ผลโพลชี้กลุ่มตัวอย่างกว่า 90% หนุนเปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจ สธ.เผยแคมป์คนงานก่อสร้างสมุทรปราการคลัสเตอร์ใหม่ติดเชื้อโควิด-19 พบป่วยแล้ว 17 ราย
          เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ผ่านเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 90 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 45 ราย ผู้ป่วยจากการคัดกรองเชิงรุก 36 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค 9 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 27,803 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 90 ราย
          สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 90 ราย แบ่งเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 45 ราย พบในกรุงเทพมหานคร 16 ราย สมุทรสาคร 15 ราย เพชรบุรี 6 ราย ปทุมธานี 4 ราย นครปฐม 2 ราย ราชบุรี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ส่วนการคัดกรองเชิงรุก 36 ราย พบใน ปทุมธานี 9 ราย สมุทรปราการ 1 ราย สมุทรสาคร 26 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย
          ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรวม 123,430,452 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 506,901 ราย อาการรุนแรง 89,295 ราย รักษาหายแล้ว 99,415,796 ราย เสียชีวิต 2,722,032 ราย
          ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ว่า การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) จ.สมุทรปราการในแคมป์คนงาน ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 17 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นเพศหญิง อายุ 29 ปี สัญชาติกัมพูชา เป็นคนงานก่อสร้างในแคมป์ ซึ่งไปตรวจหาเชื้อเพื่อต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ผลยืนยันติดเชื้อโดยไม่มีอาการ จากการสอบสวนโรค จึงไปตรวจหาเชื้อในแคมป์คนงานที่สุขุมวิท 117 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ตรวจไป 600 ราย พบผู้ติดเชื้อ 15 ราย เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ตรวจหาเชื้อ 8 ราย พบติดเชื้อ 1 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 4 ราย ชาวกัมพูชา 10 ราย เมียนมา 2 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ซึ่งเป็นข้อสังเกตในการระบาดรอบใหม่ ดังนั้น การค้นหาผู้ติดเชื้อต้องอาศัยการสอบประวัติและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) เป็นหลัก
          นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 627 ราย แบ่งเป็นกลุ่มที่แคมป์คนงานสุขุมวิท 117 จำนวน 584 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ หอพักบางแค 14 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อเช่นกัน และกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นวิศวกร 29 ราย ผลตรวจ 23 ราย ไม่พบเชื้อ ยังอยู่ระหว่างรอผล 6 ราย นอกจากนี้ ยังขยายผลการตรวจสอบไปที่แคมป์คนงานก่อสร้างที่สุขุมวิท 107 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบผู้เสี่ยงสูงอีก 593 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
          นพ.โอภาสกล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่พบคือ แคมป์คนงานส่วนใหญ่มีความแออัด ใช้สิ่งของ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำรวมกัน มีพนักงานบางคนฝ่าฝืนมาตรการบริษัทด้วยการสังสรรค์ในพื้นที่เสี่ยง เมื่อติดเชื้อที่ไม่มีอาการและกลับมาที่แคมป์ก็ทำให้ติดเชื้อต่อกันไป หลังจากนี้ทีมสอบสวนโรคจะลงพื้นที่ติดตามในแคมป์คนงานอื่นเพิ่มเติม เพื่อหาปัจจัยเสี่ยงนำสู่การปรับปรุงแก้ไขและเพื่อการเฝ้าระวังเชิงรุกให้มากขึ้นต่อไป แต่ภาพรวมของ จ.สมุทรปราการ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้รวดเร็ว
          "ความระมัดระวัง ความร่วมมือของคนในองค์กรมีความสำคัญมาก หากมีความหละหลวมก็จะมีความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะระยะนี้เป็นการติดเชื้อไม่มีอาการ ดังนั้น หากไม่มีอาการก็ต้องไม่ประมาท สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ จัดสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก" นพ.โอภาสกล่าว
          นพ.โอภาสกล่าวถึงการค้นหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ตลาดบางแค กทม.ว่า ทำการตรวจไป 4,315 ราย มีผู้ติดเชื้อ 309 ราย คิดเป็นร้อยละ 8.32 หน่วยบริการตรวจรถพระราชทาน 6,293 ราย ติดเชื้อ 26 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.6 รอผลอีก 2,108 ราย และการค้นหาเชิงรุกในชุมชนใกล้เคียง 4,886 ราย ติดเชื้อ 49 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.08 รอผล 386 ราย โดยผู้ติดเชื้อก็จะเข้าสู่ระบบการรักษาในสถานพยาบาล ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็จะได้รับการกักกันโรคและตรวจหาเชื้อต่อไป
          ผู้สื่อข่าวถามว่า คลัสเตอร์แคมป์คนงานพบว่ามีกลุ่มเสี่ยงสูงที่หอพักบางแคด้วย ดังนั้น คลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างมีความเชื่อมโยงกับการระบาดที่บางแคหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสายพันธุ์ว่ามีการติดเชื้อเชื่อมโยงกันหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันเชื้อที่พบในประเทศไทยก็มีความหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ที่พบก็เป็นสายพันธุ์ที่มาจากเมียนมาที่รับมาจากอินเดียอีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คลัสเตอร์นี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
          นพ.โอภาสกล่าวถึงจำนวนผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ว่า ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์- วันที่ 20 มีนาคม สะสม 69,927 ราย แบ่งเป็น บุคลากรสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 32,207 ราย เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ 7,763 ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 5,122 ราย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 1,514 ราย และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอีก 23,321 ราย และในจำนวนนี้ ยังไม่มีผู้ที่แพ้วัคซีนรุนแรงถึงขั้นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวน อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวยังไม่รวมผู้ที่ได้รับวัคซีนจากหน่วยบริการเคลื่อนที่จากสถานพยาบาลของ กทม. ในพื้นที่ชุมชน ตลาดบางแค ฉะนั้นยอดรวมจริงๆ จะมากกว่า 70,000 ราย
          ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยแพร่ผลสำรวจเรื่อง เปิดประเทศ พ้นวิกฤต โดยพบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 95.3 เชื่อว่าเปิดประเทศ พ้นวิกฤต เพราะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว และห่วงโซ่ธุรกิจอื่นๆ ช่วยเพิ่มเงินให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ ร้อยละ 91.5 ระบุ ประเทศไทยเปิดประเทศได้ เพราะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว แต่ต้องไม่ประมาท การ์ดไม่ตก ขณะที่ร้อยละ 88.5 มั่นใจว่าเปิดประเทศแล้วรัฐบาลและประชาชนช่วยกันทำเศรษฐกิจฐานราก เดินหน้าต่อได้ดีขึ้น ที่น่าพิจารณาคือ ร้อยละ 90.4 มีความสุข มีความหวัง ที่รัฐบาลจะเปิดประเทศช่วงโควิด-19 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
          ร้อยละ 93.1 ต้องการเห็นรัฐบาลต่างชาติหนุนประเทศไทยเปิดประเทศช่วงโควิด กระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 89.6 เห็นว่ารัฐบาลต่างชาติควรหนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเดินทางทั่วโลกอย่างปลอดภัย ปลอดโควิด-19
          น.ส.วีราพร วิจิตร์แสงศรี หรือ น้ำหวาน บุตรสาวของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 จนหายเป็นปกติแล้ว ได้โพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ตั้งใจให้โพสต์นี้เป็นโพสต์สุดท้าย เกี่ยวกับการรักษาตัวของคุณพ่อและคุณแม่ จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อขอบคุณทุก ขอขอบคุณญาติๆ ทั้งฝั่งอ่างทองและนครนายกที่เข้าใจข้อจำกัดว่าไม่สามารถเดินทางมาเยี่ยมพ่อกับแม่ได้ และสนับสนุนอย่างเต็มกำลังในทุกทาง ขอบคุณสื่อมวลชนที่ส่งกำลังใจและนำเสนอข่าวด้วยความเข้าใจในข้อจำกัดของครอบครัว รวมถึงคณะแพทย์ ซึ่งไม่เพียงแต่ดูแลเรื่องการรักษาเท่านั้น ยังดูแลผู้ป่วยอื่นๆ บางครั้งเมื่อมีเคสผู้ป่วยโควิดอาการหนักของสมุทรสาคร ก็ยังได้มาประสานกับคุณแม่เพื่อเยียวยาช่วยเหลือร่วมกันในด้านต่างๆ ด้วย
          สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาให้ ทั้งทาง line คอมเมนต์ จดหมาย โปสการ์ด สมุดเยี่ยม หรือช่องทางอื่นๆ ในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งที่รู้จักกันและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขอส่งความปรารถนาดีกลับไปยังทุกท่านเช่นกัน
          รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ทางการอังกฤษเปิดเผยตัวเลขผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกไปแล้วมากถึง 26.85 ล้านคน มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรวัยผู้ใหญ่ของอังกฤษได้รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศก็ยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 5,587 ราย สูงขึ้นจากช่วงหนึ่งวันก่อนหน้าซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 4,802 รายเท่านั้น แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นแนวโน้มลดลง โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเพียง 96 รายเทียบกับ 1 วันก่อนหน้าที่มีผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 ถึง 101 ราย
          สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับในฝรั่งเศส ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสูงถึง 35,327 ราย ทำให้ยอดสะสมเป็น 4.25 ล้านรายแล้ว และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 185 ราย ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 92,167 ราย แต่แนวโน้มที่น่าวิตกก็คือ ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูเพิ่มขึ้นอีก 66 คน ในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ป่วยในไอซียูเพิ่มเป็น 4,353 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในช่วง 2 เดือนเศษของปีนี้