|
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 02/04/2564 ] |
|
|
|
|
สธ.เปิดจองแอสตร้า5ล้านโดส ดีเดย์พ.ค.-ติดเชื้อใหม่26ราย |
|
|
|
|
กรุงเทพธุรกิจ สธ.มั่นใจแผนวัคซีน โควิดตามเป้า"ซิโนแวค" 1 ล้านโดสถึงไทย 10 เม.ย.กระจายฉีดกลุ่มเป้าหมายกลางเดือน ขณะที่"แอสตร้าฯ"ล็อตผลิตในไทย 5 ล้านโดสแรกส่งมอบ พ.ค. จะเปิดให้ ประชาชนจองผ่านไลน์-แอพ"หมอพร้อม"คาด"ภูเก็ต" จังหวัดแรกมีภูมิคุ้มกันระดับพื้นที่ ออกใบรับรองวัคซีนแล้ว 3.5 หมื่นคน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดเหลือ 26 ราย
สถานการณ์โรคโควิด-19 ระลอก 2 ในประเทศไทยขณะนี้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับ หน่วยงานต่างๆ ควบคุมโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ พบผู้ติดเชื้อประปราย ไม่มีการแพร่ระบาดรุนแรง ขณะที่ความคืบหน้าการสั่งซื้อวัคซีน 2 บริษัทคือซิโนแวค 2 ล้านโดสและ แอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส คาดว่าจะได้รับ ในเดือน มิ.ย.2564 ตามแผน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัคซีนซิโนแวค 2 แสนโดสแรก ฉีดเข็มที่ 1 ในเดือนมี.ค.ได้ครบตามเป้าหมายแล้ว ขณะนี้ได้กระจายวัคซีนอีก 8 แสนโดสไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตามแผนการจัดสรรของคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการ การให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข อสม. เจ้าหน้าที่ ด่านหน้าตามความสมัครใจ เน้น ในพื้นที่เป้าหมายเพื่อควบคุมการระบาด 6 จังหวัด พื้นที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัดท่องเที่ยว 8 จังหวัด จังหวัดชายแดน 8 จังหวัด และจัดสรรให้จังหวัดที่ยังไม่เคย ได้รับวัคซีน 52 จังหวัด
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมระบบให้มี ความพร้อมสำหรับการฉีดวัคซีนล็อตใหญ่ที่จะมาถึงในเดือนมิ.ย.นี้ และจะได้รับวัคซีนซิโนแวคที่เหลืออีก 1 ล้านโดสในประมาณกลางเดือนเม.ย.นี้
เร่งเพิ่มจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลง วานนี้(1 เม.ย.) ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งกระจายและ ฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อรองรับ นโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ให้เร็วที่สุด ทุกคนในประเทศปลอดภัยโดยเป้าหมายเชิงพื้นที่กำหนด พื้นที่เป้าหมายหลักที่จำเป็นจะต้อง มีวัคซีนได้ในสัดส่วน 50-60% ของประชากรในพื้นที่ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันระดับพื้นที่
เป้าหมายเชิงระบบ ที่จะดูแลเรื่องการฉีด ซึ่งเดิมมีการพิจารณาการฉีดในโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนเป็นหลัก หากฉีดแห่งละ 500 คนต่อวัน เฉลี่ย 1 เดือนจะฉีด ได้ราว 10 ล้านโดส แต่จากการ ดำเนินการฉีดที่โรงพยาบาลสนามในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น ตลาดบางแค ก็มีความปลอดภัย หรือรถพยาบาลที่มีเครื่องมือดูแลที่เหมาะสม จะสามารถจัดสถานที่ฉีดได้ หากเพิ่มบริการฉีดที่โรงพยาบาลสนามได้อีกจะทำให้สามารถฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้น
โดยขณะนี้ภาคเอกชนหลายแห่งพร้อมสนับสนุนสถานที่ให้เข้าไปจัดระบบการฉีด เช่น เซ็นทรัล และบิ๊กซี เป็นต้น จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้ ซึ่งโรงพยาบาลสนามสามารถฉีดวัคซีนได้ 1,200 คนต่อวัน เพราะฉะนั้นการฉีดได้เดือนละ 10 ล้านโดสไม่ใช่ปัญหา แต่อยู่ที่ให้มีคนเข้ามาฉีดโดยจัดระบบไม่ให้มีความแออัด
ระบบข้อมูลทั้งการนัดหมายการฉีด และการติดตามเฝ้าระวังหลังการฉีด ซึ่งระยะแรกที่มีวัคซีนจำกัด สธ.จะกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีนเป็นบุคลากรด้านสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และประชาชนกลุ่มเสี่ยงก่อน จะมีระบบนัดหมายผ่านไลน์หมอพร้อม หรือโรงพยาบาลแจ้งไปให้มารับวัคซีนหรือ อสม.ตามตัว เป็นต้น
จองคิวแอสตร้าฯเริ่มล็อต5ล้านโดส
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า สำหรับประชาชนทั่วไปจะสามารถจองคิวเข้ารับการฉีดวัคซีน ผ่านระบบไลน์และแอปพลิเคชั่นหมอพร้อมได้ในช่วงปลายพ.ค. เนื่องจากวัคซีนล็อตใหญ่ที่ไทยสั่งซื้อจาก แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 61 ล้านโดส และผลิตในประเทศไทย โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์นั้น แนวโน้มว่า จะส่งมอบล็อตแรกราว 5 ล้านโดส ในช่วงกลางเดือนพ.ค. ซึ่งจะเริ่มฉีดได้ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป จากนั้นจะทยอยส่งให้เดือนละ 10 ล้านโดสอีก 5 เดือนและเดือนธ.ค. ส่งมอบล็อตสุดท้าย 5 ล้านโดส ครบตามจำนวนที่สั่งซื้อ
คาดภูเก็ตต้นแบบภูมิคุ้มกันพื้นที่
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการเรื่องวัคซีนโควิด-19 พยายามทำให้ 1 ต.ค.นี้เปิดประเทศให้ได้ ตามนโยบายรัฐบาล อาจจะมีบางจังหวัดที่สามารถดำเนินการได้ก่อน ตามจังหวัดเป้าหมาย เช่น ภูเก็ต จะต้องฉีดประมาณ 4 แสนคน ถึงจะเกิดภูมิคุ้มกันพื้นที่ได้ ซึ่งใน 2 รอบที่วัคซีนซิโนแวคเข้ามารวม 1 ล้านโดส ได้จัดสรรให้ภูเก็ตไปแล้ว 2 แสนโดส และล็อตสุดท้ายของซิโนแวคที่จะเข้ามาอีก 1 ล้านโดสจะจัดสรรเพิ่มเติมให้ไปอีกราว 2 แสนโดส ในเดือนพ.ค.-มิ.ย. และหากสามารถฉีดได้ตามเป้าหมาย ภูเก็ตจะเป็นต้นแบบและจังหวัดแรกๆ ที่ได้รับวัคซีนครอบคลุม
เปิดโหลดแอพหมอพร้อม1พ.ค.
นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี ประธานคณะทำงานด้านระบบข้อมูลการให้บริการวัคซีน ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กล่าวว่า สธ.ได้ออกแบบระบบคิวฉีดวัคซีนโดยประชาชนสามารถจองได้ผ่านช่องทาง LINE official "หมอพร้อม", แอพพลิเคชั่น หมอพร้อม ซึ่งจะเปิดให้โหลด ได้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งจะสามารถใช้ลงทะเบียนจองรับวัคซีน ปลาย พ.ค.นัดหมายรับวัคซีน ติดตามอาการหลังการฉีด ข้อมูลความรู้ ข้อมูลการฉีดวัคซีนของตนเอง ออกใบรับรองการรับวัคซีน ในรูปแบบดิจิทัลหลังจากฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ จะมีคิวอาร์โค้ด เฉพาะบุคคล นำไปใช้ออกสมุดเล่มเหลืองสำหรับผู้เดินทาง ไปต่างประเทศได้
ออกใบรับรองวัคซีน3.5หมื่นคน
กรณีกลุ่มคนที่มีการใช้ไลน์หรือสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวัน อยู่แล้ว สามารถจองผ่านไลน์ หรือแอพหมอพร้อม สามารถ เลือกวันและสถานที่ฉีดได้ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่กทม.มีการใช้ ไลน์ในชีวิตประจำวัน 80% เมื่อ ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว รพ.จะออกให้เป็นรูปกระดาษ และใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เป็น QR Code ที่มีข้อมูล เชื่อมกับระบบสาธารณสุข ที่มีอยู่ สามารถเช็คข้อมูลได้ และสามารถนำไปแสดงที่ หน่วยงานไหนก็ได้ ซึ่งสามารถตรวจสอบกลับมาที่ฐานข้อมูลของ สธ. ขณะนี้มีการออกไปแล้ว 35,000 คน
อย่างไรก็ตาม ในต่างจังหวัด ประชากรที่อยู่ในการดูแลของรพ.อำเภอมีการใช้ไลน์ประมาณ 40-50 % ดังนั้น กลุ่มที่ไม่มีระบบไลน์และสมาร์ทโฟน ก็จะใช้ ระบบที่หลากหลายในการให้ประชาชนได้รับวัคซีน เช่น โรงพยาบาลโทรประสานไปยังประชาชน เป็นต้น
"สำหรับกรณีใบรับรอง ด้านสุขภาพในการเดินทาง ระหว่างประเทศ เป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับประชาชนไทยก่อน ระหว่างรอมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกหรือฮูที่จะออกมา ราวสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ และเมื่อมี การออกมาตรฐานสากลที่จะ ใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศออกมาแล้ว ประเทศไทยก็มีการ เตรียมระบบรองรับที่จะเชื่อมโยงกับระบบสากลไว้แล้ว" นพ.พงศธร กล่าว
ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 26 ราย
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่ม 26 ราย ติดเชื้อในประเทศ 21 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบ บริการ 13 ราย การค้นหาเชิงรุก ในชุมชน 8 ราย และติดเชื้อ จากต่างประเทศ 5 ราย รวม ยอดผู้ป่วยสะสม 28,889 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 94 ราย ผู้ป่วย ที่รักษาหายแล้ว 27,548 ราย และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,247 ราย
ส่วนสถานการณ์เฉพาะระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2563 ถึง 1 เม.ย.2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 26 ราย ติดเชื้อในประเทศ 21 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 13 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 8 ราย และติดเชื้อจาก ต่างประเทศ 5 ราย ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยสะสม 24,652 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วย รายใหม่ 7,254 ราย การค้นหา เชิงรุกในชุมชน 16,070 ราย เดินทาง มาจากต่างประเทศ 1,328 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสม 34 ราย |
| | |
|
|