นายแพทย์บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในแต่ละปี มีประชาชนป่วยด้วยโรคที่มียุงเป็นพาหะนำโรคจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกกำลังระบาดและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่สนับสนุนงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศจึงได้มค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยใช้น้ำกากชูรสที่เป็นสิ่งเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมผลิตผงชูรส มาใช้เป็นวัตถุดิบในการเพาะเลี้ยงเซลล์ แบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส (Bacillus thuringiensis) หรือ บีที ซึ่งเป็นแบคทีเรียกำจัดลูกน้ำยุงลาย
จากการศึกษาพบว่าน้ำกากชูรสสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์แบคทีเรียได้ และมีประสิทธิภาพกำจัดลูกน้ำยุงลายใกล้เคียงกับแบคทีเรียมาตรฐานในอนาคตอาจนำไปสู่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายต่อไป
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แบคทีเรียที่ได้รับการยอมรับให้นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กำจัดลูกน้ำยุงลายนั้นมี 2 ชนิด คือ Bacillus thuringiensis subsp.israelensis เป็นแบคทีเรียที่มีศักยภาพในการฆ่าลูกน้ำยุงได้หลายชนิด โดยเฉพาะการใช้กำจัดลูกน้ำยุงลาย รวมทั้งริ้นดำ และบาซิลลัส สเฟียริคัส (Bacillus sphaericus) เป็นแบคทีเรียที่มีศักยภาพในการกำจัดลูกน้ำยุงก้นปล่องและยุงรำคาญได้ดี ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนา Bacillus thuringiensis subsp. israelensis เป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าหลายชนิดในต่างประเทศแต่มีราคาสูงดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เห็นว่าน้ำกากชูรสเหลือทิ้งสามารถสร้างงานวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ จากสิ่งเหลือทิ้งได้หลายสาขา จึงได้มีการศึกษาและพัฒนาเป็นอาหารเพาะเลี้ยงแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis เพื่อนำไปสู่การทำผลิตภัณฑ์เพื่อใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายต่อไป ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า รวมทั้งช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย |