ในยุคสมัยเทคโนโลยีก้าวไกลเช่นทุกวันนี้ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหลายเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันประจำบ้านเกือบทุกครอบครัว ซึ่งมีผลดีในการเพิ่มความรวดเร็วในการทำกิจวัตรประจำวัน แต่ก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน
ในทางการแพทย์ภาวะติดสิ่งเสพติดต่างๆ นั้นไม่เฉพาะแต่สารเสพติดที่เป็นสารเคมี เช่น เหล้า บุหรี่ ยาบ้า เท่านั้น แต่การกระทำหรือพฤติกรรมก็เป็นสิ่งเสพติดได้ เช่น เกมส์ การพนัน การติดบางอย่างนำพาความเสียหายเข้ามาในชีวิตและครอบครัว แต่พฤติกรรมการติดบางอย่างก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ เช่น ติดการเล่นกีฬา ติดการทำบุญไหว้พระ
ดังนั้นทำอย่างไรที่จะทำให้เด็กๆในครอบครัวของเรามีพฤติกรรมการเสพติดในสิ่งที่ดีเหล่านี้จึงเป็นข้อคิดให้ผู้ปกครอง คุณพ่อ คุณแม่ ทั้งหลายตระหนักและคิดให้รอบคอบ ก่อนนำอุปกรณ์เทคโนโลยีสูงมาไว้ในบ้านว่าจะทำให้ชีวิตของเด็กๆในบ้านดีขึ้นหรือแย่ลง ถ้าคิดและป้องกันล่วงหน้าวางกฎและตั้งกติกากันก่อนการมีอุปกรณือำนวยความสะดวกก็จะนำมาซึ่งความสะดวกสบายจริงๆ
ในทางตรงกันข้ามถ้าบางบ้านได้พบกับปัญหาเหล่านี้แล้ว ว่าลูกๆใช้เวลาในแต่ละวันหมดไปกับการเล่นเกมส์ การที่จะนิ่งดูอยู่เฉยๆ หาวิธีหรือลุกขึ้นมาหาวิธีหยุดยั้งพฤติกรรมเหล่านั้น ขึ้นอยู่กับตัวคุณพ่อคุณแม่เอง
รู้ได้อย่างไรว่าลูกติดเกมส์ การที่ลูกอยู่ในภาวะติดเกมส์หรือไม่นั่น คุณพ่อ คุณแม่สังเกตได้ว่าลูกมีลักษณะต่อไปนี้เกิน 3 ข้อขึ้นไป (ข้อมูลจาก ICD-10 สถาบันสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข)
1. มีความต้องการมากหรือบ่อยที่จะเล่นเกมส์
2. ควบคุมการเล่นให้อยู่ในเวลาไม่ได้ เช่น การเริ่มเล่น การหยุดเล่น หรือความถี่รวมถึงความยาวนานในการเล่น
3. ถ้าหยุดเล่นหรือถูกห้ามไม่ให้เล่น จะมีอาการต่างๆ เช่น หงุดหงิด ก้าวร้าว อารมณ์ไม่ดี เป็นต้น
4. เกิดภาวะ Tolerance คือ มีความต้องการเล่นเกมส์เพิ่มมากขึ้นทั้งจำนวนเวลาในการเล่น และจำนวนครั้งในการเล่น
5. ค่อยๆเหินห่างไม่สนใจสิ่งที่เคยพึงพอใจอื่นๆ เช่น การพูดคุยกับครอบครัว หรือเล่นกีฬากับเพื่อนๆ เพื่อเอาเวลาเหล่านั้นไปหมกมุ่มอยู่กับการเล่นเกมส์
6. ยังคงเล่นเกมส์อยู่แม้จะมีหลักฐานแสดงถึงผลกระทบที่ไม่ดีแล้ว เช่น ผลการเรียนลดลง สายตาแย่ลง ปวดศีรษะบ่อยๆ เป็นต้น
จาก 6 ประการข้างต้น ถ้าลูกหรือบุตรหลานของเราเข้าข่าย 3 ใน 6 ข้อ จัดว่าเข้าเกณฑ์การติดเกมส์แล้ว จำเป็นที่จะต้องยุติ หรือดึงชีวิตเขาออกมาจากภาวะดังกล่าว ซึ่งแน่นอนย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพียงแค่บอกหรือสั่งเท่านั้น คงต้องมีวิธีการอื่นๆ ทดแทน หมายถึงต้องมีกิจกรรมอื่นให้เขา ซึ่งสิ่งทดแทนนั้นก็ต้องน่าสนใจพอสมควร เป็นต้นว่า การให้เขาหันมาติดการออกกำลังกายแทน หรือการไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว โดยกิจกรรมต่างๆ ที่มาทดแทนต้องกระทำไปพร้อมๆ กับการตั้งกฎระเบียบในการเล่นเกมส์ โดยมีระยะเวลาที่แน่ชัดมีแนวทางที่คุมได้ เช่น ถ้าไม่เล่นในเวลาที่ตั้งไว้จะต้องถูกยุติการมีเกมส์อยู่ในบ้าน
ทั้งนี้ผู้ใหญ่ในบ้านต้องมีบทบาทในการคุมเกมส์ให้เป็นไปตามกฎที่ตั้งขึ้นความยากลำบากก็คงอยู่ตรงนี้ เพราะผู้ใหญ่บางคนยอมตัดความรำคาญในการยื้อเถียงกับเด็ก โดยการปล่อยให้เล่นตามที่เด็กต้องการเพื่อความสงบในบ้าน หรือยิ่งไปกว่านั้นเพราะบางบ้าน คุณพ่อ คุณแม่ก็ติดเกมส์ซะเอง
คงเป็นเรื่องยากที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ หากกฎมีไว้ฝ่าฝืน และผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีซะเอง หากจะคุยกันเรื่องเด็กติดเกมส์คงต้องคุยกัน 3 วัน 3 คืนไม่จบ
|