สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย หรือ สสท. จัดทำข้อมูลเผยแพร่ "สัญญาณสุขภาพ" ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "ภัย" ของ "เด็กไทย"
          โดยเฉพาะ "รถเครื่อง"เรื่องเสี่ยงของวัยโจ๋ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยต้องเสียชีวิต บาดเจ็บ พิกลพิการ ล้วนมีสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากวัยรุ่นไทยยังเมินหมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อก
          ทั้งนี้เพราะรถจักรยานยนต์ เป็นภัยเสี่ยงสำคัญที่คร่าชีวิต อวัยวะ และความเป็นปกติสุขไปจากชีวิตของเด็ก และวัยรุ่นไทยมากยิ่งขึ้นทุกที
          จากการศึกษาที่ผ่านมาพบข้อมูลสำคัญที่สะท้อนว่า สถานการณ์เรื่องนี้ไม่เพียงพอยังคงน่าเป็นห่วงแต่กลับทวีความเสี่ยงจนถึงขั้นชวนวิตกเลยทีเดียว
          เพราะเมื่อส่องสถานการณ์"นักบิดรุ่นกระเตาะ" ในการศึกษาครั้งนี้พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
          เด็กวัย 10-14 ปีที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง ถึงประมาณครึ่งหนึ่งขับรถจักรยานยนต์เอง ทั้งที่อายุยังไม่ถึงวัยที่จะทำใบขับขี่
          เด็กอายุน้อยที่สุดที่เริ่มขับรถจักรยานยนต์เอง คือ 7 ปี สำหรับเพศชาย และ 8 ปี สำหรับเพศหญิง ส่วนอายุเฉลี่ยที่เริ่มขับรถจักรยานยนต์เองเท่ากับ 11 ปี เหมือนกันทั้งเพศชายและเพศหญิง
          เพศชายขับรถจักรยานยนต์มากกว่าเพศหญิงเล็กน้อย  เด็กนอกเขตเทศบาลขับรถจักรยานยนต์มากกว่าเด็กในเขตเทศบาล
          ประการสำคัญ เด็กไทยยังเมิน "หมวกนิรภัย" ในช่วงการสำรวจครั้งนี้ พบว่าใน 1 เดือนที่ผ่านมา เด็กร้อยละ 50 ขับจักรยานยนต์ เด็กที่ขับจักรยานยนต์เองร้อยละ 65 ไม่เคยสวมหมวกนิรภัย โดยมีเพียงร้อยละ 4.5 ที่สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ขณะที่ร้อยละ 7 สวมหมวกนิรภัยเป็นบางครั้ง
          ด้านเด็กที่เคยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ พบว่าใน 1 เดือนที่ผ่านมา ร้อยละ 70.4 ไม่เคยสวมหมวกนิรภัยขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มีเพียงร้อยละ 5.6 ที่สวมหมากนิรภัยทุกครั้ง
          เท่ากับว่าขณะนี้เด็กไทยนิยมบิดมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่สำหรับอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอย่าง"หมวกนิรภัย" กลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกเมิน จึงนับเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง และจำเป็นที่จะต้องมีการรณรงค์กันอย่างจริงจังมากกว่านี้
          โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายจะต้องเป็นกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สมควรอะลุ้มอล่วยกันอีกต่อไป
          ทั้งนี้เพราะอุบัติเหตุภัยอันตรายที่เกิดขึ้นมันไม่คุ้มค่ากับการป้องกัน โดยเฉพาะการต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่จักรยานยนต์
          แต่ก็อย่างว่าแหละ แม้จะรณรงค์กันแทบเป็นแทบตาย แต่พวกวัยโจ๋ทั้งหลายยังคงคึกคะนองตามสไตล์ ใครเป็นพ่อเป็นแม่ทุกข์ใจจนพูดไม่ออก ผมเห็นใจที่สุด
          ดังนั้นทางเดียวคือต้องสร้างวินัยให้เด็กรุ่นใหม่นับแต่บัดนี้!?!!!