Follow us      
  
  

สยามรัฐ [ วันที่ 07/05/2563 ]
เลขหลักเดียวศบค.พอใจ อยากเห็นภาพไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัส

ผู้นำ'ทรัมป์'ยอมรับโควิด-19ร้ายยิ่งกว่าเหตุ'เพิร์ลฮาร์เบอร์'
          "ศบค."แถลงไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม3 ราย ไม่มีเสียชีวิต "กทม."ยังแชมป์ผู้ป่วยสะสมสูงสุดชี้เป็นข่าวดีตัวเลขยังอยู่หลักเดียว ย้ำอยากเห็นภาพนี้ไปตลอด ด้าน "ทรัมป์"โอด! วิกฤติโควิดฯป่วนเมืองลุงแซมเลวร้ายยิ่งกว่าเหตุโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และเหตุก่อการร้าย 9/11 ส่วน "พอมเพโอ" ตามถล่มปักกิ่งซ้ำปิดข้อมูลโรคระบาดจนผู้คนทั่วโลกตายนับแสน ขณะที่สถานการณ์ไวรัสมรณะยังลุกลามไม่หยุด
          ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 พ.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่ายอดผู้ติดเชื้อสะสมขณะนี้ 2,992 รายใน 68 จังหวัด โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิต 55 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 11 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม2,772 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล165 ราย
          สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 รายได้แก่ การค้นหาเชิงรุก(Active Finding)1 ราย เป็นหญิงอายุ 59 ปี เป็นชาวจ.ยะลา สัมผัสผู้ป่วย ยืนยันจากมาเลเซียและกลุ่มผู้ป่วยที่เดินทางจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine 2 รายเป็นชาย อายุ 46 ปี และ 51 ปี เดินทางมาจากคาซัคสถาน และเข้า State Quarantine ตรวจพบจากแนวทางการคัดกรองผู้ที่มาจากต่างประเทศ
          ทั้งนี้ สัดส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ กรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,697 ราย / ภาคเหนือ 94 ราย/ ภาคกลาง 380 ราย / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย / ภาคใต้ 708 รายโดยมี 9 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วย ดังนี้ กำแพงเพชร ชัยนาทตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรีอ่างทอง
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ตัวเลขผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ ยังเป็นเลขหลักเดียวซึ่งเราอยากให้เห็นภาพนี้ไปนานๆ หลักเดียวไปตลอด
          ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 หรือไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ นั้นส่งผลกระทบในระดับที่รุนแรงและเลวร้ายยิ่งกว่าเหตุการณ์โจมตีท่าเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเหตุวินาศกรรมไนน์วันวัน (9/11)จากขบวนการก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 (พ.ศ.2544) เสียอีก
          พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้กล่าวตำหนิจีน โดยระบุว่า เป็นความผิดของทางการจีนที่ปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในเมืองอู่ฮั่นซึ่งเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทั้งๆที่จีนสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดไม่ให้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ต้นได้
          นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้กล่าวถึงแผนการของคณะทำงานเฉพาะกิจตอบสนองเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า นับจากนี้ทางการสหรัฐฯ จะเพิ่มการให้ความสำคัญต่อการเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น แม้ว่าตนยอมรับว่าการเปิดพื้นที่ดังกล่าวในตอนนี้ มีความเสี่ยงก็ตาม แต่ทุกภาคส่วนจะหยุดนิ่งในลักษณะนี้ต่อไปไม่ได้
          ทางด้าน นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกมากล่าวโจมตีจีนจากกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัสโควิด-19 ซ้ำว่า ทางการปักกิ่งปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสข้างต้น และจะต้องรับผิดชอบต่อการแพร่ระบาดนั้นด้วย
          โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า จีนสามารถป้องกันไม่ให้ผู้คนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกนับแสนคนเสียชีวิตแต่จีนกลับเลือกที่จะปกปิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ที่มีต้นกำเนิดจากจีนเอง
          พร้อมกันนี้ นายพอมเพโอ ยังกล่าวอีกว่า จีนไม่ตอบสนองเท่าที่ควรต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส มิหนำซ้ำทางการจีน ก็ยังประณามแพทย์ในเมืองอู่ฮั่น ที่ออกมาเตือนถึงเชื้อไวรัสดังกล่าวด้วย ก่อนที่ทางการจีนจะประกาศการแพร่ระบาดในเวลาต่อมา และจีนก็ปฏิเสธที่จะแบ่งปันข้อมูลที่สหรัฐฯ ต้องการ เพื่อให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน
          นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯยังได้เรียกร้องให้ทุกประเทศสนับสนุนต่อไต้หวันให้ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ว่าด้วยสุขภาพโลกในเดือนพ.ค.นี้ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย
          ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลกส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 3,820,656 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 265,094 รายและผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 1,303,097 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,263,183 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ1 จำนวน 74,807 ราย

 pageview  1210930    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved