กระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนามรักษาแรงงานต่างด้าวติดเชื้อโควิด-19 ในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร เบื้องต้นรองรับ 100 เตียง และประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง
          เพจ "ไทยรู้สู้โควิด" โพสต์ข้อความกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนามรักษาแรงงานต่างด้าวติดเชื้อโควิด-19 ในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร เบื้องต้นรองรับ 100 เตียง
          โดยทาง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์
          ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ามาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าครั้งนี้ เพื่อเป็นการวางมาตรการที่เหมาะสมในการจำกัดวงการแพร่ระบาด
          ซึ่งจุดที่มีการระบาดหลักคือบริเวณตลาดกลางกุ้ง ขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวพักอาศัยอยู่ภายในจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ จึงมีแนวคิดจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อดูแลแรงงานต่างชาติบริเวณนี้ โดยในวันที่ (22 ธ.ค. 2563) จะจัดเตียงประมาณ 100 เตียงในช่วงแรกเพื่อรองรับแรงงานต่างด้าว
          อย่างไรก็ตาม ขอประเมินสถานที่ อัตราการให้บริการที่จำเป็น หากมีความต้องการสูงอาจจะเพิ่มจำนวนเตียงได้มากกว่านั้น ซึ่งการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามจะมีระบบการดูแลทางด้านการแพทย์อย่างเหมาะสม ระบบสุขอนามัยและมีแพทย์ในการดูแลให้ได้ตามมาตรฐาน ของกระทรวงสาธารณสุข
          ส่วนการจัดสถานที่สำรองไว้สำหรับคนไทยได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากภาคเอกชน เพื่อใช้กักตัวผู้ที่มีอาการน้อยไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ อยู่ระหว่างการประเมินความพร้อมของสถานที่
          นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจคัดกรองหาเชื้อเพิ่ม จะขีดวงในพื้นที่ที่มีการระบาด 2 ตารางกิโลเมตร และขยายวงโดยรอบอีก 4 ชั้น ตามหลักของการควบคุมโรค เพื่อดูปริมาณผู้ติดเชื้อ จนกว่าจะไม่พบผู้ติดเชื้อ วงนั้นจะสิ้นสุดลง
          โดยจะพยายามตรวจค้นให้ได้มากที่สุด ขณะนี้ได้ทำการตรวจหาเชื้อในพื้นที่ต่างๆ ได้ประมาณ 4,000 - 5,000 รายต่อวัน โดยระดมบุคลากรจาก 8 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 5 พร้อมจัดเวรการทำงานที่เหมาะสม เพื่อทำการตรวจหาเชื้อจากกลุ่มเสี่ยงภายในจังหวัดสมุทรสาครให้ได้มากที่สุด
          โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 6 คัน เพื่อทำการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในจุดเสี่ยงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง.