HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 17/03/2564 ]
ฆ่าเชื้อตลาดบางแค ประกาศปิดค้าขาย3วัน คิวเช็กโควิคยาวเหยียด บิ๊กตู่ ฉีดวัคซีนแล้ว

 ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อ ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 149 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 27,154 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต สะสม 87 คน ผอ.เขตบางแคเผย ปิด "ตลาดบางแค" 3 วัน ล้างฆ่าเชื้อป้องกันการแพร่ระบาด "โควิด-19" พร้อมประเมินผลตรวจเชิงรุก หากผู้ติดเชื้อเพิ่มจะพิจารณาขยายเวลาปิดตลาดออกไป ด้านนายกรัฐมนตรี "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้วชมหมอยงลงเข็มอย่างเบา ใช้เวลาประมาณ 5 นาที คาด อย.รับรองวัคซีนโควิดแอสตร้าฯ ลอตแรกของไทยกลางพ.ค. สปุตนิก วี จ่อขึ้นทะเบียนอีกตัว
          พบติดเชื้อพุ่ง149ราย
          ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์ แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 149 ราย ติดเชื้อในประเทศ 144 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 21 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน  123 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 27,154 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 87 คน ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 26,299 ราย และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 768 ราย
          เฉพาะระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 ถึง 16 มี.ค. 64 พบผู้ป่วยรายใหม่ 149 ราย ติดเชื้อในประเทศ 144 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 21 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 123 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยสะสม 22,917 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วย รายใหม่ 6,608 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 15,147 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,162 ราย ไม่พบเสียชีวิต ยอดสะสม 26 ราย
          สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อร่วม 120,767,458 รายอาการรุนแรง 88,077 ราย รักษาหายแล้ว 97,414,274 ราย เสียชีวิต 2,672,010 ราย 5 อันดับประเทศที่มีผู้ติด เชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 30.138,586 ราย 2. บราซิล จำนวน 11,525,477 ราย 3. อินเดีย จำนวน  11,409,595 59ร ราย ราย 4.รัสเซีย จำนวน 4.4,400,045 ราย5. สหราชอาณาจักร จำนวน 4,263,527 ราย ขณะที่ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 115 จำนวน 27,154 ราย
          นายกฯฉีดแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้ารับการฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” ป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงพิธีในเวลา 08.33 น. พร้อมระบุว่า วันนี้มีความคืบหน้า ไม่มีผลกระทบอะไร ถือเป็นการฉีดครั้งแรก เข็มแรก วันนี้ไม่ใช่เฉพาะนายกฯ แต่มี ครม. ข้าราชการต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นกังวลที่สุดคือคือประชาชนทุกคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะได้รับวัคซีนได้เร็วที่สุด ซึ่งเรามีการเตรียมการ และจัดหาวัคซีนอย่างเร็วที่สุด
          พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า นายกฯคงไม่ใช่คนสำคัญคนเดียว ทุกคนมีความสำคัญกับครอบครัวตัวเอง และประชาชนทั่วไปเท่ากันหมด วันนี้ได้คุยกับรองนายกฯ กับผู้ช่วยรัฐมนตรีไปแล้ว เรื่องมาตรการฉีดวัคซีนให้สอดคล้องกับปริมาณวัคซีนที่ได้รับมา อย่าไปวิตกังวลอะไรทั้งสิ้น เชื่อฟังแพทย์ ตนพร้อมฉีดตลอดเวลาที่ผ่านมา
          จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ทำการชั่งน้ำหนักได้ 83.1 กก. ความดัน 157/ 88 อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีประเด็นความเสี่ยงใดในการเลื่อนฉีควัคซีน ก่อนจะเซ็นเอกสารยินยอมสมัครใจรับการฉีดวัคซีน ต่อมา นายกฯทำการเลือกขวดวัคซีน ก่อนจะชูขวด พร้อมกล่าวว่า ขวดนี้ของแท้ อย่าไปเขียนอะไรเลอะเทอะ ขอให้เขียนดีๆ
          จากนั้น นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรกให้นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังได้รับวัคซีนว่า ฉีดแล้วเหรอ มือเบามาก ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร พร้อมฉีดตลอดเวลา วันนี้ยินดี ขอบคุณคณะหมอ คณะแพทย์ทั้งหมดที่ช่วยกันทำงาน ทั้งนี้ ฉีดมา 5 นาทีแล้ว ยังไม่รู้สึกอะไรเลย สำหรับวัคซีนเข็มที่ 2 ของ พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดฉีดวันที่ 25 พฤษภาคม 2564
          ตลาดบางแคปิด3วันฆ่าเชื้อ
          รุจิรา อารินทร์ ผู้อำนวยการเขตบางแค เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ สำนักงานเขตบางแคจึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับผู้ค้าดำเนินการ Big Cleaning ทำความสะอาดตลาด บริเวณย่านตลาดสดบางแค ถนนเพชรเกษม เขตบางแค ทั้ง 6 ตลาด ได้แก่ ตลาดศูนย์การค้าบางแค ตลาดกิตติ ตลาดวันเดอร์ ตลาดสิริเศรษฐนนท์ ตลาดใหม่บางแค ตลาดภาสม รวมทั้งแผงค้าริมบาทวิถีบริเวณหน้าตลาดบางแค โดยมีคณะผู้บริหารเขตลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้คำแนะนำ
          รุจิรา กล่าวด้วยว่า สำนักงานเขตบางแคได้เตรียมรถน้ำ จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ฝ่ายเทศกิจ และเจ้าหน้าที่เขตบางแคที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับผู้ประกอบการ เจ้าของแผง และผู้ค้าแผงลอยหน้าตลาดบางแค ดำเนินการทำความสะอาดตลาดบางแคตามหลักสุขาภิบาล โดยในช่วงเช้า จะทำความสะอาด (แบบแห้ง) ตั้งแต่การปัดกวาดเช็ดถู ล้างทำความสะอาดแผงค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ปัดหยากไย่เพดาน สะสางขยะ ของเหลือใช้ ปรับปรุงพื้นที่ตลาดให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมตักขยะ ขุดลอกท่อ และฉีดไล่น้ำในท่อระบายน้ำในพื้นที่ตลาด และในช่วงบ่ายเป็นการฉีดล้าง ขัด และฆ่าเชื้อ ด้วยน้ำประปา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการประปานครหลวง และฉีดล้างน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิวสัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อโรคและบริเวณโดยรอบ
          ทั้งนี้ ได้กำหนดให้ปิดตลาดทั้ง 6 แห่ง เป็นเวลา 3 วัน (16-18 มี.ค.64) จากนั้นจะประเมินผลจากการตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยง หากพบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะพิจารณาขยายเวลาปิดตลาดออกไป
          ปชช.แห่ตรวจโควิดคิวยาวถึง18มี.ค.
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนหย่อมบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ สาขาบางแค ซึ่งเป็นจุดคัดกรองเชิงรุก โควิด-19 โดยมีรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยและรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข และกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไปที่ตลาด 6 แห่ง ส่วนบรรยากาศที่บริเวณด้านหน้าตลาดบางแค ยังคงปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาด ส่งผลให้การจราจรในถนนเพชรเกษมด้านหน้าตลาดคล่องตัวทั้งในฝั่งขาเข้าและออก
          ส่วนตลาด 6 แห่งนั้นได้แก่ ตลาดวันเดอร์ ตลาดสดบางแค ตลาดกิตติ ตลาดศิริเศรษฐนนท์ (แสงฟ้าเก่า) ตลาดภาสม ตลาดใหม่บางแค ตลาดศูนย์การค้าบางแค และผู้ที่ค้าขายอยู่ในตลาดในพื้นที่เขตบางแค เพื่อตรวจหาเชื้อ โควิด-19 โดยมีประชาชนได้เริ่มทะยอยกันเดินทางเข้ามาทำการตรวจวันละประมาณ 1,000 คน
          เรืองรัศมิ์ ระณีโย เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ทางหน่วยได้เปิดให้บริการประชาชนกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่เวลา 07.30 น. ถึง 16.00 น. ตั้งแต่วันที่ 15-26 มี.ค. (หยุดวันอาทิตย์ที่ 21 มี.ค.) โดยจะต้องนำบัตรประชาชนมาแจ้งลงทะเบียนเพื่อจองคิว ซึ่งในแต่ละวันสามารถทำการตรวจได้วันละประมาณ 1,000 คน ขณะนี้คิวตรวจล่วงหน้าไปถึงวันที่ 18 มี.ค. แล้ว
          กทม.ตั้งจุดฉีดวัคซีนตลาดบางแค
          พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. พร้อมผู้เกี่ยวข้อง แถลงผลการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ที่ประชุมพิจารณาขยายกลุ่มการให้วัคซีนโควิด-19 กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพิ่ม 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ในพื้นที่ 6 เขตติด จ.สมุทรสาคร ขยายกลุ่มเสี่ยงนอกจาก บุคลาการทางการแพทย์ และบุคลากรเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ขยายให้กับประชาชนทั่วไปที่เป็นกลุ่มเสี่ยง สามารถติดต่อโรงพยาบาลในพื้นที่ 6 เขต และศูนย์สาธารณสุขกรุงเทพมหานครในพื้นที่ เพื่อลงทะเบียนรับวัคซีนได้ หรือลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม”
          2. อนุมัติการใช้วัคซีนฉุกเฉิน ในกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อ กรณีการระบาดของตลาดเขตบางแค สามารถรับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลใกล้ๆ และเต็นท์จุดบริการฉีดวัคซีนที่ตลาดบางแค และ 3.อนุมัติการใช้วัคซีนในบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่นอก 6 เขตติดสมุทรสาคร
          ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (17มี.ค.) สำนักการแพทย์และสำนักอนามัย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จะไปตั้งเต็นท์ให้บริการวัคซีนโควิด-19 ที่ตลาดบางแค ตามขั้นตอนการให้บริการฉีดวัคซีน โดยจะเริ่มให้วัคซีนในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
          เบื้องต้นตั้งเป้าฉีดวันแรก 500-600 คน และอาจเพิ่มขึ้นในวันต่อไป จะดำเนินการฉีดจนกว่าจะหมดกลุ่มเสี่ยง โดยเตรียมวัคซีนไว้สำหรับกรณีบางแค ได้จำนวน 6,000 ราย สำหรับผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน จะผ่านการคัดกรองเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยจะฉีดให้ทั้งกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำ จนครบทั้งหมด
          นายสมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การควบคุมการระบาดของตลาดบางแค ต้องสร้างให้คนในพื้นที่มีภูมิขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะต้องฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ทั้งเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ เพื่อควบคุมการระบาดของตลาดบางแคให้ได้เร็วที่สุด โดยจะคัดกรองผู้รับวัคซีนก่อนเข้ารับการฉีด ผู้เข้ารับวัคซีนจะต้องไม่เข้าเกณฑ์คัดออก เช่น มีอาการไข้ ไอ เป็นต้น
          ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. กล่าวถึงการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพฯ ว่า ดำเนินการตรวจอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาตรวจไปแล้ว 70,000 ราย ในกรณีตลาดบางแค ได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยให้กทม. นำมาบริการตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เสี่ยง 6 ตลาด ย่านบางแค ดำเนินการตรวจวันละ 1,000 ราย 10 วัน จะตรวจได้จำนวน 10,000 ราย
          กฟผ.พบลูกจ้างเหมาบริการติดเชื้อ
          สุทธิชัย จูประเสริฐพร รองผู้ว่าการบริหาร ในฐานะประธานศูนย์จัดการภาวะวิกฤต โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. พบลูกจ้างเหมาบริษัทปฏิบัติงานธุรการ ซึ่งทำงานในพื้นที่ อาคาร ท.100 สำนักงานกลาง กฟผ. จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1 ราย จากการตรวจคัดกรองก่อนผ่าตัด
          ทั้งนี้ จากการซักถามข้อมูลและประวัติการเดินทางเบื้องต้น พบว่า ผู้ป่วยไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงภายใน 14 วันที่ผ่านมา แต่มีที่พักอาศัยใกล้ที่พักคนงานต่างชาติ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ โดยล่าสุดได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
          กฟผ. ได้เร่งดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และมาตรการควบคุมโรคของ กฟผ. อย่างเคร่งครัด โดยสั่งปิดอาคาร ท.100 ซึ่งเป็นอาคารที่ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ทำงาน เป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 16 - 18 มีนาคม 2564 เพื่อทำความสะอาดฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในอาคารและพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร เช่น ราวจับประตู ลิฟต์ โถงทางเดิน ห้องน้ำ ที่แตะบัตรเข้าออกอาคาร เป็นต้น รวมถึงจะทำการฉีดพ่นน้ำยา ฆ่าเชื้อทำความสะอาดพื้นที่ตลาดหลังสวน กฟผ. อีกด้วย
          สำหรับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงซึ่งทำงานใกล้ชิดผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจค้นหาเชิงรุกโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และส่งเข้ากักตัวยังสถานที่ที่รัฐกำหนดเป็นเวลา 14 วัน ส่วนกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำที่ทำงานในอาคารเดียวกันให้กักตัวเองปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย 14 วัน ตลอดจนกลุ่มผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงหรือพนักงานที่ทำงานในอาคารอื่น ๆ ให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ เพื่อเฝ้าดูอาการ ตลอดจนเป็นการควบคุมและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
          ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 รวมถึงเพิ่มจุดตรวจคัดกรอง เพื่อวัดอุณหภูมิพนักงานและผู้มาติดต่องาน และ มีนโยบายปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย (Work from Home) และปฏิบัติงานนอกสถานที่ (Work from Anywhere) มาโดยตลอด
          นอกจากนั้นสำหรับผู้ปฏิบัติงานกะในโรงไฟฟ้ายังมีการกักบริเวณอย่างเคร่งครัด สำหรับกรณีพบผู้ติดเชื้อดังกล่าว กฟผ. จะติดตามไทม์ไลน์ เพื่อการควบคุมโรคและดูแลอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดต่อไป
          รายงานแผนฉีดวัคซืนนศ.ไทยในจีน
          รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานในที่ประชุมครม.โดยระบุถึงความคืบหน้าและแผนการฉีดวัคซีนให้นักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ประเทศจีน ประมาณ 1,000 คน ที่ผ่านมารัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ได้ประสานงานอย่างต่อเนื่อง
          แต่ด้วยสภาพอากาศหนาว และทางมหาวิทยาลัยก็ยังกังวลเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ การเปิดให้นักศึกษาต่างชาติเข้าเรียน จึงยังไม่เกิดขึ้น โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กับกำชับให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขประสานงานและเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนให้กับนักศึกษาเหล่านี้
          ส่ออดสาดน้ำสงกรานต์
          อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็ก เมื่อวันที่ 17 มีนาคม จะมีการเสนอกรอบการผ่อนปรนให้จัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งวันนี้กระทรวง วธ.จะมีการประชุมคณะกรรมการบูรณาการที่เกี่ยวข้องกับประเพณีสงกรานต์ ซึ่งจะมีแนวปฏิบัติที่ได้หารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว
          โดยจะอนุญาตให้มีการจัดสงกรานต์ได้ตามประเพณี เน้นแก่นแท้ของประเพณี เช่น การตักบาตร สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ส่วนกิจกรรมที่เป็นการละเล่นโดยเฉพาะการสาดน้ำและการประแป้งจะให้งดเว้นไปก่อน เนื่องจากยังมีความกังวลจากหลายส่วน รวมถึงกรณีเกิดคลัสเตอร์ใหม่ด้วย ทำให้กังวลว่าหากมีการสาดน้ำจะเกิดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ โดยจะเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา 19 มีนาคมนี้
          อิทธิพลกล่าวว่า กรณีที่เป็นสถานที่เอกชนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด-19 กรณีถนนข้าวสารสามารถปิดถนนได้ แต่ต้องงดสาดน้ำ ส่วนสรงน้ำพระ ขบวนแห่ต่างๆ ขอให้ดูตามความเหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบประเพณีของแต่ละจังหวัด ที่ต้องดูจำนวนคนในขบวนแห่ต่างๆ ด้วย
          ส่วนเรื่องปาร์ตี้โฟมหรือกิจกรรมในสถานบันเทิงก็ต้องงดการสาดน้ำ งดการเล่นน้ำด้วย ปีนี้ยังต้องขอให้เว้นไปก่อน เนื่องจากว่าวิเคราะห์แล้วมีความเสี่ยงเรื่องของการมีของเหลวเข้าสู่ร่างกาย เช่นเดียวกับงานวันไหล จ.ชลบุรี ที่มีการละเล่นพื้นบ้านและมีการสาดน้ำ ชัดเจนว่าต้องงดการสาดน้ำ งดการประแป้ง งดปืนฉีดน้ำเช่นกัน


pageview  1210900    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved