เอเจนซีส์ - สเปนต้องประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉินทั่วประเทศ รวมทั้งใช้เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านยามค่ำคืนเมื่อ วันอาทิตย์ (25 ต.ค.) เพื่อสกัดการระบาดรอบสอง ขณะที่จีนพบผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน และ WHO เผยทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทำสถิติสูงสุด 3 วันซ้อน
          องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า บางประเทศขณะนี้อยู่บนเส้นทางอันตรายจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด และขอให้ภาครัฐตัดสินใจใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อควบคุมการระบาด
          WHO เสริมว่า เฉพาะวันเสาร์ (24) วันเดียวพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกถึง 465,319 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งอยู่ในยุโรปที่อยู่ในช่วง หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญเนื่องจากฤดูหนาวกำลังจะมาถึง โดยขณะนี้โควิด-19 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1.1 ล้านคน และติดเชื้อมากกว่า 42 ล้านคนทั่วโลก
          เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO เรียกร้องทั่วโลกร่วมมือกันในการแจกจ่ายวัคซีนในอนาคต และเตือนว่าชาตินิยมในเรื่องวัคซีนจะทำให้โรคระบาดยิ่งยืดเยื้อแทนที่จะจบเร็วขึ้น
          ทางด้านสเปน ซึ่งเป็นชาติแรก ในยุโรปที่มีผู้ติดเชื้อทะลุ 1 ล้านคน เมื่อวันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งใหม่ และใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านยามค่ำคืนทั่วประเทศยกเว้น หมู่เกาะคานารี โดยระบุว่า สถานการณ์ การระบาดรุนแรงมาก
          ขณะที่ชาติอื่นๆ ในยุโรปก็เพิ่มการใช้มาตรการเข้มงวดต่างๆ เหมือนกัน โดยอิตาลีที่เป็นศูนย์กลางการระบาดรอบแรก ได้สั่งปิดโรงละคร โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส รวมทั้งให้บาร์และร้านอาหารต่างๆ ปิดเร็วขึ้น ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชน โดยมีผู้ประท้วงฝ่ายขวาจัดปะทะกับตำรวจเมื่อคืนวันเสาร์ (24) ระหว่างการชุมนุมต่อต้านมาตรการเคอร์ฟิว
          ที่เยอรมนี ตำรวจในกรุงเบอร์ลิน ก็ต้องเข้าสลายการประท้วงต่อต้านมาตรการสกัดไวรัส รวมทั้งเปิดการสอบสวนกรณีการลอบวางเพลิงอาคารหลังหนึ่งที่เป็นที่ตั้งหน่วยงานสาธารณสุข
          ขณะเดียวกัน แฟรงก์เฟิร์ตกลายเป็นเมืองล่าสุดในเยอรมนีที่ประกาศยกเลิกตลาดคริสต์มาสซึ่งปกติแล้ว ดึงดูดนักเดินทางถึงกว่า 2 ล้านคน
          ส่วนที่บัลแกเรีย นายกรัฐมนตรีของประเทศในยุโรปตะวันออกแห่งนี้ กลายเป็นผู้นำโลกคนล่าสุดที่ตรวจพบติดโควิด
          ทางด้านจีน ทางการระบุว่าพบ ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการเป็นจำนวนสูงที่สุดในรอบเกือบ 7 เดือนเมื่อวันจันทร์ (26) หลังพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนครั้งใหม่ในโรงงานสิ่งทอในซินเจียง เขตปกครองตนเองฐานะเทียบเท่ามณฑล ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ของประเทศ
          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขซินเจียงพบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 137 คนเมื่อวันอาทิตย์ (25) ระหว่างการตรวจประชาชน 4.75 ล้านคนในเมืองคัชการ์ หลังจากพบแรงงานสิ่งทอหญิงวัย 17 ปีคนหนึ่งติดเชื้อแบบไม่มีอาการในวันเสาร์
          ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า สาวรุ่นคนดังกล่าวติดเชื้อได้อย่างไร แม้สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมดเชื่อมโยงกับโรงงานสิ่งทออีกแห่งที่พ่อแม่ของสาวรุ่นคนนี้ทำงานอยู่ก็ตาม กระนั้น บุคคลทั้งสองไม่ติดเชื้อแต่อย่างใด
          การตรวจพบสาวรุ่นผู้นี้ติดเชื้อเกิดขึ้นระหว่างการตรวจประชาชนบางกลุ่ม ที่ดำเนินการเป็นประจำทุกสัปดาห์ใน ซินเจียง และเวลานี้เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามผู้สัมผัสโรคเพื่อค้นหาต้นตอของการระบาดครั้งนี้
          หลังจากพบสาวรุ่นที่ติดเชื้อนี้แล้ว ซินเจียงได้สั่งตรวจเชื้อประชาชนทั้ง 4.75 ล้านคนในคัชการ์  ซึ่งจนถึงบ่ายวันอาทิตย์  มีรายงานเจ้าหน้าที่ตรวจไปแล้วกว่า 2.84 ล้านคน และจะตรวจให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในวันอังคาร (27) ทั้งนี้ ระดับและความรวดเร็วในการตรวจนี้สอดคล้องกับความพยายามควบคุมการระบาดแบบกลุ่มก้อน อื่นๆ ก่อนหน้านี้ ที่พบในจีน ซึ่งรวมถึงที่เมืองชิงต่าวในมณฑลซานตง เดือนตุลาคมนี้
          ด้านคณะกรรมการสาธารณสุข แห่งชาติของจีนแถลงว่า พบผู้ที่ได้รับการยืนยันติดเชื้อ 20 คน และผู้ติดเชื้อ ที่ไม่แสดงอาการ 161 คนทั่วประเทศใน วันอาทิตย์ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับจากที่จีนเริ่มรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อประเภทนี้ เมื่อวันที่ 1 เมษายน .