สถิติผู้คิดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก
          (ล่าสุดวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564)
          ติดเชื้อทั่วโลก : 104,480,575 คน
          เสีย : 2,264,877 คน/รักษาหาย : 76,360,610 คน
          ติดเชื้อในไทย : 21,249 คน/เสียชีวิต : 79 คน
          วันที่ 3 ก.พ. 54 ติดเพิ่ม : 795 คน
          ยอดติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังสูงแตะ 3 หลัก โดยยอดประจำวันที่ 3 ก.พ. 64 พบอีก 795 รายติด ตรวจพบในโรงพยาบาล 24 ราย ตรวจค้นหาเชิงรุก 759 ราย เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 79 ราย คลัสเตอร์โต๊ะแชร์มหาสารคาม ติดโควิดแล้ว 21 คน แพร์กระจาย 3 จังหวัด เร่งหากลุ่มเสี่ยงเพิ่ม รอผลตรวจอีก 1,672 คน ชี้เดินทางกระจาย การ์ดตก ด้าน"หมอทวีศิลป์" เผยทั่วโลกชมไทยจัดแข่งแบดมินตันนานาชาติปลอดโควิด-19 ขอบคุณเจ้าหน้าที่ร่วมทำงานหนัก ขณะที่นายกรัฐมนตรีไฟเขียวโครงการ"เรารักกัน" ช่วยผู้ประกันตน ม.33 โดยใช้เกณฑ์เงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท คาดเข้าหลักเกณฑ์กว่า 9 ล้านคน รอ ครม. เคาะตัวเลขเงินเยียวยา 3,500-4,500 บาท 5ก.พ.นี้สรุปรายละเอียดอีกครั้ง
          ป่วยไม่ลดเพิ่มอีก 795 ราย
          เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ป่วยใหม่วันนี้ 795 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 795 ราย โดยตรวจพบในโรงพยาบาล 24 ราย จากตรวจค้นหาเชิงรุก 759 ราย เดินทางจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 12 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 21,249 ราย หายป่วยแล้ว 14,001 ราย เสียชีวิตสะสม 79 ราย
          ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น 1. มาจากระบบเฝ้าระวังและการสอบสวนโรค 24 ราย ได้แก่กทม. 4 ราย, ตาก 1 ราย, มหาสารคาม 1 รายและสมุทรสาคร 18 ราย 2. การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 759 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 759 ราย และ 3. เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 4 ราย, มาเลเซีย 2 ราย, สหรัฐอเมริกาสหราชอาณาจักร แคนาดา คูเวต รัสเซีย และตุรกีประเทศละ 1 ราย
          เกือบทั้งหมดจากสมุทรสาคร
          สำหรับสัดส่วนการติดเชื้อรายใหม่วันนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. มาจาก จ.สมุทรสาคร 99.23 เปอร์เซ็นต์ เจอผู้ติดเชื้อ 777 ราย พบในระบบบริการ 18 ราย ค้นหาเชิงรุก759 ราย ตัวเลขสะสม 12,746 ราย (คิดเป็น 78.23 %) อยู่ในระบบบริการ 2,493 ราย และค้นหาเชิงรุก 10,253 ราย
          2. มาจาก กทม. 0.51 เปอร์เซ็นต์ มีเพิ่มขึ้น 4 รายจากการเข้ามารับบริการในรพ. ตัวเลขสะสม 799 ราย (คิดเป็น 4.9 %) มาจากระบบบริการ 717 ราย การคัดกรองเชิงรุก 82 ราย
          3. มาจากจังหวัดอื่น ๆ 0.26 เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้น 2 ราย จากระบบริการ ตัวเลขสะสมจังหวัดต่างๆ 2,749 ราย (คิดเป็น 16.87 %) มาจากระบบเฝ้าระวัง 1,537 ราย และค้นหาเชิงรุก 1,212 ราย
          "วันนี้เจอการติดเชื้อใน 4 จังหวัดคือสมุทรสาคร 777 ราย กทม. 4 ราย. ตาก 1 ราย ซึ่งโยงมาจากการเดินทางข้ามประเทศ และมหาสารคาม 1 ราย ซึ่งมาจากคลัสเตอร์โต๊ะแชร์ ทั้งนี้มีการหารือว่า จ.ตาก จะมีการขอให้คุมพื้นที่เป็นพื้นที่เฉพาะเจาะจงลงไป อาจต้องใช้มาตรการที่เข้มขึ้น ซึ่ง ศบค.ชุดเล็กก็มีการหารือเพื่อปรับโทนการดูแลให้เข้มข้นขึ้น หากมีความคืบหน้าจะมานำเสนอต่อไป" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
          สำหรับจังหวัดสีขาวไม่มีการติดเชื้อมาก่อนมี 14 จังหวัด จังหวัดสีเขียวไม่มีรายงานติดเชื้อมากกว่า 7 วัน มี 46 จังหวัด เพิ่มขึ้น 3 จังหวัดจังหวัดที่ยังมีรายงานผู้ป่วยในรอบ 7 วัน มี 7 จังหวัดขอให้จังหวัดสีเขียวและขาวดูแลกันอย่างดีเพื่อผ่อนปรนได้มากยิ่งขึ้น
          คลัสเตอร์สารคามติด 21 คน
          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.ยังได้ตอบข้อถามความคืบหน้าการสอบสวนโรคที่ จ.มหาสารคาม ว่า เรื่องดังกล่าวปลัดกระทรวงสาธารณสุขติดตามผ่านการประชุมทางไกลระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามเพื่อให้รายงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ
          พบว่าคลัสเตอร์ของจังหวัดมหาสารคามขณะนี้รวมตัวเลขอยู่ที่ 21 ราย เป็นคนที่อยู่ใน จ.มหาสารคาม 17 ราย จ.ราชบุรี 3 ราย จ.ขอนแก่น 1 ราย ขณะนี้ได้ติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงเพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกจำนวนทั้งหมด 4,149 รายปรากฏผลจำนวน 2,477 รายไม่พบเชื้อ รอผลอีก 1,672 ราย
          และขณะนี้ได้ประกาศ อ.เมือง อ.กันทรวิชัย ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมปิดสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ จำนวน 17 แห่ง ดังนั้น ขณะนี้หากใครพบว่าตัวเองเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์จังหวัดมหาสารคาม แล้วมีอาการผิดปกติขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว ซึ่งมีรายงานล่าสุดว่ามีแพทย์ท่านหนึ่งที่รับตรวจคนไข้ในกรณีนี้ มีการติดเชื้อด้วย 1 ราย
          "เรามีตัวอย่าง จ.มหาสารคาม ทำให้เห็นภาพว่าโรคไปได้ทุกที่ ทั้ง 77 จังหวัดยังการ์ดตกไม่ได้ ยังต้องเข้มกันอยู่ทุกคน ถ้าเผลอเมื่อไหร่ไวรัสตัวนี้จะเข้าไปในทางเดินหายใจของเราได้ตลอดเวลา เราจึงต้องเรียนรู้ร่วมกันว่าตอนนี้งานเลี้ยงที่มีสุราร่วมด้วยและยังมีงานรื่นเริงต่าง ๆ เป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น ทั้งโต๊ะแชร์ งานเลี้ยงวันเกิด"
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในส่วนกฎหมายที่จะบังคับใช้นั้น จะทำให้เราเรียนรู้ไปด้วยกัน แต่ไม่ใช่การยากที่จะนำกฎหมายไปบังคับเพื่อให้ใครต้องไปติดคุกติดตะราง แต่การบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เราทุกคนอยู่ในกฎเกณฑ์เดียวกัน ใช้ชุดข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเคารพกฎหมายซึ่งกันและกัน เราทำเพื่อให้คนอื่นปลอดภัย ไม่ได้ทำให้เพื่อเกรงกลัวกฎหมาย ศบค.อยากขอความร่วมมือมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย เพราะเราต้องยืนระยะตรงนี้ไปอีกนานระยะหนึ่ง
          ทั่วโลกขึ่นชมไทยจัดแบดฯ
          โฆษกศบค. ยังได้กล่าวถึงการแข่งขันแบตมินตันนานาชาติ ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันในรูปแบบสถานที่กักกัน รูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine) ที่จบไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมาด้วยว่า เราทำงานกันก่อนหน้านี้มีการประชุมศบค.ชุดเล็ก เพื่อเตรียมการมากว่า 3-4 เดือน ได้รับการชื่นชมมาจากทั่วโลก ตนจึงขอชื่นชมตรงนี้
          สำหรับสถานการณ์ข้อสรุป ทีมกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนักกีฬาเข้ามาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 832 คน 4 ม.ค. โดยวันที่ 31 ม.ค. เหลือ 589 คน เป็นนักกีฬา 330 คน จาก 23 ประเทศ ซึ่งถือว่าเยอะนักกีฬาเจ้าหน้าที่ของไทย 502 คน
          แต่เราสามารถทำระบบบับเบิล ซีลพื้นที่ให้นักกีฬา 800 กว่าคนเดินทางในส่วนที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น มีเจ้าหน้าที่คอยอยู่ประจำ และให้รายละเอียดต่าง ๆซึ่งถือว่างานเยอะมากนี่คือเบื้องหลังความสำเร็จ ขอขอบคุณทุกคน อย่างไรก็ตามพบผู้ติดเชื้อ 10 ราย โดย 4 รายต้องออกจากการแข่งขัน เช้ารักษาในโรงพยาบาล เป็นนักกีฬาสัญชาติอียิปต์ 1 คนเป็นโค้ชทีมเยอรมันสัญชาติไทเป 1 คน ฟิตเนสโค้ช 1 คน นักกีฬาอินเดีย 1 อีก 6 ราย พบว่าเป็นการติดเชื้อเก่าจึงให้แข่งขันได้
          นี่คือผลงานจากการที่เราตรวจอย่างเข้มขัน ทำให้การแข่งขันครั้งนี้สะอาด สะอาดในเรื่องการไม่มีโรค ขอให้เครดิตคนทำงานเบื้องหลัง เขาต้องเก็บตัว กักตัวกับนักกีฬาด้วย ตลอด 1 เดือน ขอชื่นชมทุกคน และทุกกระทรวง ทั้งกระทรวงสาธารณสุขกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรมกระทรวงมหาดไทย กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การกีฬาแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ร่วมมือกัน เราจะได้มีกีฬาดี ๆ เกิดขึ้น และไทยจะได้มีชื่อเสียงด้านนี้ มีกีฬาอีกหลายประเภทที่รอคิวกันอยู่เราจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่จะประสบความสำเร็จได้
          ไฟเขียว "เรารักกัน" ช่วยม.33
          เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 64 นายสุชาติ ชมกลิ่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า นายกรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว โดยพร้อมจะเยียวยาจ่ายเงินในรูปแบบเดียวกับโครงการเราชนะ ภายใต้ชื่อโครงการว่า ม.33 เรารักกัน
          ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมองว่าอยากช่วยเหลือผู้ประกันตนตามาตรา 33 ให้เป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน โดยตนเองได้นำเสนอเงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา ว่าจะต้องมีบัญชีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท ไม่มีการนำเกณฑ์เงินเดือนหรือรายได้ทั้งปีไม่เกิน 3 แสนบาท เหมือนโครงการเราชนะ มาเป็นเงื่อนไข เนื่องจากในรูปแบบบริษัท เงินเดือนแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่รายจ่ายแตกต่างกันไป ดังนั้นมองว่าทุกคนควรจะได้รับการเยียวยาที่เท่ากัน
          คาดเยียวยาสูงสุด4,500บาท/คน
          นายสุชาติเผยต่อถึงส่วนของเม็ดเงินที่จะมาใช้ในการเยียวยา เป็นเม็ดเงินกู้ของรัฐบาลโครงการเดียวกันเราชนะ รวมทั้งสิ้น 4 หมื่นล้านบาท ส่วนเกณฑ์วงเงินช่วยเหลือ จะอยู่ที่ 3,500-4,500 บาทต่อคน คาดว่าจะมีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินเยียวยา ประมาณ 9 ล้านคน จากผู้ประกันตนตามมาตร 33 ทั้งหมด 11 ล้านคน โดยจะมีการสรุปอย่างเป็นทางการวันที่ 5 ก.พ. นี้อีกครั้ง
          ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เปิดเผยผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กอีกด้วยว่า เข้าวันนี้มีประชุมหารือใน 2 เรื่องสำคัญเรื่องแรกคือ มาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ประกันสังคม ตนได้เห็นชอบในหลักการให้ช่วยเหลือผู้ประกันตนให้ครบทุกคน โดยจะเร่งนำเสนอให้ ครม. พิจารณาโดยเร็วส่วนเรื่องที่ 2 เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้กับนักลงทุนชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมทั้งการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ภายหลังวิกฤติโควิด-19 และมาตรการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ
          แพทย์แจงวัคซีนช่วยสร้างภูมิ
          นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ แถลงข่าวประเด็นวัคซีนโควิด-19 ที่ประชาชนควรรู้ว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประมาณ 100 ล้านโดส เป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งประเทศไทยโดยยึดหลักความปล่อดภัยและคุณภาพ มีเป้าหมายหลักคือ ลดการเจ็บป่วย ลดการเสียชีวิต และลดการแพร่เชื่อ ต้องฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อเพิ่มในอนาคต เนื่องจากเมื่อไม่ป่วยหรือป่วยแต่ไม่มีอาการ การแพร่เชื้อจะน้อยลง
          สำหรับเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนที่พบคือ ปวด, บวม, แดง, ร้อน เช่น วัคซีนแอสตร้า-เซเนกา พบปวด บวม แดง ร้อน ประมาณร้อยละ 70 ส่วนใหญ่กินยาแก้ปวดหรือนอนพักก็หาย สำหรับผลข้างเคียงรุนแรงนั้น วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์พบ 11 รายใน 1 ล้านโดส บริษัทโมเดอร์นาพบ 3.7 รายในล้านโดส ถือว่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่พบประมาณ 1 รายในล้านโดส แต่ต้องเก็บข้อมูลต่อไป
          ทั้งนี้ อาการรุนแรงที่เกิดขึ้นของวัคซีนทั้ง 2 ชนิด มักเกิดใน 15 นาทีหลังฉีด ดังนั้นจึงให้เฝ้าสังเกตอาการที่หน่วยบริการหลังฉีด 30 นาทีส่วนของแอสตร้าเซเนกายังไม่มีข้อมูล เนื่องจากอยู่ระหว่างเริ่มฉีด ขณะที่ชิโนแวคใช้รูปแบบเชื้อตายที่มีการใช้มานานเช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไข้สมองอักเสบ และโปลิโอชนิดฉีด พบว่าผลข้างเคียงต่ำ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าผลข้างเคียงน่าจะน้อย และระหว่างการขอข้อมูลผลจากการฉีดวัคซีนในอินโดนีเซีย จีนและเมียนมา ที่มีการฉีดไปแล้วประมาณ 4-5 ล้านโดส ส่วนกรณีเชื้อกลายพันธุ์ทำให้เกิดปัญหาการตอบสนองต่อวัคซีนลดลง ต้องติดตามข้อมูลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
          กรมวิทย์ฯสุ่มตรวจอาหารทะเล
          นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ออกมาเก็บตัวอย่างอาหารและบรรจุภัณฑ์ เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทรายแดงปลาซาบะ ปลาทู ปลาอินทรี ปลาใบขนุน ปลาน้ำดอกไม้ หอย หมึก กุ้ง เป็นต้น หลังเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากแพกุ้ง จ.สมุทรสาคร ทำให้ประชาชนเกิดกระแสความไม่มั่นใจในการบริโภคอาหารทะเล
          สำหรับบรรจุภัณฑ์ เช่น กระป๋อง กล่องกระดาษ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 - เดือนมกราคม 2564 จำนวน 117 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อนทุกตัวอย่าง โดยเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2563 สุ่มตรวจอาหารทะเลที่จาหน่ายในตลาดสดเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 80 ตัวอย่าง
          วันที่ 7 มกราคม 2564 ตรวจอาหารทะเลที่ตลาดปลาสหกรณ์ประมงแม่กลอง จ.สมุทรสาคร จำนวน 26 ตัวอย่าง วันที่ 11 มกราคม 2564 ตรวจสินค้าสัตว์น้ำในเรือด่านประมง จ.ระยอง จำนวน 3 ตัวอย่าง และล่าสุดวันที่ 21 มกราคม 2564 ตรวจอาหารทะเลและบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ กล่องกระดาษกระป๋อง จำนวน 8 ตัวอย่าง
          "จากการสุ่มตรวจอาหารทะเลที่จำหน่ายในประเทศ ไม่พบการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าสามารถรับประทานทะเลสดและอาหารทะเลแช่แข็งได้ ตามปกติและมีความปลอดภัย โดยนำมาปรุงให้สุก เพราะความร้อนสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ด้วยความร้อน 70 องศา
          เซลเซียส นาน 5 นาทีขึ้นไป
          และถ้าความร้อนสูงขึ้น ก็จะใช้ระยะเวลาน้อยลง หากเป็นอาหารแช่แข็ง ควรล้างทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์ สวมถุงมือเวลาประกอบอาหารและที่สำคัญต้องล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังสัมผัสอาหารทะเล
          ทั้งนี้บริษัทเอกชนรายใดต้องการส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร 0-2951-0000 ต่อ 99561, 99562 หรือคู่มือการส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์หาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในอาหาร และบรรจภัณฑ์ http://bqsf.dmsc.moph.go.th/bqsfWeb/index.php/covid-19/"
          คนลาวกลับจากไทยติดเชื้อ
          สำนักข่าวสารประเทศลาว รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศลาว ไดยกระทรวงลาธารณสุขสาวรายงานว่า พบคนลาวติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 1 คน เป็นผู้หญิงอายุ 20 ปี อาชีพแม่บ้าน โดยเดินทางกลับจากประเทศไทย ขณะนี้รักษากษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแขวงจำปาสัก
          สำหรับรายละเอียดสอบสวนโรคนั้น เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้ติดเชื้อพร้อมเพื่อน 1 คน นั่งรถโดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิต  กรุงเทพฯ มาลงที่ด่านชายแดนช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ต่อมาวันที่ 31 ม.ค. ข้ามด่านชายแดนเข้าสู่แขวงจำปาสัก เจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อ และนำตัวไปสถานที่กักตัว จนกระทั่งผลตรวจออกมายืนยันติดเชื้อ โดยมีผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 35 คน ที่นั่งรถโดยสารคันเดียวกัน จึงตรวจหาเชื้อ และนำไปสถานที่กักตัว รวมยอดสะสมผู้ติดโควิดในลาว 45 คน รักษาหายแล้ว 41 คน ยังอยู่ในโรงพยาบาล 4 คน
          ป่วยโลก 104.4 ล้านคน
          เว็บไซต์ worldometers รายงานสถาการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ณ วันที่ 3 ก.พ. 64 โดย ณ เวลา 18.30 น. (เวลาไทย) ระบุยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก อยู่ที่จำนวน 104,480,575 คน เสียชีวิตแล้ว 2,264,877 คน และรักษาหายแล้ว 76,360,610 คน
          ส่วนชาติที่มีการติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรกของโลก มีดังนี้ อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา 27,027,430 คน, อันดับ 2 อินเดีย 10,778,206 คน, อันดับ 3 บราซิล 9,286,256 คน, อันดับ 4 รัสเซีย 3,901,204 คน และอันดับ 5 สหราชอาณาจักร 3,852,623 คน