นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สภาพอากาศหนาวเย็นในขณะนี้ประชาชนจะเสี่ยงเจ็บป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ อาทิ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ปอดบวมได้ง่าย เนื่องจากเชื้อไวรัสเจริญเติบโตได้ดีและสภาพอากาศแห้ง ที่น่าห่วงคือกลุ่มผู้สูงอายุ ขณะนี้ทั่วประเทศมีประมาณ 8 ล้านคน ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว เช่นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 48 เบาหวานร้อยละ 16 ซึ่งภัยของสภาพอากาศที่หนาวเย็น อาจมีผลให้โรคประจำตัวที่กล่าวมากำเริบ มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น ขอให้รักษาความอบอุ่นของร่างกายเป็นกรณีพิเศษ สวมเสื้อผ้าที่หนาหรือเครื่องกันหนาวอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะเวลากลางคืน เนื่องจากระบบประสาทรับรู้ความหนาวเย็นที่ผิวหนังของผู้สูงอายุจะมีความไวลดลงจึงไม่สามารถตอบสนองต่อความเย็นของอากาศรอบตัวด้วยการหนาวสั่นหรือการหดตัวของกล้ามเนื้อ เพื่อให้เกิดความอบอุ่นได้ดีเหมือนในคนหนุ่มสาว หากปล่อยให้อุณหภูมิของร่างกายลดลงมากผิดปกติ จะทำให้เลือดมีสภาพหนืดข้นและเส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดในร่างกายไม่ดี หัวใจต้องทำงานเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายหนักขึ้น อาจเสียชีวิตได้
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัด โดยเฉพาะในภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอากาศหนาวเย็นกว่าภาคอื่นๆให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงโดยสวมเสื้อผ้าหนาๆ เครื่องกันหนาว เพื่อรักษาร่างกายให้อบอุ่น ได้แก่ 1.หน้าอกซึ่งมีหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย 2.ลำคอ ในที่ที่หนาวมากควรใช้ พันผ้าพันคอ และ 3.ที่ศีรษะ ควรสวมหมวกเพื่อลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย