HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 24/03/2555 ]
วิทยาแฉฉกซูโดแก๊งเภสัชเพื่อนรุ่นเดียวกัน'พสิษฐ์'ชี้บิ๊กสธ.มีเอี่ยว เหลิมยิ้มยึดยา366ล้านเร่งสกัดยาบ้า38ล.เม็ดจ่อทะลักข้ามชายแดน

รมว.สาธารณสุข แฉแก๊งเภสัชฯเอี่ยวซูโดฯหาย ล้วนเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ที่ปรึกษารมต.แฉอีก มีขรก.ระดับบิ๊กในสธ.รู้เห็น ผอ.ร.พ.ภูสิงห์ โร่แจ้งตร. ยาแก้หวัดหายอีก 2 แสนเม็ด ผู้ว่าฯศรีสะเกษ เตรียมตั้งกก.สอบ 'เหลิม'ควง'บิ๊กอ๊อบ' แถลงขยายผลยึดยาบ้าล้านเม็ด ไอซ์อีก 20 ก.ก. ที่ปทุมฯ มูลค่ากว่า 366 ล้านบาท ขออนุมัติหมายจับ ล่า 4 ผู้ต้องหาหลบหนี เชียงรายจับอีก ยาบ้า 3.5 แสนเม็ด เผยมีอีก 38 ล้านเม็ดจ่อชายแดน ฝีมือชนกลุ่มน้อยหาเงินซื้ออาวุธ บช.ปส.ส่งแก๊งร.ต.ท.ฝากขังแล้ว
          ฝากขัง 4 ตร.แก๊งร.ต.ท.
          จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบช.น.ร่วมกับบช.ปส. เข้าจับกุมตำรวจ 4 นาย นำทีมโดยนายตำรวจยศร.ต.ท. ที่จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดและยึดของกลางยาบ้า 3 แสนเม็ด ไอซ์อีก 5 กิโลกรัม โดยไม่นำส่งดำเนินคดี ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา11.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พงส.บช.ปส.ควบคุมตัวร.ต.ท.เชิงชอบ ราชคม รอง สว.สส.กก. สส.บก.น.3 ด.ต.สมศักดิ์ ทิพย์รัศมีวงศ์ ผบ.หมู่งานป.สน.ประชาสำราญ จ.ส.ต.ภัทระ วรชาณันช์ ผบ.หมู่สน.จรเข้น้อย ส.ต.ท.นพดล พันธุ์อารีย์ ผบ.หมู่กก.สส.บก.น.3 และนายชวลิต กำเนิดขอนแก่นผู้ต้องหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอผลสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหาท้ายคำร้อง นอกจากนี้ยังขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เกรงจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
          คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า ผู้ต้องหา1-4 เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของบก.น.3 และผู้ต้องหาที่ 5 ซึ่งเป็นสายล่อซื้อยาเสพติด ดำเนินการมิชอบร่วมกันจับกุมผู้ค้ายาเสพติดพร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นยาบ้า305,200 เม็ด กับยาไอซ์ น้ำหนัก 5 กิโลกรัมมูลค่ากว่า 45 ล้านบาท แต่กลับไม่นำยาเสพติดของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยนำไปซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ส่วนตัวและไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเมื่อวันที่21 มี.ค. ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบช.น. และบช.ปส.ติดตามจับกุม ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบก.น.3 เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลพิจารณาแล้วสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
          เผยพิรุธเภสัช'ซูโด'รุ่นเดียวกัน
          ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา บุรณศิริรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนผู้กระทำผิดในการเบิกจ่ายยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนว่า จากการตรวจสอบพบว่าเภสัชกรที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ละแห่งเป็นเพื่อนในรุ่นเดียวกัน อาจมีมูลเหตุว่าเภสัชกรเหล่านี้รู้จักกันและทำร่วมกัน แต่ไม่ว่าอย่างไร หากพบว่าใครร่วมกระทำผิดก็ไม่มีทางหลุดรอดไปได้
          น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. กล่าวว่า ในส่วนโรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ สธ.มีคำสั่งให้ผู้ถูกสอบสวนเข้ามาทำงานส่วนกลาง เพื่อง่ายต่อการสอบวินัย และล่าสุดในวันที่ 22 มี.ค. ได้มีคำสั่งให้เภสัชกรที่ ร.พ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เข้ามาช่วยราชการที่ส่วนกลางเช่นกัน ขณะที่ร.พ.ฮอดจ.เชียงใหม่ คาดว่าจะรับรายงานการสอบสวนจากทางจังหวัดในวันที่ 23 มี.ค.นี้
          น.พ.ไพจิตร์กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลเข้าข่ายที่ต้องตรวจสอบประมาณ 10 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีการเบิกจ่ายสูงกว่าแสนเม็ด แต่ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าทั้งหมดผิดจริง ต้องขอเวลาตรวจสอบเนื่องจากบางแห่งอาจกรอกข้อมูลผิดหรือกรอกข้อมูลไม่ตรงกันระหว่างบริษัทและโรงพยาบาลเนื่องจากโรงพยาบาลแจ้งสต๊อกยาไว้3 เดือนแต่บริษัทยาแจ้งสต๊อกยาเป็นรายปี เหมือนในร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร.พ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี และ ร.พ.กำแพงเพชร ดังนั้น ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 10 แห่งให้แน่ชัดก่อน คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์
          สั่งคุมเข้มยาร.พ.ชุมชน
          น.พ.ไพจิตร์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นซึ่งพบในร.พ.ชุมชนมากกว่า เนื่องจากในร.พ.ศูนย์ และร.พ.ทั่วไป (รพศ.รพท.) จะมีคณะกรรมการบริหารงานและเวชภัณฑ์ ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้ยาให้สมเหตุสมผล และทำรายงานการใช้ยาทุกเดือน ขณะที่ร.พ.ชุมชนโดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง มีเภสัชกรเพียง 1 คน ดูแลสต๊อกยา และสั่งเบิกยา จึงไม่มีการตรวจสอบ อาจจะเป็นช่องโหว่ในการทำความผิดได้ โดยในวันที่ 23 มี.ค. ตนจะประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ โดยจะขอให้สร้างความเข้มแข็งในการดูแลระบบยาของโรงพยาบาลชุมชนใหม่ และจะต้องมีอย่างน้อย 2 คน ในการคุมสต๊อกยาและสั่งจ่ายยา และต้องรายงานการใช้ยาทุกเดือน
          ยึดยาบ้ากว่า 366 ล.บาท
          เมื่อเวลา10.00 น. ที่บช.น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติด โดยกก.สส.บก.น.5 จับกุมนายปฐมทัศน์ จิระรัตนวงศ์ อายุ 40 ปี และขยายผลตรวจค้นบ้านทาวน์เฮาส์คู่ เลขที่ 29/409-140 หมู่บ้านศุภาลักษณ์ หมู่ที่ 14 ต.ลำลูกกาอ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากการตรวจค้นพบยาบ้า510 มัด รวม 1,020,000 เม็ด ยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีขาว หนัก 20 ก.ก. มูลค่ารวม366,000,000 บาท ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า โดยคนในบ้านดังกล่าวหลบหนีไปก่อนเข้าตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าขบวนการนี้ ประกอบด้วย นายศุภวัฒน์ หรือบังเซฟ ขอนทองอายุ 40 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง นายนพดล  ศรีฤทธิ์ อายุ 29 ปี ทำหน้าที่ควบคุมสั่งการ และติดต่อลูกค้า นายนารายณ์ ยุ้งศิริ อายุ 34 ปี ทำหน้าที่ฟอกเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดนายสุวิทย์ แหยมพรรนัย อายุ 41 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ขนส่งและลำเลียงยาเสพติดไปยังลูกค้า จะขอศาลออกหมายจับต่อไป
          นอกจากนี้ ยังตามไปยึดทรัพย์สินของนายศุภวัฒน์ ที่เต็นท์รถหทัยราษฎร์ 2010 คาร์แคร์ และเต็นท์รถ 5ดี ที่สี่แยกมีนบุรี ตามกฎหมายฟอกเงิน ประกอบด้วยรถยนต์ 14 คัน และทรัพย์สินโฉนดที่ดิน เอกสารที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหลายรายการ รวมทั้งอาวุธปืนลูกซองยาวอีก 2 กระบอก พร้อมกระสุน 25 นัด สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 20 เล่ม พร้อมบัตรเอทีเอ็ม 16 ใบ
          จากการสอบสวนผู้ต้องหา นายปฐมทัศน์ ที่ทำหน้าที่เดินของ ระบุว่า ได้ขนยาเสพติดจำนวนเท่าๆ กับที่ตำรวจยึดได้คราวนี้ไปส่งลูกค้ามาแล้ว1 รอบ โดยทำหน้าที่เป็นเพียงคนดูต้นทางขณะขนส่งและลำเลียงยาเสพติด ได้ค่าจ้างครั้งละ 4-5 หมื่นบาท
          ที่บช.ภ.1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างรรท.ผบช.ภ 1 ร่วมกับนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข แถลงจับกุม นายประเสริฐ ตรีศรีสุภา หรือ เฮียเซ็ง อายุ 59 ปีและน.ส.ฐิติภา สุวินัย หรือเจ๊นาง อายุ 42 ปีตามหมายจับศาลจ.พะเยา พร้อมตรวจสอบและยึดทรัพย์สิน เป็นรถยนต์ โตโยต้า แวน 1 คันสมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 8 บัญชี จำนวนเงิน3,418,165 บาท เงินสด 97,000 บาท โดยทั้งคู่มีพฤติการณ์ออกตระเวนซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนั้นนำส่งสภ.แม่ใจ จ.พะเยา ท้องที่รับผิดชอบดำเนินคดีต่อไป
          แฉบิ๊กขรก.สธ.มีเอี่ยว
          นายพสิษฐ์กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่เน้นเรื่องสารตั้งต้นยาเสพติดที่มีเครือข่ายลักลอบสั่งยาแก้หวัดที่มีสารประกอบของซูโดอีเฟดรีน ส่งไปยังชายแดนภาคเหนือเพื่อแปรรูปยาเสพติดและน่าตกใจที่การลงพื้นที่ตรวจโรงพยาบาลภูสิงห์จ.ศรีสะเกษ พบว่ามียาแก้หวัดหายไปกว่า 2.5 แสนเม็ด และมีบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งกำลังจะขยายผลต่อไป
          ที่สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียรพินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมพ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย ประชุมสรุปสำนวนกรณียาที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน หายไปจากคลังยาโรงพยาบาลกมลาไสยถึง 356,535 เม็ด ซึ่งล่าสุดนางสุภคนิจ ศรีพนาอายุ 58 ปี อดีตเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกมลาไสยผู้ต้องสงสัย ซึ่งถูกนางสดชื่นวิโทจิตร เภสัชกรโรงพยาบาล ซัดทอด ว่าเป็นผู้รับซื้อยา ยังไม่ได้เดินทางให้ปากคำตามที่นัดไว้ โดยอ้างว่ามีปัญหาด้านสุขภาพที่ยังรักษาตัวอยู่ที่กทม. พร้อมกับนัดเข้าให้ปากคำอีกครั้งในวันที่ 29 มี.ค.
          ร.พ.ภูสิงห์ก็หาย 2 แสนเม็ด
          ที่ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ น.พ.กิตติภูมิ จุฑาสมิท ผอ.โรงพยาบาลภูสิงห์ เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลังรับรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของโรงพยาบาล ว่ายาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารเสพติด หายไปประมาณ 2 แสนเม็ด  ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นมีผู้ต้องสงสัย 1 คน เป็นเภสัชกรประจำโรงพยาบาล ซึ่งไม่ได้มาทำงาน 2 วัน และติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะทำงานเพียงแค่คนเดียว
          นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า เพิ่งรับรายงานจาก สสจ.ศรีสะเกษว่า มียาแก้หวัดหายไปจากโรงพยาบาลภูสิงห์ จึงรอร่างคำสั่งและจะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัยตามระเบียบราชการต่อไป แต่ยังไม่มีการย้ายผอ.โรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมง ตามที่มีข่าวลือ
          ที่จ.เชียงใหม่ นายสาธิต กิมศิริ ผอ.ร.พ.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ เชียงใหม่ เข้าแจ้งความกับพงส.สภ.ดอยหล่อ ให้ดำเนินคดีกับนายพิรุณหรือไวยวิทย์ ศิริตัน เภสัชกรโรงพยาบาลดอยหล่อ ในข้อหาแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลเพื่อจัดซื้อยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน กว่า 9 หมื่นเม็ด
          ด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภาค5 เผยว่า เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบและขอข้อมูลที่ ร.พ.ดอยหล่อ สำหรับในส่วนของตำรวจภาค 5 เข้าตรวจสอบเรื่องกรณีทุจริตเรื่องยาจำนวน 2 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลสันกำแพง และ โรงพยาบาลดอยหล่อ ซึ่งดีเอสไอระบุว่าจะนำทั้ง 2 กรณีเข้าเป็นคดีพิเศษต่อไป
          ท.พ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองสสจ. เชียงใหม่กล่าวว่า สสจ.เชียงใหม่กำลังจะมีคำสั่งย้ายเภสัชกรโรงพยาบาลดอยหล่อออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบกับการสืบสวนสอบสวน ส่วนเภสัชกร โรงพยาบาลฮอด ได้มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สสจ.ก่อน หากพบว่ามีมูลความผิดจะมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่กระทรวงสาธารณสุข
          เชียงรายจับอีก 3.5 แสนเม็ด
          ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าฯ เชียงราย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี ผู้บังคับการ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่3 (ผบ.ฉก.ม.3) กองกำลังผาเมือง พ.ต.อ.บุญวาศน์ มังคราช ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวงแถลงจับกุมนายบุญศรี อุดทังไข อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 59 ม.9 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 3.5 แสนเม็ด ยาไอซ์ 5 กิโลกรัม ธนบัตรปลอมชนิด1 พันบาท จำนวน 2 แสนบาท
          โดยการจับกุมเกิดจาก ฉก.ม.3 สืบทราบการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากจากชายแดนด้านหมู่บ้านป่าซางนางเงิน ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จึงประสานตำรวจนำกำลังตั้งจุดสกัดร่วม บนถนนสายบ้านสามัคคีเก่า-สามัคคีใหม่ต.แม่ฟ้าหลวง ต่อมาพบนายบุญศรีขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน กค 4765 พะเยา ลงมาจากภูเขา จึงให้สัญญาณหยุดตรวจ แต่นายบุญศรีขับรถแหกด่าน จึงนำรถออกไล่ติดตามและยิงยางรถยนต์จนเสียหลัก และจับกุมนายบุญศรีตรวจสอบในรถพบกระสอบ 2 ใบ ภายในมียาบ้าและยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ สอบสวนสารภาพว่ารับจ้างขนยาบ้า 3 แสนบาท ให้ไปส่งที่จ.พิษณุโลก โดยรับตอนแรก 2 แสนบาท และเมื่อส่งถึงที่หมายจะได้รับเงินอีก1 แสนบาท แต่เงินทั้งหมดกลับเป็นธนบัตรปลอม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
          เผยจ่อชายแดนอีก 38 ล้านเม็ด
          พ.อ.ถนัดพลกล่าวว่า จากการข่าวทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดผลิตยาบ้ามาจ่อที่ชายแดนด้านดอยสามเส้า ใกล้เมืองยอน ตรงกันข้ามเชียงใหม่ และเชียงราย ประมาณ 38 ล้านเม็ดทำให้ที่ผ่านมาจับกุมตรวจยึดได้จำนวนมาก โดยล็อตใหญ่ๆ เคยถูกตรวจยึดที่ อ.แม่จัน เมื่อเร็วๆนี้กว่า 3.7 ล้านเม็ด ซึ่งถือเป็นแค่ส่วนหนึ่งและเจ้าหน้าที่ทหารบูรณาการกับฝ่ายต่างๆ เพื่อสกัดกั้นต่อไป เพราะชนกลุ่มน้อยยังคงมีความพยายามลักลอบนำเข้า เพื่อนำเงินไปซื้ออาวุธป้องกันเขตปกครองของตน
          บรรยายใต้ภาพ
          รายใหญ่-ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงรองนายกฯและพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ผบ.ตร. ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งเครือข่ายยาเสพติดของนายศุภวัฒน์ ขอนทอง ยึดของกลางจากปทุมธานีได้มูลค่า 366 ล้านบาทเมื่อ22 มี.ค.


pageview  1210899    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved