Follow us      
  
  

กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 01/10/2563 ]
ทีมวิชาการจ่อถก ลดวันกักตัว เน้นเศรษฐกิจปลอด โควิด-19

 กรุงเทพธุรกิจ คาดตัวเลขจริง ทั่วโลกติดโควิดทะลุ 100 ล้านคน สธ.ย้ำ 6 กลุ่มเข้าไทยยังต้องกักตัว 14 วันเพียงพอป้องกันคนติดเชื้อหลุดเข้าประเทศ เผยทีมวิชาการกำลังทบทวนทุกมิติก่อนพิจารณาลดวันกักตัว-ผ่อนคลายแบบคนไทยไม่เสี่ยง ลั่นตัดสินใจบนฐานสร้างสมดุลปลอดภัยเศรษฐกิจ
          กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ประจำวันที่ 30 ก.ย. โดย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค สธ. ระบุถึงสถานการณ์โลกว่า ทั่วโลกยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีการรายงานยืนยันการติดเชื้อ อยู่ที่ประมาณ 33 ล้านคน แต่นักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าผู้ติดเชื้อจริงค่อนข้างมาก เนื่องจากการรายงานผู้ติดเชื้อยืนยันนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละประเทศในการตรวจวินิจฉัย ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าทั่วโลกอาจมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อจริงมากกว่า 100 ล้านรายเรียบร้อยแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตที่มีการรายงานประมาณ 1 ล้านราย แน่นอนว่าอาจต่ำกว่าความเป็นจริงเช่นเดียวกัน
          ขณะที่ สถานการณ์ในประเทศไทย ถือว่าดีกว่าสถานการณ์ของทั้งโลกมาก โดยพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นมา มีผู้ป่วยเพียง 1 ราย ที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ แต่มีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยรายใหม่ได้ ซึ่งต่างจากคำว่าเกิดการระบาดระลอกใหม่ เพราะการเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่อาจไม่ใช่การระบาดระลอกใหม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับมาตรการควบคุมป้องกันโรค ว่าทำได้ดี และเข้มข้นแค่ไหน หากทำอย่างเข้มข้น ก็จะทำให้เมื่อการเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่จะควบคุมได้เร็วและไม่เกิดการระบาด และหากเกิดการระบาดระลอกสองขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่กว่าระลอกหนึ่งเสมอไป
          "6 กลุ่ม" เข้าไทยกักตัว 14 วัน
          นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่อนุญาตให้คนไทยและต่างชาติ 6 กลุ่ม เดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นนั้น ทั้งหมดยังต้องเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังโรค ด้วยการเข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนดเป็นเวลา 14 วันเช่นเดิม
          ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า การกักตัว 14 วันไม่เพียงพอนั้น ในความเป็นจริงคือ หลัง 14 วันเป็นต้นไป ไม่เคยเจอว่ามีใครติดเชื้อ ดังนั้นระยะเวลา 14 วัน สามารถป้องกันการติดเชื้อเข้ามาในประเทศได้ แต่ที่ผ่านมา อาจสับสนระหว่างการติดเชื้อ และการตรวจพบเชื้อหลัง 14 วัน เพราะปัญหาของโควิด-19 คือ
          ส่วนใหญ่จะมีค่าเฉลี่ยการตรวจเจอเชื้อจากการแยงจมูก ส่งตรวจอยู่ที่ 17 วัน แต่อาจมีบางคนสามารถตรวจเจอเชื้อในช่วงเวลานานกว่านั้น เช่น คนที่มีปริมาณเชื้อจำนวนมาก มีอาการรุนแรงมาก่อน รวมถึงผู้สูงอายุและผู้ภูมิคุ้มกันต่ำ มีรายงานนานที่สุด ที่ยังตรวจเจอเชื้อ คือ 83 วัน
          "คนที่กักตัวก่อนเข้าประเทศแล้ว ไม่มีใครเลยที่ติดเชื้อ และเข้ามาในประเทศ ที่ผ่านมาเจอคนที่เคยติดเชื้อมาก่อน และผ่านการกักตัวแล้ว แต่ปรากฏว่าเจอเชื้ออีกครั้ง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การติดเชื้อใหม่แต่เป็นการตรวจเจอเชื้อได้อีกครั้ง โดยเชื้อไม่สามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ ซึ่งการที่ตรวจเจอเชื้อในผู้ที่เดินทางมาไทยนั้น จะตอบได้ว่าเป็นการติดเชื้อมาก่อน หรือเพิ่งติดก่อนมาไทยไม่นาน จึงต้องตรวจด้วยการเจาะเลือด หาภูมิคุ้มกันร่วมด้วย" นพ.ธนรักษ์กล่าว
          ทีมวิชาการหารือลดวันกักตัว
          ต่อข้อถามการลดวันกักตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาประเทศจาก 14 วันเหลือ 7 วัน นพ.ธนรักษ์ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังมีการกักตัวทุกคนที่ 14 วัน แต่เริ่มมีนักวิจัยทบทวนมาตรการที่ประเทศต่างๆ รวมทั้ง เครื่องมือใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้เสริมจากวิธีการดั้งเดิมที่ใช้อยู่ จึงเริ่มส่งสัญญาณว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะลดระยะเวลากักตัว ซึ่งเรื่องนี้ทีมวิชาการโควิด-19 ของประเทศไทย อยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างใกล้ชิด หากนำมาใช้ก็จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนไทย และปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งในการพิจารณาไม่ได้มองแค่มิติเดียว แต่พิจารณาในความเสี่ยงภาพรวม และความพร้อมในการจัดการกับเหตุการณ์ใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ดีแค่ไหน
          ยกตัวตัวอย่าง บางเมืองในบางประเทศไทย มีสถานการณ์ของโรคดีกว่าประเทศไทย เพราะไม่เจอผู้ป่วยมากกว่า 200 วันแล้ว ซึ่งแสดงว่าในพื้นที่มีผู้ป่วยน้อยมากๆ ดังนั้นคนที่เดินทางจากพื้นที่ที่ไม่มีผู้ป่วยมานาน เข้ามาในประเทศที่ไม่มีผู้ป่วยเหมือนกัน โอกาสที่จะนำเชื้อเข้ามาในประเทศไทยก็ต่ำมาก ๆ เป็นต้น
          นพ.ธนรักษ์ กล่าวด้วยว่า การวางแผนระยะต่อไปไม่ได้พิจารณาแค่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ประเด็นเดียวเท่านั้น แต่พิจารณาภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่ความเสี่ยงของประเทศต้นทาง วิธีการกักตัวแล้ว หลังจาก 7 วัน จะสามารถให้ผู้เดินทางทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ใช่ว่ากักตัวครบ 7 วันแล้วจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่จะมีวิธีการผ่อนคลายระดับหนึ่ง ที่ไม่ทำให้คนไทยเสี่ยงจนเกินไป
          ขณะเดียวกัน ก็อำนวยความสะดวกหลายๆ อย่างให้คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศด้วย ซึ่งการพิจารณาไม่ได้มองเฉพาะมิติเรื่องความต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเดียวเท่านั้น แต่ดูเรื่องของความปลอดภัยคนไทยด้วย ไม่อยากจะทำให้เสียสมดุล โดย สธ.ยินดีสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นด้วยการก้าวย่างไปพร้อมกับความปลอดภัย

 pageview  1210916    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved