|
สยามรัฐ [ วันที่ 18/11/2563 ] |
|
|
|
|
ไทยหยุดไม่อยู่ป่วยเพิ่มอีก3โลกติดเชื้อทะลุ55ล้านคน |
|
|
|
|
ไทยติดโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 3 รายนำเข้าจากฟิลิปปินส์-สหราชอาณาจักร หายเพิ่ม 3 ยังไร้ตายเพิ่ม ขณะที่สถานการณ์เชื้อไวรัสมรณะยังแพร่ระบาดทั่วโลกไม่หยุดจนผู้ป่วยยอดทะลุ 55 ล้านคน
เมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 3 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศคือ ฟิลิปปินส์ 1 ราย และสหราชอาณาจักร 2 ราย และได้อยู่ในสถานที่กักกัน และเข้ารับการรักษาแล้วรวมยอดผู้ป่วยสะสม 3,878 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 60 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 3 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาหาย 3,724 ราย และยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 94 ราย
ด้าน นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เตรียมให้บรรดามุขมนตรีทั้ง 16 รัฐ ลงนามในมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งว่าด้วยการจำกัดการพบปะ การลดจำนวนนักเรียนในห้องเรียน และการบังคับให้สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยภายในโรงเรียน รวมถึงการจำกัดการพบปะกันในหมู่พลเมืองด้วย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่กำลังลุกลามอย่างรุนแรงทั่วประเทศ
รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรการเข้มงวดข้างต้น กำหนดให้ตามโรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ จำกัดจำนวนนักเรียนในห้องเรียนเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจากจำนวนเดิม การเรียนการสอนวิชาต่างๆ ก็ใช้ห้องเรียนเดิม ไม่ให้เปลี่ยนห้องเรียนแต่ละวิชาเหมือนในเวลาปกติ และในช่วงพักเรียนนักเรียนจะจับกลุ่มกับเพื่อนได้กลุ่มละ 1 คนเท่านั้น และทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในโรงเรียน ส่วนมาตรการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไป ก็ได้จำกัดการพบปะกันของพลเมืองอย่างเข้มงวด โดยมาตรการดังกล่าว อาจทำให้ชาวเยอรมันไม่สามารถจัดงานสังสรรค์ส่วนตัวไปจนกระทั่งถึงเทศกาลคริสต์มาสในปลายเดือนหน้าด้วย ในส่วนของผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย แม้กระทั่งโรคไข้หวัด ที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล ก็จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเป็นเวลา 5-7 วัน หรือจนกว่าจะไม่มีอาการดังกล่าว
ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 217 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน55,349,954 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 1,332,328 รายและผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 38,493,826 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 11,538,057 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ1 จำนวน 252,651 ราย |
| | |
|
|