|
|
|
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 08/06/2564 ] |
|
|
|
|
กรมวิทย์ฯ เผยห้องปฏิบัติการไทยพร้อมตรวจ ภาวะหลอดเลือดอุดตันภายหลังการฉีดวัคซีน |
|
|
|
|
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากที่มีข่าวการเกิดหลอดเลือดอุดตัน (ภาวะ VITT) หลังการได้รับวัคซีนโควิด-19 ในต่างประเทศเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ อาจทำให้ประชาชนรู้สึกวิตกกังวลไม่กล้าฉีดวัคซีนนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ขอให้ข้อมูลในเรื่องนี้ว่า ภาวะ VITT หรือที่มีชื่อเต็มๆ ว่า Vaccine-induced immune thrombotic thrombocytopenia เป็นภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่มีอาการหลอดเลือด อุดตันร่วมด้วย เกิดภายหลังได้รับวัคซีน โดยเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ชนิด Viral vector vaccine เช่น AstraZeneca และ Johnson & Johnson/Janssen แม้จะเป็นภาวะที่อาจเกิดอาการรุนแรง แต่อุบัติการณ์ การเกิดภาวะไม่พึงประสงค์จากวัคซีนดังกล่าว คาดการณ์ว่าน่าจะต่ำมาก คือ อยู่ระหว่าง 1:125,000-1:1,000,000 โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอายุต่ำกว่า 60 ปี และส่วนมากเป็นเพศหญิง ผู้ป่วยจะแสดงอาการหลังได้รับวัคซีนประมาณ 4 - 30 วัน โดยจะมีอาการ บ่งชี้ว่าอาจมีหลอดเลือดอุดตัน เช่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้อง ไม่ทราบสาเหตุหรือปวดหลังรุนแรง ขาบวม เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก เป็นต้น โดยจะพบร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้ได้รับ วัคซีนคนใดมีอาการบ่งชี้ว่า อาจมีหลอดเลือดอุดตัน หลังได้รับวัคซีนภายใน 30 วัน ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที และหากแพทย์ตรวจพบว่ามีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ร่วมกับค่า D-dimer ที่ผิดปกติในผู้ป่วย หลอดเลือดอุดตันจะพิจารณาให้การรักษาผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนอย่างน้อย 79 แห่ง ทั่วประเทศที่มีความพร้อมในการตรวจวินิจฉัย โดยแพทย์จะส่งตัวอย่างเลือดเพื่อยืนยันอีกครั้งด้วยวิธีที่เรียกว่า Anti PF4/heparin antibody และ Platelet activation assay ตามแนวทางของสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ทั้งหมดนี้ อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลและเชิญชวนให้ทุกคนไปรับ การฉีดวัคซีนตามที่ได้นัดหมายไว้ |
| | |
|
| |