ตั้งแต่วันที่วันที่ 1 ม.ค.2564 เป็นต้นไปปัญหา "การขอใบส่งตัว" ในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล นอกสิทธิ ของผู้ป่วยถือบัตรประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ "บัตรทอง"
          ซึ่งอุปสรรคหนึ่งในการเข้าถึงการรักษาจะได้รับการแก้ไข ให้ผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรทองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล คือ จ.นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ รวมถึง จ.สมุทรสาคร สามารถรักษาต่อเนื่องได้ทันทีตามการวินิจฉัยของแพทย์โดยไม่ต้องมี ใบส่งตัว ใช้เพียงบัตรประชาชนตรวจสอบตัวตนผู้ป่วยก่อนขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
          ระเบียบเดิมผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่เข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ต้องนอนรักษาต่อเนื่องด้วยสาเหตุทางการรักษา ซึ่งในกรณีที่ใบส่งตัวครบกำหนด ในการใช้สิทธิบัตรทองต่อเนื่อง ผู้ป่วยหรือญาติต้องกลับไปยังหน่วยบริการประจำเพื่อขอใบส่งตัวใหม่ เกิดความ ไม่สะดวกโดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ต่างจังหวัด
          ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตรวจพบการเบิกจ่ายเท็จของหน่วยบริการปฐมภูมิ คือ "คลินิกชุมชนอบอุ่น" ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึงยกเลิกการเป็น หน่วยบริการบัตรทอง 175 แห่ง ส่งผลให้ผู้อยู่ในสิทธิบัตรทองเขต กทม.กว่า 1 ล้านคนไม่มีหน่วยบริการประจำ นโยบายดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาผู้ถือสิทธิบัตรทองให้สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง
          ขณะเดียวกัน ประชาชนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งจะได้รับใบรับรอง และประวัติ หรือโค้ด (Code) สามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่ พร้อม เพราะเป็นภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ อาการลุกลามและมะเร็งบางชนิด ยังเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะรักษา ให้หายขาดได้ แต่ด้วยขั้นตอนการส่งตัวผู้ป่วยสิทธิบัตรทองบางครั้งอาจเป็นอุปสรรคทำให้ผู้ป่วยมะเร็งไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ โดยเร็ว
          ดังนั้น สปสช.ได้ปรับระบบการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยผู้ป่วย ที่ถูกวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งจะได้ใบรับรองและประวัติ หรือ Code เพื่อเลือกไปรับบริการที่อื่นผ่าน 3 ช่องทาง คือ สายด่วน สปสช. 1330, แอพพลิเคชั่น สปสช. และติดต่อที่หน่วยบริการโดยตรง เฉพาะที่ โรงพยาบาลรักษามะเร็งที่มีความพร้อมเข้าร่วม ให้บริการตาม โปรโตคอลรักษามะเร็ง บริการระบบสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) บริการปรึกษาเภสัชกรทางไกล (Tele pharmacy) และการให้ ยาเคมีบำบัดที่บ้าน (Home Chemotherapy) โดยค่าบริการให้ ส่งข้อมูลเบิกจ่ายมายัง สปสช. ซึ่งได้มีการออกแบบการบริหารจัดการ ไว้แล้ว
          ส่วนกรณีย้ายหน่วยบริการได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน ประชาชนสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการใหม่ได้ทันทีหลัง เปลี่ยนหน่วยบริการประจำ รวมถึงกรณีที่ประชาชนเปลี่ยนหน่วยบริการเองผ่านแอพพลิเคชั่น สปสช. โดยหน่วยบริการสามารถพิสูจน์สิทธิและเบิกจ่ายค่าบริการผ่านบัตรประชาชน Smart card
          ทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข "อนุทิน ชาญวีรกูล" ที่ต้องการยกระดับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) สามารถ ไปรับบริการที่ไหนก็ได้ พัฒนาระบบบริการ ช่วยลดขั้นตอน แก้ไข ปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้ารับบริการให้กับประชาชน ผู้มีสิทธิ
          จากนี้ไปจะไม่มี "ผู้ป่วยอนาถา" เพราะว่าทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขแล้ว