Follow us      
  
  

สยามรัฐ [ วันที่ 12/01/2564 ]
4กลุ่มนำร่องฉีดวัคซีน คกก.โรคติดต่อพุ่งเป้ากลุ่มเสี่ยง

 โควิดไทยป่วยอีก249 'ทร.'กัก500กำลังพลหวั่นติดเชื้อโรงเบียร์
          ไทยติดเชื้อ "โควิด" รายใหม่เพิ่ม 249 ราย ระบุพบผู้ป่วยอาการหนัก 28 รายต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 5 ราย เตือนคนมั่วสุมระวังเสี่ยงติดคนในครอบครัว ยิ้ม!ยอดดาวน์โหลด "หมอชนะ" ทะลุ 6.34 ล้านครั้ง ขณะที่ "กรมควบคุมโรค" เผยวันเดียว "สมุทรสาคร" เจออีก 80 ราย "กทม." รายใหม่มาอันดับ 2 ที่ 37 ราย ตามด้วยนนทบุรี 36 ราย ระยอง 20 ราย ด้าน "กองทัพเรือ" เผย 2 ทหารเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ติดโควิด เชื่อมโยงโรงเบียร์สัตหีบ พร้อม "กักตัว" กำลังพล 500 นาย ส่วน "อนุทิน" พ้นกักตัว 14 วันไม่ติดโควิด-19 พร้อมลุยงาน จ่อเสนอผ่อนปรนพื้นที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ 7-14 วันติดต่อกัน ขณะที่ มติ คกก.โรคติดต่อฯให้ 4 กลุ่มนำร่องฉีดวัคซีนโควิด
          เมื่อวันที่ 11 ม.ค.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กว่า "วันนี้พ้นกำหนดการกักตัว และได้เข้าประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตั้งแต่ 07.30 น. และที่กระทรวงสาธารณสุขจะประชุมในเวลานี้ทุกวันไม่มีวันหยุดต่อเนื่องเกือบ 1 เดือน นับตั้งแต่มีการระบาดระลอกใหม่กลาง ธ.ค.ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมโรคให้เร็วที่สุดและป้องกันการสูญเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ทั้งนี้ที่ประชุมได้นำเสนอข้อมูลการควบคุมโรคที่มีแนวโน้มได้ผลดีในหลายพื้นที่ และเริ่มมีการพูดคุยกันถึงการผ่อนปรนการทำกิจกรรมต่างๆ ในจังหวัด หรือพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ และพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อมาอย่างน้อย 7-14 วันติดต่อกัน น่าจะเป็นกำลังใจและเป็นความหวังให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ การทำกิจกรรม การประกอบอาชีพ การค้าขาย ก็น่าจะกลับมาได้ อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็น่าจะดีกว่าถูกจำกัดหลายๆ เรื่อง
          ที่กระทรวงสาธารณสุข ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทินเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่ 1/256 4โดย นายอนุทิน กล่าวว่าวันนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการเตรียมความพร้อมการให้บริการวัคซีน โควิด-19 ในประเทศไทย ด้านการบริหารจัดการวัคซีน การสร้างการรับรู้ การให้บริการวัคซีน การกำกับติดตามผลการดำเนินงาน และการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต การรักษาความมั่นคงของระบบสาธารณสุขและสังคม ลดการแพร่กระจายเชื้อ ความเสี่ยงผู้สัมผัส โดยวัคซีนที่จัดหามานั้น ได้มาตรฐาน คุณภาพและได้รับการขึ้นทะเบียนกับ อย.เรียบร้อย ในช่วงแรกที่วัคซีนจำกัด เป้าหมายคือการลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตและปกป้องระบบสุขภาพประเทศ กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับอันดับต้นคือ 1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน 2.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรังหัวใจ และหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรังโรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน3.ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 4.เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 เช่น อสม. ทหาร ตำรวจ ที่จะต้องคัดกรองผู้ที่เข้ามาจากต่างประเทศและในพื้นที่ที่มีการระบาด เริ่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยจะฉีดคนละ 2 เข็มห่างกัน 1 เดือน นอกจากนี้ ได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ของไทย
          ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 249 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 176 ราย แรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 48 รายและผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 25 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 10,547 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 138 ราย กลับบ้านแล้ว 6,566 ราย อยู่ระหว่างรักษา
          3,914 ราย โดยผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มีอาการหนัก 28 คนและมีผู้ป่วยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 5 ราย
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมยาเสพติดมากยิ่งขึ้น เป็นการสะท้อนว่าการมั่วสุม จะกลายเป็นคลัสเตอร์ติดเชื้อรอบใหม่ได้หรือไม่ว่า ได้ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นอุทาหรณ์ ไม่ว่าจะเสียชีวิตด้วยโควิด หรือยาเสพติดก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวทั้งสิ้น โดยเฉพาะคนกลุ่มเหล่านี้อาจจะไปติดกับคนในครอบครัวได้
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นต่อวัน จากความสามัคคีกัน คือ การใช้แอพพลิเคชัน "หมอชนะ" ซึ่งวันนี้ดีใจอีกวัน ที่มีการดาวน์โหลดแอพฯ จากเดิม 5.96 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นไปเป็น 6.34 ล้านครั้ง แต่ตัวเลขสำคัญ คือการลงทะเบียน เพิ่มเป็น4.4 ล้านคน วันเดียวเพิ่ม 1.5 ล้านคนจึงต้องขอบคุณในความสามัคคีของคนไทย เพื่อสร้างภาวะทางสังคมที่ดี
          ขณะที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่และสะสมวันที่ 15 ธ.ค.63-11 ม.ค.64 ข้อมูลวันที่ 11 ม.ค.64 เวลา 00.00 น. พบว่ายอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในรอบนี้ อยู่ที่ 6,090 รายแล้ว สำหรับ 10 จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุด(วันที่ 11 ม.ค.64) อันดับ 1 คือ จ.สมุทรสาคร วันนี้พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 80 ราย รวมยอดป่วย 3,341 ราย อันดับ 2 จ.ชลบุรีพบผู้ป่วยเพิ่ม 20 ราย รวมยอดป่วย 587 ราย อันดับ 3 จ.ระยอง พบป่วยเพิ่ม 11 ราย รวมยอดป่วย 532 ราย อันดับ 4 กทม.ป่วยเพิ่มอีก 37 ราย รวมยอด 456 ราย อันดับ 5 จ.สมุทรปราการ ป่วยเพิ่มอีก 8 รวมยอด 269 รายอันดับ 6 จ.จันทบุรี ป่วยเพิ่มอีก 2 รวมยอด 212 ราย อันดับ 7 จ. นนทบุรี พบป่วยเพิ่ม 36 ราย รวมยอด 145 ราย อันดับ 8 จ.นครปฐม ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม รวมยอด 75 รายอันดับ 9 จ.อ่างทอง พบป่วยเพิ่ม 19 รายรวมยอด 73 ราย อันดับ 10 จ.ปทุมธานีพบป่วยอีก 1 ราย รวมยอด 47 ราย
          ทางด้าน พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยมโฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่าจากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และตรวจสอบพบว่าโรงเบียร์ป๋าแดงที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีกำลังพลของเรือหลวงจักรีนฤเบศร เข้าไปใช้บริการติดเชื้อ 2 นายว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล หากพบว่ากระแสข่าวเป็นเรื่องจริงก็ต้องกักตัว กำลังพลบนเรือทั้งหมดที่มีประมาณ 500 นาย เพราะต้องตรวจสอบว่า กำลังพลคนใดเป็นคนนำเชื้อโควิด-19 เข้ามา
          ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงกรณีการลักลอบข้ามแดนแบบผิดกฎหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย เข้มงวด ในเรื่องนี้นอกจากนี้ทางปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในข้อสั่งการเป็นหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดให้เข้ม งวดตามแนวชายแดน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำความผิด จะดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
          ขณะที่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีน หรือเอ็นเอชซี เปิดเผยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ตลอดช่วง 24 ชั่วโมงของวันจันทร์นี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จำนวน 103 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ปีที่แล้ว หรือกว่า5 เดือนเป็นต้นมา ที่ในครั้งนั้นพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จำนวน 127 ราย
          โดยเอ็นเอชซี เปิดเผยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อที่พบข้างต้น เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในชุมชนจำนวน 85 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวมณฑลเหอเป่ย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และมีพื้นที่รอบกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจำนวนถึง 82 ราย ส่วนที่เหลือพบในมณฑลเหลียวหนิง จำนวน 2 ราย และในกรุงปักกิ่ง 1 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศมีจำนวน 18 ราย
          ทั้งนี้ ผลจากการพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เป็นจำนวนมากดังกล่าว ทำให้ทางการจีน ได้มีคำสั่งประกาศบังคับใช้มาตรการปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ มณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตอนเหนือ ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดฯ จากต่างประเทศจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
          สำหรับ สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดฯ ในประเทศจีน พบผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนสะสมอยู่ที่ 87,536 รายมากเป็นอันดับที่ 82 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 4,634 ราย
          ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ 218 ประเทศ ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 90,693,590 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 1,943,173 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 64,813,856 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 22,917,334 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ1 จำนวน 383,275 ราย

 pageview  1210900    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved