เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสในโซเชียล มีเดียปลุกระดมให้ผู้ประกอบการ ร้านอาหารออกมาเปิดให้บริการลูกค้าตามปกติ โดยอ้างอารยะขัดขืน ว่า การโพสต์ ปลุกระดมดังกล่าว เป็นเหมือนการหลอกให้ร้านอาหารที่เดือดร้อนและได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่แล้ว มาตุนอาหารและวัตถุดิบเพื่อเปิดร้านให้บริการ แต่กลับขายไม่ได้ และถูกตำรวจจับกุม หรือกระทบกระทั่งกับตำรวจ เป็นการซ้ำเติม ผู้ประกอบการอย่างหนัก การประกาศชักชวนดังกล่าวโดยอ้างว่ามีผู้ประกอบการ ร่วมอารยะขัดขืนกว่า 200 ร้าน ความเป็นจริงมีเพียงหลัก 10 ร้านเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังรักและเข้าใจถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ ขอย้ำว่าการออกมาเปิดร้านในช่วงนี้ ในลักษณะมั่วสุม แสดงดนตรี ปิดถนน ย่อมถูกตำรวจจับกุมแน่นอน ผู้ประกอบการบางรายที่คิดว่าจะเปิดร้าน แต่ยังคงมาตรการตั้งโต๊ะเว้นระยะห่างนั้น ยืนยันว่าต้องปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด ขณะนี้ต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น ห้ามนั่งในร้านเด็ดขาด
          พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ส่วนด่านสกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ทั้ง 6 จุด ตลอด 6 วันที่ผ่านมาตรวจ ยานพาหนะไป 3,318 คัน และบุคคลในยานพาหนะอีก 6,649 คน ยังไม่พบ ผู้ฝ่าฝืน อาจมีบางกรณีที่แรงงานพยายาม ข้ามจังหวัดเนื่องจากมีเหตุจำเป็นหรือมี อาการเจ็บป่วย ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลแทน ส่วนแคมป์คนงานที่ถูกปิดทางกรุงเทพมหานคร ประชุมหารือร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมแรงงานก่อสร้าง เพื่อหาแนวทาช่วยเหลือและส่งเสบียงอาหารเข้าไปให้แรงงานในแคมป์หลักแล้ว ส่วน แคมป์เล็ก หากมีปัญหาให้ติดต่อไปยัง สมาคมอุตสาหกรรมแรงงานก่อสร้างได้ทันที หรือหากมีปัญหาฉุกเฉินอื่นๆ หรือพบ ผู้ป่วย โทร.191 ทันที ยืนยันว่าทางตำรวจ 191 จะร่วมกับ 1669 กระทรวงสาธารณสุข ช่วยประสานหาเตียงหาโรงพยาบาลให้กับผู้ป่วยโควิด หากทุกคนให้ความร่วมมือ ตามมาตรการที่ออกมาเชื่อว่าภายใน 1 เดือน จะสามารถลดตัวเลขผู้ติดเชื้อลงได้