Follow us      
  
  

สยามกีฬา [ วันที่ 30/04/2564 ]
ยกระดับ6จว.เป็นสีแดงเข้ม เริ่ม1พ.ค.งดออกนอกพื้นที่

ศบค.แจงยอดป่วยโควิด-19 ประจำวันที่ 29 เม.ย. 64 ลดต่ำกว่า 2 พัน เหลือ 1,871คน แต่ยอดดับยังสูง ตายอีก 10 ผู้เสียชีวิตรายใหม่ ปัจจัยติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการสัมผัสญาติติดเชื้อมาเยี่ยม ขณะที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็ม 1 และ 2 ในไทย ตั้งแต่ 28 ก.พ. - 28 เม.ย. 64 ยอดฉีดสะสมทะลุ 1.3 ล้านโดส ศบค. ขอคนวัยทำงาน Work From Home ให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ลดพบปะสังสรรค์ทานอาหารร่วมกัน หลังพบเป็นช่วงวัยติดเชื้อสูงสุด ขณะเดียวกัน ศบค. ประกาศยกระดับ 6 จังหวัดเป็นสีแดงเข้ม งดเดินทางออกนอกพื้นที่ ยันไม่ใช่เคอร์ฟิว มีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. วันที่ 1 พ.ค. 64 ขณะที่อินเดีย ทุบสถิติติดเชื้อราย วันใหม่เป็นสถิติโลก วันเดียวป่วยมากกว่า 3.7 แสน คน ส่วนยอดป่วยทั่วโลกพุ่งไม่หยุดจนทะลุ 150 ล้าน คนไปแล้ว
          ป่วยโควิด 1,871 ราย
          เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 เม.ย.2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวจากทำเนียบรัฐบาล รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ระบุพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1,871 ราย ทำให้ขณะนี้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม จำนวน 63,570 คน เสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 188 ราย
          สำหรับรายละเอียดมีดังนี้ ติดเชื้อในประเทศ 1,864 รายติดเชื้อจากต่างประเทศ 7 รายรักษาหายเพิ่มขึ้น 992 ราย กลับบ้านแล้ว 35,394 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 27,988 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 21,306 ราย และโรงพยาบาลสนาม 6,602 ราย
          ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 786 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 230 ราย ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบ เฝ้าระวังและระบบบริการ 1,830 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อ เชิงรุกในชุมชน 34 รายผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย และประเทศไทยเป็นอันดับที่ 104 ของโลก
          ต้านรายละเอียดผู้ป่วยเสียชีวิต 10 ศพ เป็นชายไทย 8 ราย หญิงไทย2 ราย แบ่งเป็นจังหวัด ดังนี้ กทม. 6 ราย, นครสวรรค์ 1 ราย,  สมุทรปราการ 1 ราย, ยโสธร 1 ราย และ อยุธยา 1 ราย ส่วนโรคประจำตัว/ปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรง ของโรคประกอบด้วย โรคเบาหวาน, ความดันโลหิต สูง, โรคหลอดเลือดสมอง, ภาวะอ้วน, โรคหัวใจ, ไขมันในเลือดสูง, โรคปอดเรื้อรัง, โรคไตเรื้อรัง และผู้ป่วยติดเตียง
          ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 มาจากการสัมผัสญาติติดเชื้อมาเยี่ยม, ทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานติดเชื้อ, ผู้ป่วยติดเตียงมีผู้ดูแลติด เชื้อ, พนักงานร้านคาราโอเกะ, ร่วมสัมมนากับผู้ติดเชื้อ และไม่สามารถระบุปัจจัยเสี่ยง
          วัคซีนฉีดแล้ว 1.3 ล้านโดส
          นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ยังเผยถึง ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย อีกว่าจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2564 มีจำนวน 64,933 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 20,761 รายผู้ได้รับวัคชีนเข็มที่ 2 จำนวน 44,172 ราย
          ส่วนจำนวนผู้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. - 28 เม.ย. 2564 (60 วัน) 1,344,646 โตส ในพื้นที่ 77 จังหวัด โดยผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 1,059,721 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 284,925 ราย
          ขอ WFH ร้อยเปอร์เซ็นต์
          โฆษก ศบค. ยังเผยอีกว่า ภาพรวมการติดเชื้อในเดือน เม.ย. ซึ่งถูกนำเสนอในที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าตัวเลขผู้ ติดเชื้อกรุงเทพมหานครและปริมณฑลใกล้เคียงกับยอดทั้งประเทศ พร้อมระบุว่าในการระบาดรอบนี้ถ้าจัดการการระบาดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ ก็เหมือนจัดการได้ทั้งประเทศ
          "ยุทธศาสตร์ของการจัดการอยู่ที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอพี่น้องกรุงเทพ- มหานครและปริมณฑลได้โปรดให้ความร่วมมือกลุ่ม คนวัยทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนนี้ Work From Home (ท้ำงานที่บ้าน) เป็นเรื่องที่จะต้องทำให้ได้ 100% นายกรัฐมนตรีในฐาน ผอ.ศบค. บอกกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดขอให้ร่วมมือกัน Work From Home ให้มากที่สุด นี่สิ่งที่จะช่วยกันได้ เพราะกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเดินทางของคนทำงานไม่ว่าจะดื่มกิน หรือรับประทานอาหารในร้าน
          ทั้งนี้ ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีการสังรรค์ในครอบครัว พบปะเพื่อนฝูงการติดเชื้อจึงเพิ่มสูงขึ้น ส่วนกรณีการยังให้เดินทางที่ผ่านมาเพราะ อยากให้เกิดการใช้จ่าย แต่อยากฝากเป็นบทเรียน ขอให้ทราบว่าต้องรักษาระยะห่างการนั่งร่วมวงสังสรรค์ล้วนแต่มีความเสี่ยงทั้งสิ้น ซึ่งกลุ่มอายุที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มก้อนการติดเชื้อร้านอาหารคือวัยทำงาน และ 60% มีอาการจึงขอความร่วมมือให้ Work From Home เพื่อให้คนทำงานที่บ้าน ไม่ต้องพบปะสังสรรค์กัน ซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้าน
          ลั่น 1 สัปดาห์แก้ผู้ป่วยค้าง
          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยระหว่าง เดินทางไปตรวจศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโค วิด-19 ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อ 29 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาการส่งต่อผู้ป่วยไม่ทัน กระทรวงสาธารณสุขคำนึงถึง ภาวะจิตใจของประชาชนโดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่รอรถพยาบาลอยู่บ้าน ท่านคงมีความกังวล ญาติ ๆ สมาชิกในครอบครัวก็คงจะกังวล จึงระดมเครือข่ายทั้งหมดเข้ามาทำงาน
          "ล่าสุดโดยได้รับความกรุณาจาก รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดการกีฬาแห่งประเทศไทย กรมพลศึกษา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้ามา ร่วมสนับสนุนถารทำงานของหน่วยงานของกระทรวง สาธารณสุข และเรามีเป้าหมายว่าภายใน 1 สัปดาห์ จะไม่มีผู้ป่วยติดค้างและไม่ได้รับการรักษา เรามี อุปกรณ์เวชภัณฑ์พร้อม มีระบบการส่งต่อ คัดแยก พร้อมจะแก้ไขปัญหานี้ได้"
          ปรับ 6 จังหวัดสีแดงเข้ม
          ช่วงเย็นวันที่ 29 เม.ย. 64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศปก.ศบค.ถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ว่า ที่ประชุมพิจารณายกระดับการดูแลจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 ด้วยการยกระดับ 6 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ประกอบด้วย กทม. ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
          2.ห้ามการจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน
          3.มาตรการควบคุมสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กำหนดยกระดับมาตรการควบคุมบูรณาการขึ้นเพิ่มเติม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
          3.1 ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดบริการได้ถึง 21.00 น.
          3.2 สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนสให้ปิดบริการ ยกเว้นสถานที่ใช้เป็นเอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. และสามารถจัดแข่งขันโดยไม่มีผู้ชม
          3.3 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่คล้ายกัน ให้เปิดได้ตามปกติ จนถึง 21.00 น. ยกเว้นส่วนตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุกที่งดการให้บริการ
          3.4 ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดปกติ แต่ไม่เกิน 23.00 น. ส่วนร้านซึ่งตามปกติเปิดตลอด 24 ช.ม. ให้เริ่มเปิดได้เวลา 04.00 น.
          3.5 การงดการเดินทางอออกนอกพื้นที่ ให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด งดการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงติดโรค
          โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. วันที่ 1 พ.ค.2564 พร้อมยืนยันไม่ได้เป็นการประกาศใช้เคอร์ฟิว
          อินเดียป่วยทุบสถิติโลก
          เมื่อวันที่ 29 เม.ย. บีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ยังวิกฤตหนักใน ประเทศอินเดีย ว่า กระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุพบผู้ป่วยใหม่เมื่อวันพุธที่ 28 เม.ย. อีก 379,459 คน นับเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดเป็น  ประวัติการณ์ของประเทศและของโลกอีกครั้ง หน้ซำยังเป็นจานวนผู้ป่วยเกินสามแสนคนติดต่อกันเป็น วันที่ 8 และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยอดสะสมเพิ่มเป็นกว่า 18.37 ล้านคน และเสียชีวิตแล้ว 204,832 ราย
          สำหรับรัฐที่ประสบปัญหาโควิดระบาดหนักที่สุดยังเป็นรัฐมหาราษฎระ มีผู้ป่วยทะลุ 4.41 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 66,000 ราย รัฐเกรละติดเชื้อ  อย่างน้อย 1.46 ล้านคน รัฐกรณาฏกะป่วยรวมกว่า 1.40 ล้านคน รัฐอุตตรประเทศ 1.15 ล้านคน และ รัฐทมิฬนาฑู 1.11 ล้านคน
          วันเดียวกันมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลัง ทางการรัฐเบงกอลตะวันตก ซึ่งมีผู้ป่วยสะสมมาก เป็นอันดับ 8 ของประเทศ กับจำนวนผู้ติดเชื้อ กว่า 776,000 คน เดินหน้าจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นท่ามกลางความวิตกกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านโรค ระบาดซึ่งเกรงว่ารัฐเบงกอลตะวันตกจะกลายเป็น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะในอนาคตอันใกล้
          ป่วยโลกทะลุ 150 ล้าน
          เว็บไซต์ worldometers รายงานสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ประจำวันที่ 29 เม.ย.64 โดย ณ เวลา 18.15 น. (เวลาไทย) ระบุพบ ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 150,336,400 คน ส่วนยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 3,166,912 คน และรักษาหายแล้ว 127,879,104 คน โดยสหรัฐอเมริกายังเป็นชาติที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก ที่จำนวน 32,983,695 คน ตามด้วยอินเดีย 18,376,524 คน, บราซิล 14,523,807 คน, ฝรั้งเศส 5,565,852 คนและรัสเซีย 4,796,557 คน

 pageview  1210872    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved