"ศูนย์ข้อมูล COVID-19" รายงาน"ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19" วันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 21 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 4,107 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 60 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,868 ราย เชียงรายแถลงพบสาวจากแหล่งบันเทิงท่าขี้เหล็กกลับไทย ติดโควิด-19 เพิ่มอีก 6 ราย ผู้ว่าฯ มั่นใจเอาอยู่ นัดบิ๊กคลีนนิ่งทั้งเมือง 10 ธ.ค.นี้ สยบข่าวลือล็อกดาวน์ อธิบดีควบคุมโรคยันคุมโควิดภาคเหนือได้ ลั่นไม่ปิด "เชียงใหม่-เชียงราย" ชี้เอกชนไม่ต้องกักตัว พนง.ที่ไปเที่ยว ชงขยายเวลา 45 วัน รับต่างชาติเที่ยวไทย
          พบผู้ติดเชื้อพุ่ง21ราย
          เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่ม 21 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,107 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 60 ราย รักษาหายเพิ่ม 15 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,868 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 179
          ทั้งนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 21 ราย เป็นคนไทย 15 ราย สัญชาติอเมริกัน 2 ราย เอสโตเนีย 1 ราย อินเดีย 1 ราย เยอรมัน 1 ราย ในจีเรีย 1 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ จากเมียนมา 9 รายสหราชอาณาจักร 4 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย สิงคโปร์ 2 ราย เอสโตเนีย 1 ราย อินเดีย 1 รายเยอรมนี 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย เข้าพัก สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (Local Quarantine, State Quarantine, Alternative State Quarantine, Alternative Hospital Quarantine)
          สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม67,386,262 ราย อาการรุนแรง 106,139 ราย รักษา  หายแล้ว 46,580,133 ราย เสียชีวิต 1,541,641 ราย5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 15,159,529 ราย, 2. อินเดีย จำนวน 9,676,801 ราย, 3. บราซิล จำนวน 6,603,540 ราย, 4. รัสเซีย จำนวน 2,460,770 ราย, 5.ฝรั่งเศส  จำนวน 2,292,497 ราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ใน อันดับที่ 151 จำนวน 4,107 ราย
          เลขาฯสมช.มั่นใจไม่ซ้ำรอยสนามมวย
          พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ร่วมกับนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายจาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุลโดยมีเรื่องสำคัญหารือในที่ประชุมติดตามสถานการณ์การติดเชื้อจากบุคคลที่กลับมาจากแม่สาย จังหวัดเชียงราย และการผ่อนคลายมาตรการออกวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การเดินทางเข้าประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้น
          ด้าน นพ.โอภาส ยืนยันถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ตัวเลขที่รายงานเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศและอยู่ในระบบกักกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ในไทยถือว่าน้อยมากและย้ำว่าจะไม่มีปัญหาเพราะมีการตรวจอย่างเข้มข้น ซึ่งขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อในประเทศที่เดินทางกลับจาก อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียร์มา 32 ราย แบ่งเป็นจ.เชียงราย20, เชียงใหม่5 และอื่นๆจังหวัดละ 1 ราย และเดินทางกลับภูมิลำเนา มีที่จังหวัดเชียงใหม่, พิจิตร, ราชบุรี, กรุงเทพมหานคร และสิงห์บุรี จากนั้นจึงมีอาการป่วยและตรวจพบภายหลัง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและสัมผัสใกล้ชิดจะถูกกักตัวทุกคนจนครบ 14 วันตามมาตรการและตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด
          สำหรับมาตรการของ สมช. ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง และผู้ว่าราชการจังหวัด ให้คนไทยที่อยู่ฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาเข้ามาช่องทางถูกกฎหมายและนำเข้าสู่สถานที่กักกันที่ จ.เชียงราย ในลักษณะ Local Quarantine เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยยืนยันว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อ 32 รายมีเพียง 2 รายที่ติดเชื้อในประเทศ ที่ จ.เชียงใหม่, สิงห์บุรี และไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม ย้ำควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ซ้ำรอยกรณีสนามมวย โดยนพ.โอภาส เน้นย้ำให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยเว้นระยะห่าง และเชื่อมั่นสถานการณ์จะคลี่คลายก่อนเข้าปีใหม่
          ทั้งนี้ ประชาชนที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า และคอนโดฯ ที่มีผู้ที่พบว่ามีคนเดินทางมาจากท่าขี้เหล็กโดยไม่กักตัว 14 วันหรือ 1 เดือนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทันที
          ผู้ว่าฯเชียงรายเพิ่มกำลัง46ชุด
          นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และนายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
          โดยพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 6 รายจากการตรวจจากผู้ที่ผ่านเข้ามาทางจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทั้งหมดเป็นหญิง อายุ 24 ปี อายุ 25 ปี (2 คน) 27 ปี 31 ปี และ 37 ปี ทั้งหมดไม่มีอาการป่วยใดเลยและเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.จำนวน 2 คน และวันที่ 5 ธ.ค.จำนวน 4 คน ก่อนจะถูกตรวจว่าพบเชื้อในวันที่ 6 ธ.ค.ปัจจุบันถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว
          ทำให้มีผู้ป่วยที่พบการติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.เชียงราย รวมทั้งสิ้น 26 ราย โดยมาจากผู้ที่เข้ามาทางด่านพรมแดนปกติและพบเชื้อใน State Local Quarantine จำนวน 20 ราย และเป็นผู้ที่หลบหนีเข้ามาแล้วมาพบเชื้อภายหลังจำนวน 5 ราย และเป็นผู้ที่ติดจากผู้ที่หลบหนีเข้ามา 1 ราย
          นายประจญ กล่าวว่าทุกรายที่พบการติดเชื้อครั้งล่าสุดล้วนอยู่ใน Local Quarantine ทั้งสิ้น และในปัจจุบันยืนยันว่าไม่เป็นทางเป็นไปได้ที่จะมีการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติเพราะเจ้าหน้าที่ทหารได้ระดมกำลังกันเข้าไปเสริมจากเดิมมี 20 ชุดปฏิบัติการก็เพิ่มเข้าไปอีกเป็น 46 ชุดปฏิบัติการ ทำให้ผู้ที่จะเดินทางเข้ามายังคงมีอย่างต่อเนื่องและทำให้ล่าสุดได้เข้าสู่ Local Quarantine แล้วจำนวน 158 คน และอยู่ในโรงพยาบาล 26 คน โดยเป็นผู้ที่ลักลอบเข้ามาแล้วค่อยเข้าสู่ระบบ Local Quarantine จำนวน 17 ราย
          ทั้งนี้ถือว่าสถานการณ์สามารถควบคุมได้และในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ จ.เชียงราย จะร่วมกันทุกภาคส่วนทำความสะอาดทั่วทุกพื้นที่หรือบิ๊กคลีนนิ่งครั้งใหญ่เพื่อประกาศว่าจะไม่มีการปิดเมืองหรือล็อคดาวน์ จากนั้นหากไม่พบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดต่อไปอีก 14-25 วันก็จะถือว่าปลอดภัย
          ไม่ต้องปิดโรงเรียนเพียงใส่หน้ากากอนามัย
          นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่าสำหรับผู้ติดเชื้อ 6 รายมาจากโรงแรมวันจีวันจำนวน 4 ราย และจากร้านฮอลีวู้ดซึ่งได้รับแจ้งว่าเป็นไนท์คลับและคาราโอเกะจำนวน 2 ราย ทั้งนี้ยังคงยืนยันว่าใน จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อเพียงจำนวน 26 รายและส่วนใหญ่มาจาก Local Quarantine ทั้งหมดส่วนภายในจังหวัดสามารถควบคุมได้แล้ว
          ดังนั้นกรณีที่มีโรงแรมบางแห่งในพื้นที่ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ได้ทำหนังสือขอปิดทำการเรียนตั้งแต่วันที่ 7-13 ธ.ค.โดยอ้างว่านักเรียนคนหนึ่งไปสัมผัสกับผู้ติดไวรัสโควิด-19 นั้น จึงขอชี้แจงว่ากรณีดังกล่าวไม่จำเป็นต้องปิดโรงเรียนแต่มีวิธีการอื่น เช่น ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อรอดูอาการ ฯลฯ ซึ่งจะได้ชี้แจงต่อสถานศึกษาดังกล่าวให้เข้าใจเหมือนกรณีมหาวิทยาลัยต่างๆ ก่อนหน้านี้ซึ่งภายหลังก็ไม่ปิดการเรียนการสอน เพราะเมื่อมีการดำเนินการดังกล่าวก็เกิดข่าวลือไปต่างๆ นานา และเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันได้
          ทาง สธ.เชียงรายเคยชี้แจงทำความเข้าใจกับสถานศึกษาตั้งแต่เริ่มพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เนื่องด้วยการบริหารจัดของโรงเรียนเป็นนิติบุคคล การปิดหรือไม่ปิดเป็นอำนาจของผู้อำนวยการ แต่ทางสาธารณสุขยังยืนยันว่าการปิดโรงเรียนยังไม่มีความจำเป็น แม้ว่ามีผู้ปกครองเป็นผู้ติดเชื้อ เด็กนักเรียนก็ยังถือว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ
          โดยให้ดูแลการเฝ้าระวังด้านสุขภาพก็เพียงพอ ใส่หน้ากากเว้นระยะห่างล้างมือ ซึ่งยังสามารถมาโรงเรียนได้ตามปกติไม่จำเป็นต้องกักตัว อาจเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งทางสาธารณสุขจะเร่งทำความเข้าใจกับสถานศึกษาต่างๆ ยิ่งการประกาศปิดยิ่งทำให้เป็นการต่อยอดของข่าวลือไปต่างๆ นานา ซึ่งยังยืนยันว่าจ.เชียงราย ยังพบผู้ติดเชื้อที่ 26 ราย
          รพ.แม่ฟ้าหลวงมี300เตียงคาดรับไหว
          ด้าน นายแพทย์ไชยเวช กล่าวว่าผู้ป่วยทั้ง 6 รายแทบไม่มีอาการใดๆ เลย และยังเป็นคนอายุน้อยร่างกายแข็งแรง กระนั้นเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่ทราบจำนวนว่าท้ายที่สุดจะมีเท่าไหร่เพราะยังคงมีคนไทยเดินกลับมาเรื่อยๆ ขณะที่โรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 60 ราย ดังนั้นล่าสุดจึงได้ไปดูสถานที่ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวืทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งมีเตียงรองรับได้กว่า 300 เตียง เพื่อเป็นสถานที่สำรองกรณีล้นจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว
          ชวนเที่ยวเชียงราย-เชียงใหม่
          นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวทางโซเชียลมีเดียว่าห้ามไปจังหวัดต่างๆ นั้นไม่เป็นความจริง กรุณาอย่าแชร์ต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพราะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ขอให้ติดตามข้อมูลจากส่วนราชการเท่านั้น ย้ำว่าจังหวัดต่างๆ สามารถควบคุมโรคได้ดี ปลอดภัย สามารถเดินทางไปได้ ท่องเที่ยวได้ทั้งเชียงใหม่และเชียงราย และมั่นใจว่ากรณีนี้เราควบคุมสถานการณ์ได้ และหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะจบก่อนเทศกาลปีใหม่
          ส่วนกรณีที่มีเอกชนบางรายออกมาตรการให้พนักงานที่ไปท่องเที่ยวเชียงใหม่และเชียงรายต้องกักตัวนั้น การติดเชื้อจะเกิดจากการสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อโรค ถ้าไม่ได้ไปสัมผัสกับเขาหรืออยู่ในสถานที่เวลาเดียวกันกับเขาก็ไม่มีความเสี่ยง คนที่ไปเชียงใหม่ เชียงราย สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยังเข้า-ออกจังหวัดได้ตามปกติ ไม่มีการปิดจังหวัด ไม่มีการปิดอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าเอกชนที่ไหนจะให้กักตัว 14 วัน เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ตนเห็นว่าเป็นมาตรการที่เกินความจำเป็น
          อ้าแขนรับต่างชาติเข้าไทยเต็มที่
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้นโยบายและสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา ไทยได้เพิ่ม โดยทางกระทรวงฯ นำเสนอที่ประชุมเพื่อให้ นายกฯ เห็นชอบเพิ่มเติมกรณีผู้เข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว เดิมอนุญาตให้เข้ามา 30 วัน จาก 56 ประเทศ รวมถึงรัสเซีย ที่ประชุมเสนอให้อยู่ในไทยได้ 45 วัน โดย รวมระยะเวลากักตัว 14 วันด้วย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
          เรามั่นใจว่ามาตรการสาธารณสุขของไทย สามารถควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ ปัจจุบันในเขตกทม.มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยว ต่างชาติ 15,000 ห้อง จึงเพียงพอที่จะรับนักท่องเที่ยว เข้ามาวันละ 1,000 คน แม้จะไม่ได้ทาวีซ่าเข้าประเทศ เรา ก็มีพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่กำหนดให้ คนที่จะเดินทางเข้ามาต้องผ่านการตรวจโรคและเข้ามากักตัว
          พร้อมกับการขอเอกสาร COE ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีระบบขอเอกสารทางออนไลน์แล้วเพื่ออำานวยความสะดวก ให้คนต่าง ชาติขอเอกสารเข้าประเทศไทยง่ายขึ้น โดยจะดำเนิน การและมีผลภายในวันนี้ คนที่จะเดินทางเข้ามาไทย เตรียมตัวได้เลย อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีต่างชาติเข้า มาไทยรวม 45,000 คน เราหวังว่าจากมาตรการนี้ จะมีชาวต่างชาติเข้ามาได้เดือนละกว่า 20,000 คน