ตาย22
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า วันนี้ไทยมี ผู้ติดเชื้อใหม่ 5,406 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,379 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,757 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,622 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 9 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 18 ราย ทำให้มียอด ผู้ติดเชื้อสะสม 249,853 ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 3,343 ราย หายป่วยสะสม 202,271 ราย อยู่ระหว่างรักษา 45,648 ราย อาการหนัก 1,806 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 510 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 22 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 9 ราย ในจำนวนนี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย และเป็นผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง 1 ราย โดยอยู่ใน กทม. 10 ราย สมุทรปราการ 3 ราย นครราชสีมา เพชรบุรี นครศรีธรรมราช ระยอง ปทุมธานี ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ สงขลา สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย ทำให้มี ผู้เสียชีวิตสะสม 1,934 ราย
          ฉีดวัคซีนสะสม9.1ล้านโดส
          ส่วนการฉีดวัคซีนวันที่ 27 มิถุนายนฉีดทั้งสิ้น 93,577 โดส ทำให้ยอดรวมสะสมการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา มีทั้งสิ้น 9,147,512 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 181,862,191 ราย เสียชีวิตสะสม 3,938,837 ราย
          ประกาศศบค.มุ่งคุมระบาดเน้นตั้งจุดตรวจ
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 25 ว่า ประเด็นสำคัญคือ สกัดระบาดใน กทม.และปริมณฑลคือ สั่งปิดแคมป์ทุกแห่ง ส่วนโรงงานแม้ไม่ได้ปิดแต่ก็ให้เข้มข้นมาตรการ บับเบิลแอนด์ซีล ร้านอาหารให้ซื้อกลับไปทานที่บ้าน และให้ห้างสรรพสินค้าปิดในเวลา 21.00 น. รวมถึงออกข้อกำหนดเพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่กล่าวมา ส่วน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะตั้งจุดตรวจสกัดที่ต้องแสดงบัตรประชาชน เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น โดยจุดตรวจสกัดจะเป็นเครื่องเตือนลดเดินทาง ให้ใช้เทคโนโลยีสื่อสาร ส่วนผู้ที่นัดฉีดวัคซีนเดินทางได้อยู่ เพราะเป็นการเดินทางที่เชื่อมโยงกับการควบคุมโรค
          รับมีปชช.ได้รับผลกระทบจำนวนมาก
          "คำสั่งที่ออกมา เราต้องใช้หลักกฎหมายและความรอบคอบในการเขียน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายถูกต้อง เราน้อมรับเสียงวิจารณ์ที่ว่า เมื่อออกข้อกำหนดแล้วยังเห็นแรงงานออกไปต่างจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งโดยเจตนากฎหมายเราอยากให้ทุกคน ตั้งอยู่กับที่ ตอนนี้มีข้อกำหนดฉบับนี้ออกมา ก็ขอให้ทุกคนร่วมมือ ข้อกฎหมายคือข้อกฎหมาย เราไม่อยากให้ใครได้รับโทษ เจตนาเพื่อนำมาเป็นกติกาอยู่ร่วมกันอย่างดี ในสังคม รับทราบมาว่ามีคนได้รับผลกระทบจำนวนมาก แต่ตัวเลขที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ต้องหาทางช่วยลดการระบาด" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
          ศบค.เร่งเยียวยาลูกจ้าง6.9แสนคนใน6จว.
          และว่า ที่ประชุม ศบค.ได้พิจารณาผลกระทบจาก ศบค.ออกข้อกำหนดฉบับที่ 25 มิถุนายน เพื่อนำผลกระทบของคนกลุ่มนั้น มาพิจารณา โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ต้องปิดกิจการใน 6 จังหวัด ซึ่งมีจำนวนถึง 697,315 คน ตามที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง เช่น ได้ 50% ของรายได้ หรือค่าแรง แต่ไม่เกิน 7,500 บาท และหากคนกลุ่มนี้อยู่ในระบบประกันสังคมด้วยจะได้เพิ่มอีก 2,000 บาท ส่วนถ้าไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมก็ให้ไปลงทะเบียนภายใน 1 เดือน เช่น บางคนที่ไม่มีลูกจ้างแต่เป็นคนที่รับจ้างเองทำเอง หาบเร่ แผงลอย ก็ให้ไปขึ้นทะเบียนในแอปพลิเคชั่นถุงเงินผ่านโครงการคนละครึ่ง ก็จะได้ด้วย นอกจากนี้ ที่อยู่ในระบบประกันสังคม จะได้รับการเยียวยาตามที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว
          แนะ2สมาคมซื้อร้านอาหารส่งแคมป์
          ส่วนกรณีมีข่าวว่าร้านอาหารเตรียมวัตถุดิบทำอาหารไว้แล้วถูกบอกให้ปิดวันจันทร์นั้น นพ.ทวีศิลป์ชี้แจงว่า ไม่ได้ให้ปิด ให้ซื้อ กลับบ้านได้ ขอให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง กับสมาคมภัตตาคารและอาหาร ขอความร่วมมือผู้ประกอบการใช้บริการของภัตตาคารร้านอาหารย่อยๆ แม่ค้า แผงลอย จัดอาหารให้แรงงานก่อสร้างที่อยู่ในไซต์งานนั้น เพื่อให้เขาอยู่เฉยแล้วได้รับเงิน ได้รับอาหาร ซึ่งกระทรวงแรงงานจะจ่ายให้เป็นช่วง เพื่อให้อยู่ในจุดนั้นไม่กระจายไปไหน ส่วนวัตถุดิบเตรียมอาหารจะได้ใช้ประโยชน์เรื่องนี้ ที่ประชุมได้หารือรายละเอียดเพื่อเยียวยาให้ทุกคน และขอย้ำว่า คนงานก่อสร้างนั้น หมายรวมถึงทุกส่วนที่เป็นแรงงานไม่ว่าจะมีสัญชาติไทยหรือต่างด้าว ให้หยุดพัก 30 วันตามข้อกำหนดที่ประกาศไป
          เคลียร์เตียงส่งป่วยสีเขียวรักษาตัวที่บ้าน
          นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงมาตรการรองรับสถานการณ์ที่ยอดติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ที่ประชุมอีโอซี ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปลัดกระทรวงสาธารณสุขพูดถึงประเด็นดังกล่าวร่วมกับอธิบดีกรมการแพทย์ มีรายงานการรักษาตัวอยู่ในบ้านว่า ได้เตรียมการอยู่แล้วเหลือเพียงลงในรายละเอียด และกำหนดให้ชัดเจน เพราะถ้าการรักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาล 10 วัน แล้วอีก 4 วัน ให้ไปดูแล อยู่ที่บ้านจะช่วยได้ 1 ใน 3 ทำให้เตียงว่างขึ้นมาทันที ซึ่งกำลังทำอยู่ในผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว และเร็วๆ นี้ จะมีมาตรการออกมา แต่ สิ่งที่สำคัญคือ จะมั่นใจระบบติดตามกลุ่มคนที่ออกมาดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน 4 วันอย่างใกล้ชิด ได้อย่างไร ส่วนกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง รมว.สาธารณสุขร่วมกับ กทม. เปิดพื้นที่ โรงพยาบาลไอซียูสนามเพื่อใช้เทคโนโลยี เปิดไอซีอยู่นอกสถานที่โดยเร็ว กำลังทำกันเต็มที่ หาทางช่วยทุกคนอยู่
          ปัดลักหลับห้ามนั่งกินเพราะต้องถอดแมส
          ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายก รัฐมนตรี กล่าวถึงข้อกำหนด ศบค.ที่ประกาศเมื่อตี 1 วันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ากะทันหันเกินไปจนประชาชนไม่ได้เตรียมตัว ถือเป็นการประกาศแบบลักหลับว่า ไม่ได้ลักหลับ เขาก็เกริ่นให้รู้ จะลักหลับอะไร ใครๆ ก็รุมด่ารัฐบาลอยู่ว่า แพลมออกมาจนพวกคนงานเขาหนีออกไปหมดแล้วตั้งแต่ วันที่ 25 มิถุนายนแล้ว ก็เป็นสัญญาณให้รู้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้หมอเขาขอว่าต้องทันที เพราะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบ ทางเศรษฐกิจ และผลกระทบทางสุขภาพ เพราะโควิดรุนแรงมาก โดยเฉพาะสายพันธุ์เบต้าที่ระบุไว้ในข้อกำหนด ส่วนเหตุผล ที่ต้องห้ามนั่งกินในร้านอาหารก็คือการบริโภคอาหารนั้นเป็นเหตุให้ต้องถอดหน้ากากอนามัย นี่คืออันตราย
          มั่นใจคุมแรงงานได้-หนีไปแล้วไม่มาก
          พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงข้อกังวลต่อการหลบหนี ของแรงงานไปตามจังหวัดต่างๆ ว่า ได้กำชับไปแล้วว่าให้ดูแลอย่างเข้มแข็ง และให้ทำตามมาตรการ ศบค.และสธ.กำหนด รวมถึงกระทรวงแรงงานมีมาตรการเยียวยาอยู่ ขณะนี้คุมอยู่ เราดูแลให้ทุกคนอยู่แล้ว
          ผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับรายงานถึงแรงงานที่ลักลอบออกจากแคมป์คนงานอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ไม่มากเท่าไหร่ เราให้หน่วยทหารเข้าไปดูแลอยู่แล้ว พร้อมกำชับกระทรวงแรงงานให้แรงงานอยู่ในที่ที่ศบค.กำหนด ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทุกคนต้องปฏิบัติตามที่ศบค. กำหนด
          ทุกจว.คุมเข้มแรงงานไม่ต้องกลัวเชื้อแพร่
          เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลแรงงานที่มีข่าวเคลื่อนย้ายกลับต่างจังหวัดจำนวนมากว่า เรามีนโยบายให้แรงงานอยู่แต่ในแคมป์ การเยียวยาก็จะให้เฉพาะคนที่อยู่ในแคมป์ กรณีเคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัด เฉพาะแรงงานไทยที่จะต้องถูกกักตัวที่บ้าน 14 วัน เพื่อไม่ให้ เกิดการระบาด ซึ่งทุกพื้นที่จะเป็นอย่างนี้ หมดไม่มีใครยอม กระทรวงมหาดไทยกำชับไปในพื้นที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัคร ประจำหมู่บ้าน (อสม.) ต้องเข้มงวด ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการแพร่เชื้อ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการรายงานถึงผลเสียอะไรออกมา ส่วนที่มีสื่อไปเผยแพร่ว่ามีแรงงานออกมาซื้อของ ส่วนนี้ถือเป็นความยากลำบาก เพราะระบบยังไม่พร้อม เพราะคำสั่งเพิ่งออกมา แต่วันนี้ได้หารือการดูแลแรงงานแล้ว มั่นใจการควบคุมสถานการณ์จะดีขึ้น
          คนงานหนีกลับตจว.ต้องกักตัวที่บ้าน
          "ตอนนี้ต้องยอมรับปัญหาคือ แคมป์ ก่อสร้างทั่วประเทศ ต้องคุมให้ได้ ถ้าปล่อยให้เคลื่อนย้ายจะคุมไม่อยู่ มีปัญหาเตียงไม่พอตามมาอีก ยืนยันเราต้องควบคุมทั้งหมด ในพื้นที่สีแดง และทุกพื้นที่ ถ้าพบว่าออกไป ก็ต้องถูกกักตัว ชื่อมั่นว่า ต่างจังหวัดจะเข้มงวดไม่ให้แรงงานเหล่านี้เข้าไปอยู่พื้นที่ ทั้งสิ้น ยืนยันจะไม่มีการไปแพร่เชื้อใน ต่างจังหวัด" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว และย้ำว่า สื่ออย่าไปลงว่าเมื่อแรงงานอาจมีเชื้อไป ต่างจังหวัด แล้วจะทำให้ทุกจังหวัดแดงไปหมด นโยบายขณะนี้ไม่อยากให้เคลื่อนย้ายแรงงาน แรงงานต่างด้าวเราคงคุมได้ แต่แรงงานไทยมีทั้งนอนในแคมป์ และนอนที่บ้าน ถ้าปิดแคมป์ เขาก็อยากกลับบ้าน กลับไปก็ต้องโดนกักตัวที่บ้าน คุมสังเกตอาการ ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น
          จี้ผู้ว่าฯ10จว.เข้มมาตรการศบค.
          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการและประสานงานกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ส่งหนังสือถึงปลัดกทม. และผู้ว่าฯทุกจังหวัดว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ขอให้ กทม. และจังหวัดที่กำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์เป็น "พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด" 10 จังหวัด อย่างเคร่งครัด โดยขอให้ กทม.และจังหวัดสร้างการรับรู้ข้อกำหนด แก่ผู้ประกอบการพนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง สำหรับ กทม. และจังหวัดปริมณฑลให้หารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. หรือจังหวัด ควบคุมป้องกันระบาดของกลุ่มแรงงาน และเขตชุมชน โดย 1.แรงงานก่อสร้างปิดสถานที่ก่อสร้าง ให้ คนงานหยุดก่อสร้าง ห้ามเดินทางเคลื่อนย้าย ชั่วคราว โดยประสานฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ สธ.ทำทะเบียน ตรวจเฝ้าระวังไม่ให้แรงงานออกนอกพื้นที่เด็ดขาด กลุ่มแรงงานในสถานประกอบการและโรงงานให้วางระบบมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal)
          4จชต.งดเดินทางข้าม-ออกนอกพื้นที่
          นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า เขตชุมชน วางระบบเข้าไปตรวจตราชุมชน ตลาด หรือสถานที่เสี่ยงระบาดต้องเข้าคัดกรองเชิงรุกและเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อ ส่วนจังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา เน้นย้ำมาตรการตั้งจุดตรวจคัดกรองการเดินทางอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดยับยั้งการระบาด รวมถึงทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ ห้ามเดินทางข้ามเขตจังหวัดและออกนอกจังหวัดชายแดนใต้ ถ้าจำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ ต้องแสดงบัตรประชาชน ควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยเจ้าหน้าที่
          ขณะที่จังหวัดอื่นให้วางระบบและมาตรการคัดกรองโรค ติดตาม ค้นหา และคัดกรองผู้เดินทางเข้าหมู่บ้าน/ชุมชนทุกราย กรณีพบผู้ที่เดินทางมาพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้กักตัวในที่พักเป็นเวลา 14 วัน และงดหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกหมู่บ้านชุมชนเด็ดขาด
          กทม.เริ่มปฏิบัติการปิดแล้ว77แคมป์
          ขณะที่ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีหนังสือสั่งการด่วนที่สุด ถึงผู้อำนวยการเขตทุกเขตถึงการป้องกันควบคุมการระบาดโควิด-19 ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยให้เร่งสื่อสารสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการ ที่มีแคมป์คนงานก่อสร้างใน กทม. ทุกแห่ง เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมการระบาดฯที่ราชการกำหนด พร้อมตรวจสอบ เข้มงวดแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพมหานคร โดยให้เจ้าหน้าที่กำกับ ตักเตือน และสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่ราชการกำหนด โดยสนธิกำลังตำรวจ ทหาร เทศกิจ เจ้าหน้าที่บริษัทเจ้าของแคมป์ เจ้าหน้าที่กทม. ปฏิบัติการจุดตรวจด่านตรวจร่วม ควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งชุดเฝ้าระวังพื้นที่สนับสนุนควบคุมการปิดแคมป์ ก่อสร้าง โดยเริ่มเข้าควบคุมแคมป์คนงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน จากข้อมูลวันที่ 27 มิถุนายน มีแคมป์ก่อสร้าง 575 แคมป์ ปิดแล้ว 77 แคมป์ กระจายอยู่ในพื้นที่ 50 เขต ประกอบด้วย กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 124 แคมป์ ปิดแล้ว 3 แคมป์ กลุ่มกรุงเทพกลาง 93 แคมป์ ปิดแล้ว 13 แคมป์ กลุ่มกรุงเทพตะวันออก 111 แคมป์ ปิดแล้ว 37 แคมป์ กลุ่มกรุงเทพใต้ 102 แคมป์ ปิดแล้ว 18 แคมป์ กลุ่มกรุงธนเหนือ 84 แคมป์ ปิดแล้ว 3 แคมป์ กลุ่มกรุงธนใต้ 61 แคมป์ ปิดแล้ว 3 แคมป์
          ตั้ง6จุดตรวจสกัดย้ายแรงงานข้ามเขต
          นอกจากนี้ ในการควบคุมเคลื่อนย้ายแรงงาน กรุงเทพมหานคร สนธิกำลังร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยสน.ท้องที่ หน่วยทหารตั้งด่านจุดตรวจคัดกรอง 6 เส้นทางหลัก ป้องปรามการเคลื่อนย้ายแรงงาน ข้ามเขตจังหวัด ดังนี้ จุดที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) หน้าสถานีรถไฟดอนเมือง เขต ดอนเมือง จุดที่ 2 ถนนสุวินทวงศ์ (ขาออก) ใต้ทางด่วนข้ามแยกมหานคร เขตหนองจอก จุดที่ 3 ถนนบางนา-ตราด (ขาออก) ปั๊มบางจาก กม. 4.5 เขตบางนา จุดที่ 4 ถนนบรมราชชนนี (ขาออก) ใต้สะพานข้ามแยกถนนบรมราชชนนี ตัดถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา จุดที่ 5 ถนนเพชรเกษม หน้าสำนักงานเขตหนองแขม เขตหนองแขม จุดที่ 6 ถนนพระรามที่ 2 (ขาออก) หน้าปั๊ม ปตท. เขตบางขุนเทียน เริ่มปฏิบัติตั้งแต่ เวลา 16.00 น. วันที่ 28 มิถุนายนเป็นต้นไป
          สัปดาห์เดียวสายพันธุ์เดลต้าระบาดเพิ่ม
          ส่วนนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวถึงการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อไวรัสก่อโรค โควิด-19 ในประเทศไทยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่พบจำแนกตามสายพันธุ์สำคัญ พบภาพรวม ตั้งแต่วันที่ 21-27 มิถุนายน สายพันธุ์อัลฟ่า B.1.1.7 (อังกฤษ)มี 2,218 ราย ขณะที่เมษายน-20 มิถุนายน พบ 5,641 ราย รวม 7,859 ราย คิดเป็น 86.31% ส่วนสายพันธุ์เดลต้า B.1.617 (อินเดีย) ตั้งแต่ 21-27 มิถุนายน พบ 459 ราย ขณะที่เมษายน-20 มิถุนายน พบ 661 ราย รวม 1,120 ราย คิดเป็น 12.30% ส่วนสายพันธุ์เบต้า B.1.351 (แอฟริกาใต้) ข้อมูล 21-27 มิถุนายนพบ 89 ราย ตั้งแต่เมษายน-20 มิถุนายนพบ 38 ราย ภาพรวม 127 ราย คิดเป็น 1.39%
          นพ.ศุภกิจกล่าวต่อว่า เมื่อแยกพื้นที่กรุงเทพมหานคร กับภูมิภาค จะเห็นตัวเลขภาพรวมว่า สายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เมษายน-13 มิถุนายนพบ 23.67% ส่วนข้อมูลเมษายน-20 มิถุนายน พบ 22.51% และเมษายน-27 มิถุนายน พบ 25.66% ขณะที่ภูมิภาคพบเดลต้า ตั้งแต่เมษายน- 13 มิถุนายน พบ 2.58% ส่วนข้อมูล เม.ย.- 20 มิ.ย. พบ 4.09% และเม.ย.-27 มิ.ย. พบ 5.05% ตัวเลขดังกล่าวทำให้เห็นว่า ในต่างจังหวัด 90 กว่า% ยังเป็นอัลฟ่า แต่กรุงเทพฯ เดลต้าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า
          คาด2เดือนเดลต้าระบาดหนักแทนอัลฟ่า
          "หากพิจารณาสัปดาห์เดียววันที่ 21-27 มิถุนายน พบสายพันธุ์เดลต้า 16.59% เพิ่มมากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร 1 ใน 3 เป็นสายพันธุ์เดลต้าถึง 32.39% ขณะที่ภูมิภาคเดลต้าอยู่ที่ 7.34% ดังนั้น หากเป็นแบบนี้ คาดว่า 2-3 เดือนสายพันธุ์เดลต้าใน กทม. มากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่า สรุปคือ เราคาดว่า ไม่เกิน 2 เดือน เดลต้าจะมาแทนอัลฟ่า" นพ.ศุภกิจกล่าวและเปิดเผยว่า สายพันธุ์เดลต้า สัปดาห์นี้เพิ่มที่พะเยา 1 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย อุตรดิตถ์ 4 ราย อุทัยธานี 2 ราย นครสวรรค์ 11 ราย พระนครศรีอยุธยา 7 ชลบุรี 1 ราย ขอนแก่น 3 ราย ร้อยเอ็ด 3 มหาสารคาม 1 ราย กาฬสินธุ์ 6 ราย อุดรธานี เพิ่มอีก 23 ราย สกลนครเพิ่ม 22 ราย นครพนม 3 ราย บึงกาฬ 4 ราย เลย 20 ราย หนองคาย 2 ราย หนองบัวลำภู 12 ราย จะเห็นว่าเขตสุขภาพ 8 มีเกือบทุกจังหวัด ส่วนใหญ่ได้ข้อมูลว่า เดินทางจากกรุงเทพฯกลับบ้าน แคมป์คนงานก็อาจมี รัฐก็เข้าไปดูแล โฟกัสที่แคมป์ก่อสร้าง เพราะข้อมูลมีการแพร่ของเดลต้า
          เดลต้าโผล่นราฯ2คนข้ามมาจากมาเลย์
          "น่าสังเกตว่า เดลต้าเดิมไม่มีในภาคใต้ แต่วันนี้พบนราธิวาส 2 ราย จากการสอบข้อมูลเป็นคนข้ามมาจากรัฐเคดาห์ ส่วนกรุงเทพฯ เพิ่มมากสุด 331 ราย ส่วนใหญ่แคมป์คนงานเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ๆ จะเจอสายพันธุ์นี้ด้วย ทำให้ทั้งสัปดาห์เพิ่ม 459 ราย" นพ.ศุภกิจกล่าว
          เจอเบต้ากทม.1ติดจากลูกจากนราฯมาเยี่ยม
          ส่วนสายพันธุ์เบต้า หรือแอฟริกาใต้ สัปดาห์นี้พบถึง 89 ราย ที่สุราษฎร์ธานี 1 ราย แต่ยังรอยืนยันอีก 2 ราย นราธิวาส 84 ราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยระบาดเดิมมาก่อน ยะลา 2 ราย พัทลุง 1 ราย กรณีนี้สัมพันธ์กับโรงเรียน ส่วนกรุงเทพมหานคร มี 1 ราย พบตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน แต่ไม่ได้มีต้นตอพบเชื้อที่กรุงเทพฯเอง สอบสวนโรคพบเป็นคนงาน ในตลาดแห่งหนึ่ง ซึ่งลูกเดินทางมาจากนราธิวาส มาเยี่ยมพ่อแม่ เมื่อกลับไปแล้วไม่สบายก็ตรวจเชื้อ กรมจึงมาตรวจเชื้อพ่อที่กรุงเทพฯ เป็นบวก ขณะนี้อยู่ในความดูแลแล้ว กำลังตรวจญาติอีก 2 คน เมื่อมี รายเดียวเราอาจล็อกอยู่
          แอสตราฯส่งวัคซีนให้สธ.อีก1.3ล้านโดส
          วันเดียวกัน นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัทแอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยความคืบหน้าการส่งมอบวัคซีนให้ประเทศไทยว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนมิถุนายน บริษัท แอสตราเซเนกา ส่งมอบวัคซีนให้ไทยแล้ว 4.7 ล้านโดส และภายในสัปดาห์นี้ บริษัทแอสตราฯ จะส่งมอบวัคซีนแอสตราฯให้สธ. 1.3 ล้านโดส ทำให้ครบ 6 ล้านโดส ตามแผนจัดหาวัคซีน ยืนยันว่า แอสตราฯจะส่งมอบวัคซีนให้รัฐบาลไทยต่อเนื่อง พร้อมเริ่มส่งออกไปประเทศต่างๆ ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป แต่ 1 ใน 3 ของกำลัง การผลิตวัคซีนในประเทศถูกสำรองไว้เพื่อผลิตวัคซีนให้ไทย ตามคำสั่งซื้อรวม 61 ล้านโดส ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของวัคซีน 180 ล้านโดส ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซแอนซ์ ส่วนกำลังผลิต ที่เหลืออีก 2 ใน 3 จะจัดสรรให้การผลิตวัคซีน เพื่อส่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนตุลาคม