เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในภาพรวมของประเทศไทย พบว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น อย่างไรก็ตาม PM 2.5 ยังมี แนวโน้มสูงขึ้นในบางพื้นที่ และอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สาเหตุหลักจากการจราจร การเผาในที่โล่ง ประกอบกับสภาพความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอ่อนกำลังลง โดยค่าฝุ่นอยู่ระหว่าง 27-118 มคก./ลบ.ม. ส่วนใหญ่พบเกินเกณฑ์มาตรฐานบริเวณริมถนนที่สภาพการจราจรหนาแน่น ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, ริมถนนมาเจริญ เขตหนองแขม, ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา, ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่, ริมถนนพุทธมณฑลสาย 1 เขตตลิ่งชัน, ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน รวมทั้ง 4 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร ทั้งนี้ขอความร่วมมือไม่เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในที่โล่งช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค.นี้ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
          นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ มีสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานหลายพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงออกมาตรการป้องกันโดยให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัย และถ้าโรงเรียนพบค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน โรงเรียนมีอำนาจสั่งหยุดเรียนหรือปรับกิจกรรมตามความ เหมาะสมได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนไหนประกาศหยุดเรียนเพราะค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน