ไข้เลือดออกอีโบลาระบาดใหม่อีกครั้งในอูกันดา และรุนแรงยิ่งขึ้น เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย
กระทรวงสาธารณสุขอูกันดา และองค์การอนามัยโลก ประกาศว่า โรคไข้เลือดออกจากไวรัสอีโบล่า คร่าชีวิตชาวอูกันดาไป 14 รายแล้วในเดือนนี้ ถือเป็นการคลายความสงสัยถึงสาเหตุของการเจ็บป่วยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ทางภาคตะวันตกของอูกันดา จนทำให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งหวาดกลัว และอพยพออกจากหมู่บ้าน เพราะคิดว่า เป็นสิ่งที่นำความโชคร้ายมาให้
ล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประกาศว่า พบผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้ออีโบล่าอีก 6 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งหากได้รับการยืนยัน ก็จะทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาใน อูกันดาขณะนี้ รวมเป็น 26 คน และผู้ติดเชื้อ ได้ขยายวงกว้าง จากเพียงแค่หมู่บ้านเดียว ไปเป็นหลายๆ หมู่บ้านแล้ว ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้ออีโบล่า ในอูกันดา เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการระบาดทั้ง 3 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 267 คน
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบต้นตอของการระบาดในครั้งนี้ แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกอาจติดเชื้อจากสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัส และการระบาดในครั้งนี้ เริ่มสร้างความหวาดผวาไปถึงชาวอูกันดาในเมืองกัมปาลา เมืองหลวงของประเทศ
ไข้เลือดออกอีโบลา ร้ายแรงถึงเสียชีวิต เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนที่สามารถใช้ป้องกันและรักษาได้ เชื้อไวรัสนี้ ถูกพบครั้งแรก ในประเทศคองโก เมื่อปี 2519 และตั้งชื่อตามแม่น้ำใกล้กับบริเวณที่พบเชื้อครั้งแรก
ศูนย์ควบคุมโรคระบาดสหรัฐฯ ระบุว่า เชื้ออีโบล่า ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะปวดข้อและกล้ามเนื้อ เจ็บคอ อ่อนเพลียอย่างหนัก ตามด้วย ท้องร่วงรุนแรง อาเจียน และปวดช่องท้อง ในคนไข้บางราย อาจเป็นผื่น ตาแดงจัด และมีเลือดออกภายในร่างกาย ไวรัสชนิดนี้ แพร่เชื้อโดยการสัมผัสโดยตรงกับเลือด หรือสารคัดหลั่ง ของผู้ติดเชื้อ