Follow us      
  
  

บางกอกทูเดย์ [ วันที่ 03/02/2563 ]
อาหารคือยารักษาโรค แนวทางชีวิตของ หมอนัท รินทร์ธนันจิตต์จงธรรม

  คนไทยป่วยด้วยโรค NCDs มากถึง 14 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 340,000 ราย/ปี หรือชั่วโมงละ 37 คน และมีแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งล้วนเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหาร ชวนคุยกับ หมอนัท-แพทย์แผนไทยเภสัชกรรมไทย แพทย์ แผนไทยเวชกรรมไทย รินทร์ธนัน จิตต์จงธรรม ผู้ดำเนินชีวิตด้วยแนวทาง อาหารคือยารักษาโรค
          แรงบันดาลที่ทำให้สนใจแพทย์แผนไทย
          อยากสานฝันตัวเองที่อยากเป็นหมอ อยากจะดูแลคุณตา คุณยาย คุณแม่ ให้สุขภาพดี แล้วเราก็พบว่าแพทย์แผนไทยคือศาสตร์ที่ถูกลืม แพทย์แผนไทยไม่ทันใจคนตั้งแต่มีมิชชันนารีเข้ามาในยุครัชกาลที่ 4 เพราะเมื่อเราทานยาแผนปัจจุบันเม็ดเดียวก็เห็นผลทันใจ แต่ถ้าต้องมาจิบน้ำอุ่นทุกวัน สูดลมหายใจเป็นชั่วโมง คนจะไม่รอ เพราะไม่ชอบการทรมาน เป็นประเภท ตายไม่ได้ ทรมานไม่เป็น จึงเลือกหนทางที่รวดเร็วกว่า อย่างเป็นไข้ธรรมดา โดยปกติ 7 วันก็หาย แต่ไม่มีใครรอถึง 7 วันหรอก ทานยาพาราเม็ดเดียวเดี๋ยวก็หาย
          จุดเริ่มต้นของอาหารคือยารักษาโรค
          หลังจากที่เรียนจบทางด้านแพทย์แผนไทย จากมูลนิธิแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข เราก็อยากจะทำเกี่ยวกับการรักษาให้คนไทยมีสุขภาพดีและยั่งยืน อยู่อย่างไรโดยไม่ต้องหวังพึ่งลูกหลาน ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นโรค NCDs ซึ่งการจะไม่เกิดโรคพวกนี้คือ กลับมาสู่จุดเริ่มต้น ทั้งเลือกรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำให้เหมาะสม ขณะเดียวกันก็คิดว่า เมื่อไม่ต้องใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาจะทำอย่างไร เราเองเรียนแพทย์แผนไทยก็พบว่ามีสมุนไพรหลายชนิดมากที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าทะลายโจร แก้ไข้ แก้ท้องเสีย เป็นต้น แม้จะมียารักษา แต่ต้นเหตุของโรคจริงๆ คือการเลือก รับประทานอาหาร เราเลยมาทำธุรกิจร้านอาหารเป็นยารักษาโรค
          รูปแบบการทานอาหารของคนไทย
          ปัจจุบันคนไทย และคนในแถบเอเชียจะรับประทานอาหารที่เป็นกรดมาก เช่น เนื้อแดง เพราะได้รับวัฒนธรรมมาจากชาติตะวันตก อย่างเบอร์เกอร์ แซนด์วิช ต่อมาก็ได้รับอิทธิพลจากตะวันออก เช่น อาหารเกาหลี ชาบู บุฟเฟ่ต์ คือทานให้คุ้ม ซึ่งวัฒนธรรมการทานบุฟเฟ่ต์ พอร่างกายรับโปรตีนที่ย่อยยากเป็นจำนวนมาก ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ยิ่งเนื้อสัตว์ที่ผ่านการหมักเครื่องเทศ ได้รับการปรุง มากๆ เราก็จะไม่รู้ว่าควรอิ่มเมื่อไหร่ ทานได้เรื่อยๆ ซึ่งถ้าคนรู้จักดูแลร่างกาย เมื่ออิ่มเขาก็จะหยุด ฉะนั้นการทานอาหารให้พอดีจะส่งผลดีต่อร่างกาย
          พูดถึง Ariya Organic Cafe
          Ariya Organic Cafe เกิดจากความตั้งใจที่ต้องการทำอาหารให้เป็นยารักษาโรค และทานได้ง่าย ก็เลยออกมาในเชิงอาหารประเภทยำ สลัด สมูทตี้ น้ำสกัดเย็น ประเภทของอาหารภายในร้านเป็นแบบ รอว์ฟู้ด (Raw Food) คืออาหารที่ไม่ใช้ความร้อนเกิน 42 องศาเซลเซียส และแบบวีแกนฟู้ด (Vegan Food) ซึ่งใช้ความร้อนในการประกอบอาหารตามปกติ อาหารทั้ง 2 ประเภทนี้ ทำจากผักและผลไม้เป็นหลัก โดยใช้รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ดตามธรรมชาติ
          ประโยชน์ของรอว์ฟู้ดและวีแกนฟู้ด
          การทานรอว์ฟู้ดและวีแกนฟู้ด ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ช่วยปรับสมดุลร่างกายของเราที่เป็นกรด ปกติเราทานอาหารที่เป็นกรด โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ดังนั้นในหนึ่งวันควรมีหนึ่งมื้อที่เป็นอาหารเบา คือเช้าหนัก กลางวันหนัก ส่วนเย็นควรเป็นมื้อเบา เพราะหลังจากมื้อเย็นเราไม่ได้ทำกิจกรรมหนักอยู่แล้ว แต่คนนิยม
          ทานมื้อเย็นหนัก ทำให้มีเวลาย่อยน้อยลง สิ่งที่ตามมาคือ โรคอ้วน และโรคประเภท NCDs ดังนั้นถ้าในหนึ่งมื้อได้ทานอาหารประเภทรอว์ฟู้ดหรือวีแกนฟู้ด ก็จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมร่างกาย
          ทานเท่าไหร่ขับถ่ายออกเท่านั้น
          เมื่อเราโตมามักเกิดปัญหาขับถ่ายได้น้อยลง ซึ่งเกิดจากไม่มีเวลาขับถ่าย ทานอาหารไม่ดี ดื่มน้ำน้อยลง และพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดโรคท้องผูก ร่างกายจะเก็บของเสียไว้มาก ก็จะเกิดเป็นกรดในลำไส้ ทำให้เกิดลำไส้อักเสบ อาการร้ายแรงที่สุดคือ โรคมะเร็ง คนเราหารู้ไหมว่าควรทานอาหารฤทธิ์เป็นกรดเป็นด่างให้สมดุล ยิ่งในภาวะที่สิ่งแวดล้อมเป็นพิษแบบนี้ ยิ่งต้องกลับมาทานผักผลไม้และดื่มน้ำมากขึ้น สะสมวิตามินและเกลือแร่ไว้ เพื่อเอาไว้ต่อสู้เมื่อเป็นโรค รวมทั้งเลือกทานโปรตีนที่เหมาะสม ขับถ่ายของเสีย และดื่มน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
          เปอร์เซ็นต์คนทานอาหารสุขภาพในไทย
          ก่อนหน้านี้ 5 ปี คนทานมังสวิรัติมีประมาณ 30% คนรักสุขภาพมีน้อยกว่าคนรักเงิน ก็คือจะแข่งขันกันทำงานตั้งแต่ยุคต้มยำกุ้ง ทำให้คนไทยเกิดโรค NCDs มากขึ้น แต่ว่าปัจจุบันมีการพัฒนาเร็วมาก รวมถึงมีกิจกรรมต่างๆ อย่างวิ่งมาราธอน ซึ่งทำให้คนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น แพทย์จ่ายยาน้อยลง รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพก็มีมากขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นที่หันมาสนใจอาหารวีแกน จึงคิดว่าปัจจุบันน่าจะมีคนเลือกทางเดินสายสุขภาพมากขึ้นถึง 50%
          เลือกอาหารที่ดีในแบบมนุษย์ออฟฟิศ
          มนุษย์ออฟฟิศมักคู่กับร้านสะดวกซื้อ เมื่อเข้าไปแล้วให้มองไปที่สินค้าที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม ผักสลัด โยเกิร์ต น้ำผึ้ง คือเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ตื่นมาดื่มน้ำก่อนเลย เพราะมนุษย์ออฟฟิศท้องผูกเยอะมาก ทานอาหารเร็ว ยิ่งพวกฟาสต์ฟู้ดยิ่งทำให้ท้องผูก สิ่งสำคัญคือต้องหันกลับมาดูตัวเองก่อน เปิดใจว่าอยากรักษาสุขภาพให้ได้แล้วต้องลงมือทำด้วย
          "คนเราเป็นประเภท ตายไม่ได้ ทรมานไม่เป็น จึงเลือกหนทางที่รวดเร็วกว่า อย่างเป็นไข้ธรรมดา โดยปกติ 7 วันก็หาย แต่ไม่มีใครรอถึง 7 วันหรอก ทานยาพาราเม็ดเดียวเดี๋ยวก็หาย"
          "คนไทยเสียชีวิตจากโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำ เนินชีวิต เช่น 73%โรคมะเร็ง เบาหวาน หลอดเลือดหัวใจ มากถึง"

 pageview  1210938    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved