HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 05/02/2564 ]
ฉีดวัคซีน-ต่อเดือน 5ล้านโดส อนุทินย้ำเริ่มมิย.

ต้ข่าวจัดหาซื้อล่าช้า! 'มะตูม'รับผิด-ขอโทษ ปาร์ตี้วันเกิดติดโควิด ไทยป่วยเพิ่มอีก 809
          'อนุทิน'ยาไทยฉีดวัคซีนเดือนมิ.ย. หลังแอสตราเซเนกามีปัญหาเรื่องจัดส่ง โต้ปมจัดหาล่าช้า ระบุคนไทยทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีน ด้านผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติเผยเป้าฉีดให้คนไทยเดือนละ 5 ล้านโดส 'ดีเจมะตูม'ไลฟ์สดผ่านไอจีส่วนตัวแจงจัดงานปาร์ตี้วันเกิดที่โรงแรมดังกลางกรุง ยอมรับผิดและขอโทษสังคมที่ทำให้ปั่นป่วนวุ่นวาย มีดื่มแอลกอฮอล์ในห้องจริง ยันไม่รู้จัก'โอ๊ต'นักร้องดังที่ระบุติดเชื้อมาจากในงานวันเกิดของตนเอง ตร.เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด ศบค.เผยไทยติดเชื้อเพิ่ม 809 ราย สมุทรสาครหนักสุด เจออีก 786 คน ส่วนกทม.พบเพิ่ม 3 เตรียมปรับแผนคัดกรองเชิงรุก ลดค่าใช้จ่าย
          ไทยติดเชื้ออีก 809
          เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 809 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 796 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น 1.มาจากระบบเฝ้าระวังและการสอบสวนโรค 45 ราย ได้แก่ กทม. 3 ราย ตาก 5 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย และสมุทรสาคร 36 ราย 2.การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 751 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 750 ราย แบ่งเป็นคนไทย 201 ราย แรงงานเมียนมา 549 ราย และราชบุรีอีก 1 ราย และ 3.เดินทางมาจากต่างประเทศ 13 ราย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 2 ราย อิสราเอล มาเลเซีย ปากีสถาน สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัสเซีย เอธิโอเปีย เยอรมนี เบลเยียม สเปน และฝรั่งเศส ประเทศละ 1 ราย
          สำหรับสัดส่วนการติดเชื้อรายใหม่วันนี้มาจาก จ.สมุทรสาคร 98.62% เจอผู้ติดเชื้อ 786 ราย ตัวเลขสะสม 13,532 ราย มาจากกทม. เพิ่มขึ้น 3 ราย ตัวเลขสะสม 802 ราย และมาจากจังหวัดอื่นๆ เพิ่มขึ้น 7 ราย ตัวเลขสะสมจังหวัดต่างๆ 2,756 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 22,058 ราย หายป่วยสะสม 14,798 ราย อยู่ระหว่างรักษา 7,181 ราย จำนวนนี้อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 8 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 79 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 104,901,741 ราย และเสียชีวิตสะสม 2,278,440 ราย
          "ทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเป็น 0 ทั้งหมด ส่วนตากเพิ่ม 5 ราย โดยจะประกาศบางพื้นที่เพื่อควบคุมเข้มข้นขึ้น สำหรับกทม.มีการทำงานเชิงรุกค้นหาผู้ป่วยติดขอบสมุทรสาคร เขตที่มีอัตราติดเชื้อสูงสุดคือ บางขุนเทียน 81.7 ต่อแสนประชากร ภาษีเจริญ 38.9 ต่อแสนประชากร บางพลัด 29.6 ต่อแสนประชากร บางรัก 29 ต่อแสนประชากร และธนบุรี 24.3 ต่อแสนประชากร ส่วนมีผู้ติดเชื้อสุงสุด 5 อันดับ คือ บางขุนเทียน 151 ราย ภาษีเจริญ 49 ราย จอมทอง 33 ราย บางแค 30 ราย และบางพลัด 27 ราย" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
          เล็งปรับระบบค้นหาเชิงรุก
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ส่วนที่จ.สมุทร สาคร การค้นหาเชิงรุกยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เราจะค้นหาต่อไปเป็นสัปดาห์ แต่ถ้าเราค้นหาวันละหมื่นราย จะใช้งบประมาณวันละ 20 ล้านบาท ถือว่าไม่น้อย จึงต้องดูว่าจะทำให้ทุกอย่างสมดุลกันอย่างไร ในที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก จึงพูดคุยกันว่าถ้าไม่ค้นหาเชิงรุก มีช่วงเว้นว่าง เราต้องหาคำตอบมาบอกกับประชาชนว่า ตัวเลขจะทรงตัวหรือลดลง ทีมสมุทรสาครกับกรมควบคุมโรคพยายามนำหลักวิชาการมาศึกษา โดยทั่วไปถ้ามีคนหนึ่งแสน ไม่ใช่ต้องค้นหาทั้งหนึ่งแสน เพราะค่าใช้จ่ายจะมาก เราจะใช้ระบบควบคุมโรคจากนั้นไปสุ่มหา เพราะเรารู้ระยะเวลาฟักตัวของโรคที่มี 14 วัน
          "นอกจากนี้ มีชุดข้อมูลของกทม.ที่ค้นหาเชิงรุกในเขตที่มีพื้นที่ติดกับจ.สมุทรสาคร พบว่าเขตที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บางขุนเทียน ภาษีเจริญ บางพลัด บางรัก และธนบุรี สำหรับการค้นหาเชิงรุกในโรงงานที่อยู่ในเขตติดต่อกับ จ.สมุทรสาคร จะใช้วิธีใกล้เคียงกับการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่จ.สมุทรสาคร อาทิ เขตภาษีเจริญ มีโรงงาน 11 แห่ง แรงงาน 5,635 ราย สุ่มตรวจในโรงงานและชุมชนรอบๆ 1,721 ราย พบผู้ติดเชื้อ 26 ราย หรือที่เขตบางขุนเทียน มีโรงงาน 25 แห่ง แรงงาน 11,228 ราย สุ่มตรวจโรงงานและชุมชนรอบๆ 6,772 ราย พบผู้ติดเชื้อ 12 ราย บางบอน มี 24 โรงงาน จำนวน 3,770 ราย ตรวจ 4,571 ราย เจอเชื้อ 8 ราย หนองแขม บางแค จอมทอง เข้าไปตรวจยังไม่เจอ สรุป 84 โรงงาน 32,542 ราย ตรวจแล้ว 7,485 ราย เจอ 46 ราย"
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนออนไลน์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 โดยเก็บข้อมูลจาก 77 จังหวัด จำนวน 72,626 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 27-29 ม.ค. พบว่าส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือและโน้ตบุ๊กในการเรียนการสอน โดยรูปแบบการเรียนการสอนของสถานศึกษานั้น พบว่าสอนออนไลน์ 48.44% สอนทั้งออนไลน์และห้องเรียน 29.74% สอนในห้องเรียนทั้งหมด 20.84% และอื่นๆ 0.98% ดังนั้น ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กเห็นว่าถึงเวลาที่เราต้องปรับการเรียนการสอนมาทางด้านนี้ ไม่ใช่ปิดการเรียนการสอนทั้งหมด แต่ต้องปิดๆ เปิดๆ ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ และการเว้นระยะห่างดีที่สุด
          กทม.ติดเชื้ออีก 3-ยอดพุ่ง 802
          ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย ทั้งหมดเป็นการติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ทั้งหมด
          สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ ประกอบด้วย เพศชาย 2 ราย อายุ 75 และ 95 ปี และเพศหญิง 1 ราย อายุ 23 ปี สัญชาติไทย 2 ราย และเมียนมา 1 ราย แสดงอาการ 2 ราย และไม่แสดงอาการ 1 ราย ทุกคนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม. ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมระหว่าง 18 ธ.ค.2563-4 ก.พ.2564 รวม 802 ราย เป็นอันดับ 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด รองจากจ.สมุทรสาคร
          'ดีเจมะตูม'ไลฟ์สดแจงปาร์ตี้
          ส่วนกรณีนายเตชินท์ พลอยเพชร หรือ ดีเจมะตูม โพสต์คลิปผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว แจ้งเรื่องที่ตนติดโควิด-19 เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น
          วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. "ดีเจมะตูม" ไลฟ์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวอัพเดตอาการป่วย พร้อมชี้แจงปมดราม่าต่างๆ ว่า หลังเข้ารับการรักษาตัวมา 15 วัน เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ครบ 14 วันก็ได้ตรวจเลือดล่าสุดแล้ว ผลคือยังพบเชื้อโควิดอยู่ ส่วนอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ไม่มี ผลเอกซเรย์ปกติ คาดว่าน่าจะเป็นซากเชื้อที่เหลืออยู่ ทำให้ผลยังเป็นบวก จริงๆ ตนสามารถออกไปกักตัวเองที่บ้านได้แล้ว แต่เลือกอยู่ โรงพยาบาลต่อเพื่อรอตรวจอย่างละเอียด
          ดีเจมะตูมแจงดราม่าข่าวโจมตีต่างๆ ว่า "เมื่อวันที่ 9 ม.ค.64 เป็นวันเกิด ทุกปีจะจัดงาน แต่ปีนี้ไม่สามารถจัดงานได้เพราะด้วยสถานการณ์ โควิด เลยตัดสินใจว่าจะไปรับประทานอาหารกับคุณแม่และเพื่อนสนิทเล็กๆ ซึ่งเลือกร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมบันยันทรี สาธร เบื้องต้นจองไว้ประมาณ 8 ที่ มีแค่เพื่อนสนิทจริงๆ ยืนยันไม่มีดาราและคนในวงการ ส่วนเรื่องการจองห้องในโรงแรม ตูมเข้ามาดูห้องแล้วถามเพื่อนว่าใครจะเอาห้องบ้าง เพราะตั้งใจว่าจะเข้ามาเช็กอินก่อนล่วงหน้าเพื่อที่จะได้แต่งตัวสวยๆ ก่อนขึ้นไปข้างบน รวมถึงเอาไว้สำหรับพักต่อหลังจบงาน จึงเปิดห้องสวีต ซึ่งมีห้องรับแขกและห้องนอนแยก 3 ห้อง นอนได้ 6 คน พอถึงหนึ่งทุ่ม แขกเริ่มมาจึงขึ้นไปข้างบน จากที่จองโต๊ะไว้ 8 ที่ มีคนเพิ่มมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นโต๊ะยาวทั้งหมด 14 ที่
          ขอโทษดื่มแอลกอฮอล์ในห้อง
          "ส่วนอาหารที่โรงแรมเสิร์ฟเป็นคอร์ส แยกภาชนะ พนักงานใส่แมสก์และถุงมือ ไม่มีมาตรการหละหลวมใดๆ และยืนยันไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอล์แน่นอน ส่วนที่เห็นเป็นแก้วคือแก้วม็อกเทลเป็นน้ำส้ม กระทั่งเวลา 3 ทุ่มตรง พนักงานเก็บโต๊ะและได้ให้คนทยอยลง จากนั้นได้ลงลิฟต์มาที่ล็อบบี้ก่อนเพื่อเจอน้องๆ ที่เอาดอกไม้มาให้ประมาณ 4-5 คน เพื่อนบางส่วนกลับบ้าน บางส่วนที่จองห้องไว้ก็ขึ้นไปก่อน ประมาณ 4 ทุ่มเราถึงได้ขึ้นไป เรื่องที่มีการจั่วหัวข่าวว่าเปิดห้องปาร์ตี้ต่อ ยืนยันไม่ใช่ปาร์ตี้ แต่ยอมรับว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์ต่อในห้อง ซึ่งไม่ได้สั่งจากโรงแรม แต่มาจากเพื่อนๆ ที่นำมาให้เป็นของขวัญ"
          "ส่วนนี้มะตูมทำผิดจริง ขอยอมรับผิดเพียงคนเดียวในกรณีดื่มเหล้าในห้อง รวมถึงมีการเปิดมินิบาร์เพิ่มด้วย ส่วนตัวพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพราะถ้าเกิดมะตูมไม่ทำให้การดื่มเหล้ามันเกิดขึ้น ก็คงไม่มีการแพร่ระบาด มะตูมจึงอยากขอโทษอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ"
          จากนั้นดีเจมะตูมพูดถึงกรณี "ข้าวโอ๊ต" คริษฐ์ พรรณธรรม นักร้องวงแอคซิส ที่ระบุว่าติดโควิดจากงานวันเกิดดีเจมะตูมนั้นว่า ตนขอโทษที่บอกว่าไม่มีดารานักร้องมา เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่าข้าวโอ๊ตเป็นนักร้อง รู้จักกันเพราะเขาเป็นแฟนของน้องที่ตนสนิทมากๆ และเพิ่งมารู้พร้อมทุกคนตอนมีข่าวว่าเขาเป็นนักร้อง ต้องขอโทษข้าวโอ๊ตด้วยที่ติดโควิดจากคลัสเตอร์ในงานวันเกิดของตน
          โต้ใช้สารเสพติด-จบศิลปากร
          ส่วนที่มีการเผยแพร่ภาพปาร์ตี้วันเกิดซึ่งในภาพมีคนมาร่วมงานเป็นร้อยนั้น ดีเจชื่อดังแจงว่า เป็นภาพเก่าเมื่อปีที่แล้ว อยากให้คนหยุดแชร์ เพราะทำให้เกิดความเสียหายกับคนในภาพ รวมถึงเรื่องที่โจมตีว่าตนติดโควิดมาตั้งแต่เดือนพ.ย.63 ก็ไม่เป็นความจริง ไม่เช่นนั้นปอดคงไม่เหลือแล้ว เช่นเดียวกับข่าวลือที่ว่ามีการใช้สารเสพติด เรียกนายแบบผู้ชายมาเอ็นเตอร์เทน และบ้านปาร์ตี้ย่านรังสิต ล้วนแต่ไม่ใช่ความจริงเช่นกัน
          สำหรับเรื่องวุฒิการศึกษาที่เป็นดราม่า ดีเจคนดังยืนยันว่าไม่เคยพูดกับใครว่าตนเองจบมาจากคณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร เพราะไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยไหนในประเทศไทย พร้อมชี้แจงว่าตนจบจากประเทศเยอรมนี ไม่ได้จบปริญญาตรี แต่จบวุฒิที่สามารถต่อสายอาชีพได้ ทว่าได้ออกมาทำงานก่อน เพราะตอนนั้นอยากได้เงินมากกว่าใบปริญญา
          ยอมรับไร้จิตสำนึก
          นอกจากนี้ ดีเจมะตูมยังพูดถึงเรื่องที่มีคนออกมาต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง ถึงความไม่รับผิดชอบต่อสังคม โดยยอมรับว่าป็นสิ่งที่ตนเองสมควรได้รับเพราะทุกอย่างเกิดจากความเห็นแก่ตัวว่า ตนจะใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ เพราะตนรู้ รวมถึงจะบอกว่าหละหลวมก็ไม่ใช่ เพราะตนตั้งใจ อยู่ในห้องก็ไม่ได้ใส่แมสก์ ฉะนั้นไม่ได้หละหลวม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือตนไร้จิตสำนึกและไร้ความผิดชอบต่อส่วนรวม
          "วันนี้ได้คำตักเตือนและด่าทอมากมายซึ่งมันแฟร์ มะตูมทำผิดสมควรได้รับโทษ ถ้าจะมีบทลงโทษอะไรทางกฎหมายตามมาหลังจากนี้ เมื่อรักษาตัวหายดีแล้วก็พร้อมไปรับฟังข้อกล่าวหาและรับโทษทั้งหมด ผิดก็ว่าไปตามผิด วิ่งหนีความจริงไม่ได้ เพราะมะตูมเป็นคนทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น อยากขอโทษทุกคนที่ทำให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเฉพาะกับประชาชนทุกคนที่ปฏิบัติตัวตามมาตรการรัฐอย่างดี แต่โควิดก็ยังไม่หมดเพราะมีคนอย่างมะตูมที่เห็นแก่ตัว การติดโควิดไม่ได้ผิด แต่การเอาตัวเองไปอยู่ที่เสี่ยงเพื่อความสุขส่วนตัว อันนี้คือผิด สุดท้ายอยากขอบคุณกำลังใจที่อาจจะไม่เยอะมาก แต่มันมีความหมายกับมะตูมมากครับ" ดีเจชื่อดังทิ้งท้าย
          ตร.เร่งสอบคดี'ดีเจมะตูม'
          เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเอาผิดดีเจมะตูมจัดงานเลี้ยงวันเกิดทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า คดีนี้ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ต้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 รายงานให้ทราบว่าได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำนักงานอนามัย เป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคแล้วจำนวน 3 ปาก และได้ทำหนังสือเชิญผอ.สำนักงานอนามัยมาให้ความเห็นเพิ่มเติม รวมทั้งต้องสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อทั้งหมด โดยต้องรอให้พ้นระยะเวลากักตัวก่อน ขณะนี้ชุดสืบสวนบก.น.5 รวบรวมหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว
          'มติชน'ถกไลฟ์สตรีม'วัคซีน'
          วันเดียวกัน เวลา 10.45 น. ที่อาคารสำนักงานบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) บริษัทเครือ มติชน จัดงานเสวนา "พลิกสูตรวัคซีนสู้โควิด พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย" ในรูปแบบ ไลฟ์ สตรีมมิ่ง ผ่านทางเฟซบุ๊กในเครือมติชน โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข (สธ.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมเสวนา
          นายอนุทินกล่าวปาฐกถาว่า ขอให้ยกเรื่องการเมืองออกจากวัคซีน เอามาเกี่ยวข้องกันไม่ได้ เพราะการเมืองเป็นเรื่องของการบริหารประเทศ แต่วัคซีนเป็นเรื่องของชีวิตประชาชน หลายคนเข้าใจว่ารัฐบาลจะเอาวัคซีนมาเล่นทางการเมือง ยืนยันว่าไม่มีใครในรัฐบาลเอาชีวิตของประชาชนมาเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางการเมือง หรือให้ตัวเองมีชื่อเสียงหรือรับตำแหน่ง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี จนถึงข้าราชการทุกคนบอกว่า วัคซีนคือสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยกลับมาสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยปราศจากความมุ่งหวังใดๆ
          นายอนุทินกล่าวต่อว่า โรคโควิด-19 ถือเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในยุคนี้ แม้มีเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยยังโดนคุกคามรุนแรง แต่เราพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่
          "ผมเคยใช้คำว่าโควิดกระจอก ทุกคนด่าผม แต่ถ้าเราเข้าใจและอยู่กับมันได้ก็กระจอกจริง ผมไม่ถอนคำพูด แต่มีบางคนไปตัดให้เหลือแค่คำว่ากระจอก ผมอยากให้ไปดูคำเต็มๆ มีคำพูดต่อจากนั้น ถ้าเราทำอย่างนั้นจะรักษาประเทศนี้พ้นภัยโควิดได้แน่นอน" นายอนุทินกล่าว
          ดีเดย์ฉีดวัคซีนมิ.ย.นี้
          นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีน โควิดในคนไทย ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีหน้าที่จัดหา นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่าต้องฟรีสำหรับคนไทย ในฐานะที่ทุกท่านเป็นคนไทย เสียภาษีให้ประเทศ ขอให้ร่วมกันอดทนให้ความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมโรคอย่างดี ประเทศไทยไม่ได้ล่าช้าเรื่องการจัดหาวัคซีน อย่าเอาประเทศไทยเปรียบเทียบประเทศอื่น ที่เขามีการฉีดเยอะเพราะมีการระบาดเยอะ ติดเชื้อหลายแสนคน จนต้องยอมให้เอาวัคซีนไปช่วยเหมือนการทดลอง ประเทศไทยเรายังอยู่ห่างจากจุดนั้น สถานะของไทย ควบคุมได้ มีแพทย์ มียา มีความรู้รักษาโควิด ติดเชื้อระดับหนึ่งเท่านั้น แม้มีการระบาดรอบใหม่ แต่ไม่ใช่ความล้มเหลวของระบบสาธารณสุข จะให้คนไทยไปเสี่ยงเป็นหนูทดลองไม่ได้เด็ดขาด
          นายอนุทินกล่าวด้วยว่า แผนของการฉีดวัคซีนให้คนไทยคือ เดือนมิ.ย.จากบริษัท แอสตราเซเนกา จำนวน 26 ล้านโดสที่ผลิตโดยการถ่ายทอดเทคโนโลยผีผ่านสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นฐานการผลิตของอาเซียน คนที่บอกว่าบริษัทเอื้อให้สถาบัน พูดเพราะไม่มีความรู้ แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้วางรากฐานไว้ ทำให้เราสามารถผลิตวัคซีนได้
          นายอนุทินกล่าวว่า จากที่เราได้ตกลงกับ แอสตราเซเนกาล็อตที่จะมาก่อน 5 หมื่นโดส จากประเทศในกลุ่มยุโรป แต่ขณะนี้อียูจำกัดการส่งวัคซีนออกนอกเขต ซึ่งประเทศไทยก็โดนด้วย ทำให้ สธ.ต้องคิดแล้วคิดอีก ฉะนั้นตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป ที่จะผลิตในประเทศไทย 26 ล้านโดส วัคซีนที่จะให้กับคนไทยก็จะไม่ให้ไปไหน เราได้เตรียมแผนไว้แล้วว่า จะต้องเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับคนไทย เดือนละ 5 ล้านโดส ฉะนั้นจึงไม่ได้ช้าเกินไป
          ตั้งเป้าฉีดวัคซีนคนไทยทุกคน
          ด้าน นพ.นครกล่าวว่า การจองวัคซีนเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ยากพอสมควร แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล บอกว่า เราจะจัดหาวัคซีนได้จนเพียงพอให้กับประชาชนคนไทยทุกคน เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมา เป็นช่วงบริหารท่ามกลางความเสี่ยง มีความไม่แน่นอนสูงอย่างมาก จนเราจองวัคซีนได้แล้ว และเป้าหมายต่อไปจะฉีดให้กับคนไทยทุกคน
          เมื่อถามในรายละเอียดที่ประชาชนให้ความสนใจ หากมีวัคซีนเข้ามาล็อตแรก กลุ่มไหนจะได้รับก่อน แผนที่ทางสถาบันวัคซีน พร้อมที่จะเข้าไปทำงาน และตอบโจทย์การฉีดวัคซีนในแต่ละระยะ มีอะไรในรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นบ้างหรือไม่?
          นพ.นครกล่าวว่า ความจริงแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา ที่มี นพ.โสภณ เมฆธน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 โดยจะวางแผนการกระจายวัคซีน รวมถึงยุทธศาสตร์ในการจัดสรรวัคซีน ส่วนสถาบันวัคซีนแห่งชาติมีหน้าที่จัดหาอย่างเดียว กรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยงานทำหน้าที่กระจายตามยุทธศาสตร์ และเรามีคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ที่มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศหลายท่านเข้ามาให้ข้อแนะนำทางด้านวิชาการ นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่ดูแลในเรื่องวิชาการด้วย
          ฉีดเดือนละ 5 ล้านโดส
          "คาดการณ์ว่า ปลายปีนี้กำลังการผลิตจะสูงมากประมาณ 18,000 ล้านโดส/ ปี แต่จำนวนวัคซีนอาจจะมีอยู่ครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 9,000 ล้านโดส แต่จะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปชันเรื่อยๆ ตอนต้นๆ ช้า เพราะ ณ เวลานี้มีเพียงบริษัทเดียวที่เตรียมแผนการกระจายวัคซีน มีซัพพลายไซด์เยอะ คือบริษัทแอสตราเซเนกา จึงเก็บไว้ก่อน ส่วนบริษัทอื่นๆ ค่อยมาขยายทีหลัง ตอนนี้ทุกบริษัทขยายกำลังการผลิตทั้งสิ้น วัคซีนจะทยอยมาในครึ่งปีหลัง จำนวนจะเพียงพอ ในช่วงที่มีจำกัดเราอาจจะต้องเลือกพื้นที่ เลือกกลุ่มประชากร ในพื้นที่ที่สำคัญ ต้องดูทั้งกลุ่มและพื้นที่ เมื่อวัคซีนเข้ามาก็ต้องมาดูสถานการณ์ เราพูดถึง 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด แต่ก็ไม่แน่นอน ถ้าพื้นที่ไหนควบคุมได้แล้วก็จะไม่ใช่พื้นที่ควบคุมสูงสุดอีกต่อไป แต่อาจจะไปเจออีกที"
          นพ.นครกล่าวอีกว่า การบริหารวัคซีนในภาวะที่มีจำกัดต้องใช้วิธีการดูตามสถานการณ์ด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในจำนวนวัคซีนที่มี หลังจากนั้นเมื่อมีมากขึ้น ก็กระจายออกไป เชื่อว่าถ้าเราเริ่มได้สัก 1-2 เดือน เราแทบจะไม่ต้องจำกัดกลุ่มประชากร ใครมีความประสงค์ก็ไปลงทะเบียนรับวัคซีนได้ เช่นบุคลากรทางสาธารณสุข ด่านหน้า รวมบุคลากรทางการแพทย์ทั้งรัฐ และเอกชน 700,000 คน พี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) 1.5 ล้านคน รวม 2.2 ล้านคน ฉีดเดือนเดียวก็เสร็จ ทุกคนรับไปก่อน 1 โดส อีก 3 เดือนมารับอีก 1 โดส เราคาดหมายว่าจะทำประมาณ 5 ล้านโดส/เดือน และกำลังวางแผนให้ทำได้มากกว่า 5 ล้านโดสนี้ เพื่อกระจายให้ได้มากที่สุด
          ขอวัคซีนล่วงหน้า 1.5 แสนโดส
          ด้านนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ตามแผนการผลิตวัคซีนโควิด 19 ในไทยของแอสตราเซเนกาที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับสยามไบโอไซเอนซ์ 26 ล้านโดส ในเดือนมิ.ย. 2564 จะสามารถเร่งกระจายวัคซีนไป 5 ล้านโดสต่อเดือน นอกจากนี้ยังพยายามหาวัคซีนจากแหล่งอื่นเพิ่มเติมด้วยอีกประมาณ 2-3 ล้านโดส ทั้งนี้ ด้วยความพยายามจัดหาวัคซีนให้ได้เร็วขึ้น เพื่อนำมาซักซ้อมในการฉีดให้กับคนไทย จึงเจรจากับแอสตราฯ เพื่อขอวัคซีนล็อต ล่วงหน้าจำนวน 150,000 โดส ซึ่งตามแผน แอสตราฯจะส่งวัคซีนที่ผลิตจากประเทศฝั่งยุโรป 50,000 โดสเข้ามาในไทยช่วงต้นเดือนก.พ.นี้
          "เนื่องด้วยติดปัญหาที่อียูจำกัดการขนส่งวัคซีนในฝั่งยุโรป จึงเป็นปัญหาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม อยากให้ทันตามกรอบเดิมคือก.พ. เราก็พยายามเจรจากับบริษัทผู้ผลิต เพื่อขอให้จัดส่งวัคซีนมาให้กับเราก่อน ซึ่ง แอสตราฯ ก็บริหารจัดการซัพพลายเชนอื่นๆ ที่อยู่นอกยุโรป เพื่อหาวัคซีนส่งให้กับเรา แต่เป็นวัคซีนตัวเดียวกัน สูตรเดียวกันของแอสตราฯ ตอนนี้คาดว่าจะเป็นวัคซีนจากประเทศในเอเชีย บางเรื่องเราพูดเยอะไม่ได้ เช่นของยุโรปที่โดนอียูจำกัดการขนส่ง" นายอนุทินกล่าว
          นายอนุทินกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยวางแผนการฉีดวัคซีนแพร่หลายใน มิ.ย. โดยเป็นวัคซีนจากแอสตราเซนากา ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ รวมกว่า 61 ล้านโดสครอบคลุม 50% ของประชากร แต่ที่เราต้องหาวัคซีนจากแหล่งอื่นก็เพื่อมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
          ชวด'เราชนะ'ปีนเสาโทรศัพท์
          เมื่อเวลา 11.00 น. ตำรวจสภ.เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุคนปีนขึ้นไปอยู่บนยอดเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณบ้านห้วยสำโรง หมู่ที่ 11 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม พร้อมรถกระเช้าของเทศบาลตำบลเขาหินซ้อนเข้าช่วยเหลือ
          ที่เกิดเหตุเป็นเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์สูง 50 เมตร อยู่กลางไร่มันสำปะหลัง พบชายวัยกลางคนพยายามปีนขึ้นไปอยู่บนเสาส่งสัญญาณ อย่างต่อเนื่อง ทราบชื่อนายทองวัน แสงแก้ว อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ลงมาด้านล่าง แต่ไม่มีทีท่าจะยอมลงมา กลับปีนเสาส่งสัญญาณขึ้นไปเรื่อยๆ จึงไปตามตัวลูกชายพร้อมภรรยามาช่วยเกลี้ยกล่อม ต่อมา เจ้าหน้าที่นำรถกระเช้าของเทศบาลมาคอยสแตนด์บายไว้ หลังจากใช้เวลาเกลี้ยกล่อม 1 ชั่วโมง นายทองวันจึงยอมลงมาขึ้นรถกระเช้า เจ้าหน้าที่นำตัวลงมาด้านล่างได้อย่างปลอดภัย
          พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ผกก.สภ. เขาหินซ้อน เข้าพูดคุยสอบถาม ทราบว่านายทองวันเป็นคนสุรินทร์ แต่ย้ายครอบครัวมาทำงาน ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ก่อนก่อเหตุดื่มเหล้าแล้วเกิดความน้อยใจกับโครงการของรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนในโครงการ"เราชนะ"ว่าตนเองไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากไม่มีสมาร์ตโฟน มีเพียงโทรศัพท์ปุ่มกดจึงไม่สามารถลงทะเบียนได้ จึงก่อเหตุปีนเสาส่งสัญญาณเพื่อเรียกร้องไปถึงรัฐบาลเพื่อหาทางเยียวยาช่วยคนจนอย่างทั่วถึง
          ขณะที่พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์มอบเงินให้นายทองวัน 1,000 บาท ก่อนจะส่งตัวบ้านพัก


pageview  1210905    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved