Follow us      
  
  

สยามกีฬา [ วันที่ 29/06/2564 ]
ป่วยวันเดียวพุ่ง5,406 12จว.เกินร้อย-ดับ22 พันธุ์เบตาโผล่กทม. ห้ามรวมตัวเกิน20

 ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 28 มิ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อวิกฤตหนักพุ่งสูงถึง 5,406 ราย เสียชีวิตอีก 22 ศพ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 249,853 ราย รักษาหายอีก 3,343 ราย จ.ชลบุรี ป่วยทะยาน ข้อมูลรายงานวันที่ 28 มิ.ย. 2564 เป็นนิวไฮ 390 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกคลัสเตอร์แคมป์ ก่อสร้างถึง 188 ราย รวมยอดติดโควิด 12 จังหวัดติด เชื้อเกินร้อย ตากเจอคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานเสื้อผ้าก้อนใหญ่ ถึง 447 ราย กทม. สูงสุด 1,678 ราย หลาย จังหวัดเจออื้อ ฉีดวัคซีนรวมแล้ว 9.1 ล้านโดส สธ.ยันพบผู้ติดเชื้อโควิต-19 สายพันธุ์เบตา 2 ราย เป็นลูกชาย เดินทางจากนราธิวาส มาเยี่ยมพ่อ-แม่ที่ กทม. ล่าสุด พ่อผลตรวจเป็นบวก แพทย์ชี้สายพันธุ์นี้อำนาจแพร่ กระจายไม่มาก ห่วงสายพันธุ์เดลตาอินเดียมากกว่าด้านกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการติดตามเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อโควิด พบสัปดาห์นี้เดลตาพุ่ง คาด อีก 2- 3 เดือน มาแทนอังกฤษ โฆษก ศบค. ขอ ความร่วมมือ คน กทม. ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน โควิด-19 เคร่งครัด เพื่อหยุดเชื้อระบาด ห้ามนั่งทาน อาหารในร้าน ซื้อกลับบ้านได้เท่านั้น ปิดแคมป์คนงาน ก่อสร้าง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ไม่น้อยกว่า 30 วัน ห้ามรวมกลุ่มเกิน 20 คน ขณะที่แอสตร้าเซนเนก้า ประกาศส่งมอบวัคซีนโควิด ให้ สธ. แล้ว 4.7 ล้าน โดส ก่อนจะส่งมอบครบ 6 ล้านโดส ในสัปดาห์นี้ ตามแผนการจัดหาวัคซีน 61 ล้านโดส ให้ไทย
          ไทยวิกฤตป่วยอีก5,406คน
          เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,406 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,379 ราย จากเรือนจำ 9 ราย และมาจากต่างประเทศ 18 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,343 ราย เสียชีวิต 22 ราย
          ทำให้มียอดติดเชื้อสะสม 249,853 ราย รักษาหายสะสม 202,271 ราย เสียชีวิตสะสม 1,934 ราย อยู่ระหว่างรักษา 45,648 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 19,386 ราย โรงพยาบาลสนาม 26,262 ราย อาการหนัก 1,806 ราย จำนวนนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 510 ราย อาการหนักแนวโน้มสูงขึ้น
          การติดเชื้อมารักษาในโรงพยาบาลเยอะมากขึ้น คนขอเตียงจึงเยอะขึ้น ซึ่งตอนนี้สูงกว่าตอนช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา แสดงว่าการระบาดไปในทุกพื้นที่ ยอดเรือนจำตัวเลขลดลงเรื่อยๆ ควบคุมได้
          ส่วนผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศ 18 ราย ได้แก่ รัสเซีย 3 ราย ซูดาน ฝรั่งเศส ประเทศละ 2 ราย แคเมอรูน โซมาเลีย แอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 1 ราย และกัมพูชา 6 ราย มาจากช่องทางธรรมชาติ 3 ราย
          สำหรับผู้เสียชีวิต 22 ราย มาจาก กทม. 10 ราย สมุทรปราการ 3 ราย นครราชสีมา เพชรบุรี นครศรีธรรมราช ระยอง ปทุมธานี ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ สงขลา และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 9 ราย อายุต่ำสุด 31 ปี สูงสุด 91 ปี ค่าอายุกลาง 59.5 ปี ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่ยังเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ติดจากเดินทางไปในพื้นที่ระบาดเป็นต้น ระยะอยู่โรงพยาบาล 7.5 วัน นานสุด 29 วัน
          12จังหวัดติดเชื้อเกินร้อย
          ทั้งนี้ จังหวัด 10 อันดับติดเชื้อสูงสุด ติดเชื้อเกิน 100 รายทั้งหมด ได้แก่ 1.กทม. 1,678 ราย สะสม 69,301 ราย 2.ตาก 453 ราย สะสม 949 ราย 3.สมุทรปราการ 395 ราย สะสม 15,922 ราย 4.ชลบุรี 390 ราย สะสม 8,070 ราย 5.สมุทรสาคร 295 ราย สะสม 7,417 ราย
          6.สงขลา 275 ราย สะสม 4,106 ราย 7.นนทบุรี 222 ราย สะสม 10,924 ราย 8.นครปฐม 197 ราย สะสม 3,922 ราย 9.ปัตตานี 178 ราย สะสม 1,966 ราย และ 10.สระบุรี 157 ราย สะสม 1,550 ราย อย่างไรก็ตามยังมีจังหวัดที่ป่วยเกินร้อยรายอีก 2 จังหวัด คือ ระยอง 123 ราย และปทุมธานี 111 ราย
          “ตากเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ค้นหาเชิงรุกในโรงงานเสื้อผ้า เจอก้อนใหญ่ 447 ราย สูงเป็นอันดับ 2 จ.สมุทรปราการ เจอใหม่ที่โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศ อ.เมือง 13 ราย จ.นครปฐม โรงหมู ต.มาบแค อ.เมือง 38 ราย ต่อเนื่องตากโรงหมูเดิม
          จ.สระบุรี เป็นบริษัทชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ อ.หนองแค 127 ราย จ.ระยอง พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ เป็นแคมป์ก่อสร้าง อ.เมือง 35 ราย บริษัทรับเหมาก่อสร้าง อ.เมือง 13 ราย และโรงแยกขยะ อ.ปลวกแดง 15 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
          ขณะที่การฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.64 มีการฉีด 93,577 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 63,230 ราย และเข็มสอง 30,347 ราย ฉีดสะสม 28 ก.พ.-27 มิ.ย. ฉีดสะสม 9,147,512 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 6,537,851 ราย และเข็มสอง 2,609,661 ราย
          ชลบุรีติดเชื้อพุ่ง390ราย
          เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชลบุรี รายงานจำนวนผู้ป่วยผู้ติด เชื้อโควิด-19 รายใหม่ ประจำวันที่ 28 มิ.ย. 2564 เพิ่มอีก 390 ราย ซึ่งเป็นสถิติผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อราย ใหม่สูงสุดต่อวันของจังหวัด ตั้งแต่โควิต-19 ระบาดขณะที่ยอดสะสมระลอกใหม่เดือน เม.ย. 2564 เป็นต้นมา อยู่ที่ 8,072 ราย กำลังรักษารวม 2,706 หายป่วยเพิ่ม 43 ราย เสียชีวิตสะสม 42 ศพ
          สำหรับผู้ป่วยผู้ติดเชื้อรายใหม่รายงานวันที่ 28 มิ.ย. จำนวน 390 ราย แยกเป็น ที่มาดังนี้ 1. จากการค้นหาเชิงรุกคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้างใน อ.ศรีราชา 188 ราย, 2. จากการค้นหาเชิงรุก  คลัสเตอร์ตลาดใหม่ อ.เมือง 22 ราย, 3. จากการตรวจ เฝ้าระวัง ตลาดพื้นที่ อ.บางละมุง 17 ราย, 4. จากการตรวจเชิงรุกคลัสเตอร์ตลาดใน อ.สัตหีบ 10 ราย, 5. จากการจับกุมฝ่าฝืนกรณีรวมตัวสังสรรค์โดย สภ.เมืองพัทยา 5 ราย, 6. จากการตรวจเชิงรุก ตลาดใน อ.เมือง อีกหนึ่งตลาด 1 ราย, 7. บุคลากร ทางการแพทย์ 1 ราย, 8. กรณีการสัมผัสผู้ป่วย ยืนยันในครอบครัว 37 ราย, 9. กรณีจากการสัมผัส ผู้ป่วยในสถานที่ทำงาน 28 ราย, 10. กรณีการสัมผัส ผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 44 ราย และ 11. กรณีอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 37 ราย
          สธ.ยันกทม.เจอพันธุ์เบตา
          เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวชี้แจงความคืบหน้า การติดตามสถานการณ์ในรอบสัปดาห์ พบเชื้อ สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) เพิ่มขึ้น 459 คน รวมเป็น 1,120 คน สายพันธุ์เบตา พบเพิ่ม 89 คน สะสม 127 คน โดยพบเพิ่มใน จ.สุราษฎร์ธานี 1 คน นครศรีธรรมราช 2 คน (รอคอนเฟิร์มเคส) นราธิวาส 84 คน ยะลา 2 คน พัทลุง 1 คน และ กทม. 1 คน
          กรณีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบตาที่พบใน กทม. การสอบสวนโรคพบเส้นทางของเชื้อ จากผู้ป่วยที่เป็นลูกจ้างในตลาดแห่งหนึ่ง มีลูกชายเดินทางมาจาก จ.นราธิวาส เพื่อมาเยี่ยมพ่อแม่ ขณะเดินทางมา กทม.ลูกชายไม่มีอาการ แต่เมื่อกลับไปภูมิลำเนา เริ่มไม่สบายและตรวจพบเชื้อสายพันธุ์เบตา ขณะที่พ่อผลตรวจเป็นบวก ติดเชื้อสายพันธุ์เบตาด้วย ขณะนี้ทั้ง 2 คน อยู่ในการดูแลของแพทย์ ส่วนญาติอีก 2 คน ที่มีผลตรวจติดเชื้อ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจหาสายพันธุ์ ขณะที่เพื่อนร่วมงานอีก 6-7 คน ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ กรณีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบตาใน กทม. คาดว่าเป็นการติดเชื้อจากลูกชายที่มาเยี่ยม
          หาก กทม.มีผู้ติดเชื้อคนเดียว เมื่อล็อกอยู่ก็จะหายไป แต่ขณะนี้เราไม่ได้ห้ามการเดินทางของผู้คนในประเทศ จึงมีโอกาสที่จะพบเชื้อกลายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์เบตา อำนาจการแพร่กระจายไม่มาก ยกเว้นจะสัมผัสใกล้ชิดกันจริงๆ สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ที่สายพันธุ์นี้ก็ไม่ได้มีสัดส่วนมาก ที่น่าเป็นห่วงคือ สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น
          กรณีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบตาที่พบใน กทม. การสอบสวนโรคพบเส้นทางของเชื้อ จากผู้ป่วยที่เป็นลูกจ้างในตลาดแห่งหนึ่ง มีลูกชายเดินทางมาจาก จ.นราธิวาส เพื่อมาเยี่ยมพ่อแม่ ขณะเดินทางมา กทม.ลูกชายไม่มีอาการ แต่เมื่อกลับไปภูมิลำเนา เริ่มไม่สบายและตรวจพบเชื้อสายพันธุ์เบตา ขณะที่พ่อผลตรวจเป็นบวก ติดเชื้อสายพันธุ์เบตาด้วย ขณะนี้ทั้ง 2 คน อยู่ในการดูแลของแพทย์ ส่วนญาติอีก 2 คน ที่มีผลตรวจติดเชื้อ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจหาสายพันธุ์ ขณะที่เพื่อนร่วมงานอีก 6-7 คน ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ กรณีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบตาใน กทม. คาดว่าเป็นการติดเชื้อจากลูกชายที่มาเยี่ยม
          หาก กทม.มีผู้ติดเชื้อคนเดียว เมื่อล็อกอยู่ก็จะหายไป แต่ขณะนี้เราไม่ได้ห้ามการเดินทางของผู้คนในประเทศ จึงมีโอกาสที่จะพบเชื้อกลายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์เบตา อำนาจการแพร่กระจายไม่มาก ยกเว้นจะสัมผัสใกล้ชิดกันจริงๆ สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ที่สายพันธุ์นี้ก็ไม่ได้มีสัดส่วนมาก ที่น่าเป็นห่วงคือ สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น
          คาดไทยเจอเดลตาระบาดหนัก
          นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า เฉพาะสัปดาห์ทีผ่านมา ภาพรวมทั้งประเทศ มี สายพันธุ์แอลฟา (อังกฤษ) 80.19% สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) 16.59% สายพันธุ์ เบตา (แอฟริกาใต้) 3.2% โดยพบว่า พื้นที่ กทม. 1 ใน 3 เป็นสายพันธุ์เดลตา 32.39% ในขณะที่ระดับภูมิภาค เดลตา ขยับเป็น 7% จาก 5% ทำให้คาดว่า อีก 2-3 เดือน สายพันธุ์เดลตา อาจจะมากกว่าสายพันธุ์แอลฟาเดิม
          สำหรับข้อมูลรายจังหวัด สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) สัปดาห์นี้มีเพิ่มที่ จ.พะเยา 1 เพชรบูรณ์ 1 อุตรดิตถ์ 4 อุทัยธานี 2 นครสวรรค์ 11 พระนครศรีอยุธยา 7 ชลบุรี 1 ขอนแก่น 3 ร้อยเอ็ด 3 มหาสารคาม 1 กาฬสินธุ์ 6 อุดรธานี 23 สกลนคร 22 นครพนม 3 บึงกาฬ 4 เลย 20 หนองคาย 2 หนองบัวลำภู 12 ส่วนใหญ่เดินทางไปจาก กทม.
          ที่น่าสังเกตคือเดลต้าเดิมไม่มีในภาคใต้แต่วันนี้พบในภาคใต้ที่นราธิวาส 2 รายและจากการสอบข้อมูลเป็นคนที่ข้ามมาจากรัฐเคดาห์ที่นราธิวาส ทำให้เดลตางหมด ในพื้นที่กรุงเทพฯเพิ่มมากที่สุด 331 ราย ส่วนใหญ่เป็นแคมป์คนงานที่เป็นคัตเตอร์ใหญ่จะเจอเดลต้า ทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 459 รายสะสม 1,120 ราย
          ในส่วนของ สายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) เพิ่มขึ้น 89 ราย สะสม 127 ราย ค่อนข้างเยอะ ในสัปดาห์นี้พบว่า สุราษฎร์ธานี 1 ราย นราธิวาส 84 ยะลา 2 พัทลุง 1 กรุงเทพฯ 1 สำหรับ กทม. พบว่าผู้ป่วยเป็นลูกจ้างในตลาดแห่งหนึ่ง ลูกเดินทางมาจากนราธิวาส ขณะที่ลูกระหว่างเดินทางมายังไม่พบอาการอะไร หลังจากกลับจากเยี่ยมพ่อ พบว่าติดเชื้อ ส่วนพ่อเมื่อตรวจก็พบว่าติดเชื้อและเป็นสายพันธุ์เบต้า ส่วนญาติอีก 2 คน พบว่าติดเชื้อและกำลังตรวจสายพันธุ์ ส่วนเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานอีก 6-7 คน ไม่พบเชื้อ เชื่อว่าติดมาจากลูกที่เดินทางมาเยี่ยม เชื่อว่ารายเดียวที่พบ จะล็อกอยู่ อาจมีแค่รายเดียวแล้วหายไป
          “การที่เราไม่ได้ห้ามการเดินทางภายในประเทศ ก็อย่าไปแปลกใจที่จะพบเชื้อไปที่อื่น แต่เบต้า พบว่า ฤทธิ์ในการแพร่กระจายไม่ได้สูง ที่เป็นห่วง คือ สายพันธุ์อินเดีย ที่มีฤทธิ์การแพร่ระบาดได้มากว่า”
          กทม.งดรวมกลุ่มเกิน20คน
          เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายแพทย์ทวีศิลป์วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลง ขอความร่วมมือพี่ น้องประชาชนพื้นที่ กทม. ทุกท่าน ให้ปฏิบัติตาม ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไปก่อนหน้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
          1. สั่งปิด ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง สั่งให้หยุดงานก่อสร้าง และห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน เป็นการชั่วคราวอย่างน้อยสามสิบวัน
          2. จำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม รวมถึงร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ให้เปิดเฉพาะนำกลับไปบริโภคที่อื่นห้ามนั่งกินที่ร้าน
          3. โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่ แต่งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมมนา และการจัดเลี้ยง
          4.ห้ามกิจกรรมรวมกลุ่มบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่ายี่สิบคน เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
          ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (28 มิ.ย.2564)
          แอสตร้ายันส่งครบ6ล.โดส
          นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “แอสตร้าเซนเนก้ามีความยินดีที่ได้เห็นการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศไทยคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าหากเราร่วมมือกัน ในไม่ช้าก็จะสามารถควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้”
          นายเจมส์ระบุว่า แอสตร้าเซนเนก้า มุ่งมั่นสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเร็วที่สุด”
          ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าจะดำเนินการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้จะเริ่มส่งออกวัคซีนไปยังประเทศต่างๆ ในต้นเดือนกรกฎาคม โดยหนึ่งในสามของกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศได้ถูกสำรองไว้เพื่อผลิตวัคซีนให้กับประเทศไทย ตามคำสั่งซื้อรวม 61 ล้านโดส ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของวัคซีนจำนวน 180 ล้านโดสที่ผลิตโดยสยามไบโอไซแอนซ์ ส่วนกำลังการผลิตที่เหลืออีกประมาณสองในสามจะจัดสรรให้กับการผลิตวัคซีนเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
          ในเดือนตุลาคม ปี 2563 แอสตร้าเซนเนก้า กระทรวงสาธารณสุข เอสซีจี และสยามไบโอไซเอนซ์ ได้ร่วมกันลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในการผลิตและจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมโดยเร็ว
          นายลีออน หวัง รองประธานบริหาร ฝ่ายการต่างประเทศของแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า "การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นเรื่องที่ต้องประเมินและปรับแนวทางการรับมือให้มีความชัดเจน ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะแหล่งผลิตวัคซีน เพื่อใช้ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคนี้ และเพื่อสุขภาพของประชาชนรวมถึงเศรษฐกิจของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
          วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าได้สร้างประโยชน์อันยิ่งใหญ่ในการช่วยชีวิตผู้คนมากมายนับตั้งแต่เริ่มต้นฉีดให้กับประชาชนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และยังช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผลการทดลองทางคลินิกยืนยันว่า ผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสามารถทนต่อผลข้างเคียงของวัคซีนได้ดีและวัคซีนยังช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในทุกระดับความรุนแรง นอกจากนี้ จากข้อมูลการใช้วัคซีนในประชากรหลายสิบล้านคนทั่วโลก ยังแสดงให้เห็นว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิผลลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้มากถึง 80% หลังจากการฉีดเข็มแรก
          ยอดป่วยโลกเฉียด182ล้าน
          เว็บไซต์ worldometers รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ประจำวันที่ 28 มิ.ย. 64 โดยระบุ ณ เวลา 18.45 น. (เวลาไทย) โดยรายงานพบผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกแล้วถึง 181,946,305 คนเสียชีวิตแล้ว 3,940,743 คน และรักษาหายแล้ว 166,446,356 คน

 pageview  1210868    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved