ในขณะที่ภูมิปัญญาไทยในการนวดแผนโบราณกำลังเฟื่องฟู และเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มชาวไทย และชาวต่างประเทศ บ้านเราก็ได้มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้พิการตาบอด ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการแพทย์แผนไทย โดยให้การศึกษาและพัฒนาความรู้กลุ่มผู้พิการทางสายตา ให้สามารถประกอบอาชีพนวดได้อย่างถูกต้อง ถึงกับมีการจัดตั้งสมาคมผู้พิการทางสายตาเพื่อส่งตัวหมอนวดตาบอดไปยังสถานประกอบการต่างๆ
แต่มาตรฐานของศาสตร์การนวดโดยฝีมือคนตาบอดนั้นยังเรียกว่าห่างไกล หากเทียบกับการไปเข้าฝึกอบรมแบบกลุ่มคนธรรมดา แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดของความพิการทางสายตา ทำให้คนตาบอดจำนวนไม่มากนักยังประกอบอาชีพนี้อยู่ วันนี้จึงถือเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องก้าวข้ามความพิการ และหันมาส่งเสริมให้คนตาบอดได้มีโอกาสประกอบอาชีพอย่างสุจริต และเป็นการประกอบอาชีพอย่างมีคุณภาพเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของคนพิการ เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสเท่าเทียมกับบุคลากรอาชีพอื่นในสังคม และเป็นตัวประสานเพื่อช่วยมองหาหน่วยงาน และสถานที่ที่จะรับคนกลุ่มนี้เข้าทำงาน
ในปีนี้ เป้าหมายในการพัฒนาอาชีพให้กับกลุ่มผู้พิการ มุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนตาบอด โดย สสส. ร่วมมือกับกรมพัฒนาแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมทั้งเครือข่ายสถาบันอบรมหลักสูตรวิชาชีพการนวดไทยของผู้พิการทางสายตา 6 สถาบัน ร่วมกันเซ็นบันทึกข้อตกลง เพื่อให้ The Nippon Foundation The National Committee of Welfare for the Blind in Japan เข้ามาจัดหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้พิการทางสายตาที่สนใจจะเรียนเป็นหมอนวด ในหัวข้องานสัมมนาที่ชื่อว่า "การพัฒนาแนวทางและทักษะในการสอนนวดสำหรับคนตาบอด" ซึ่งได้จัดการอบรมไปแล้ว 2 ช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึง สิงหาคม และกำลังจะอบรมเป็นครั้งสุดท้ายในเดือนตุลาคม วันที่ 8-10 ที่จะถึงนี้
กิจกรรมดังกล่าวมีผู้ให้ความสนใจซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาเป็นจำนวนไม่น้อย และเมื่อจบหลักสูตรจะมีการสอบวัดระดับความรู้ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ซึ่งปรากฏว่าประเภทการนวดไทยที่มีผู้เรียน 69 คน มีผู้สอบผ่านภาคทฤษฎีถึง 32 คน หรือประมาณ 46.3% ในขณะที่คนสายตาปกตินั้น กลับสอบผ่านเพียง 30.15% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่า ความพิการไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย หากมีความตั้งใจ และพร้อมที่จะเรียนรู้
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก เล่าให้ฟังว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้พัฒนาทักษะการสอนกายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาสำหรับคนตาบอด โดยศาสตร์การนวดและการฝังเข็มในแบบญี่ปุ่นนั้นโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งที่ญี่ปุ่น การนวดจะทำไปพร้อมกับการฝังเข็ม และการรมควัน มีการก่อตั้งคลินิกสำหรับการอบรมวิชาชีพสำหรับผู้พิการทางสายตาที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งจากรัฐบาล และมีการประกาศจากรัฐเพื่อสงวนอาชีพเหล่านี้สำหรับผู้พิการทางสายตาด้วย
ความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มผู้พิการในบ้านเรา เพราะนอกจากพวกเขาจะมีอาชีพ และมีรายได้แล้ว ยังเป็นการกรุยทางบุกเบิกและพิสูจน์ความสามารถของคนพิการให้เป็นที่ยอมรับ
ปัจจุบันโรงเรียนสอนคนตาบอดในญี่ปุ่นมีกว่า 70 แห่ง โดย 60 แห่งมีการสอนฝังเข็มสำหรับผู้พิการทางสายตา การเรียนคล้ายกับประเทศไทยที่เรียนชั้นประถม 6 ปี มัธยมต้น 3 ปี และมัธยมปลาย 3 ปี หลังจบ ม.ปลาย ก็จะสอนเรื่องการฝังเข็มเป็นเวลา 3 ปี มีการสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ โดยผู้ผ่านการสอบแล้วจะได้รับวุฒิบัตรเพื่อการรักษาและการนวด
สำหรับหลักสูตรที่จะใช้สื่อ และสอนผู้พิการทางสายตาในบ้านเรานั้น จะมีการแปลหนังสือจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษก่อน ที่สำคัญคือยังต้องการกรสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในการระดมคน ระดมพลังของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กิจกรรมเช่นนี้ดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
แม้จะเป็นเพียงก้าวเริ่มต้น แต่จากตัวเลขที่ปรากฏชัด ทั้งผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ และความสัมฤทธิผลจากตัวเลขผู้ที่สอบผ่าน ก็ย่อมการันตีได้ว่า อนาคตของผู้พิการทางสายตาจะไม่มืดมน |