HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 07/06/2555 ]
แพทย์เตือนงานไม่รุ่งหากปล่อยโรคคุกคาม

ไข้หวัดและภูมิแพ้เป็นสิ่งที่โรคเราคุ้นเคยกันถ้วนหน้า และมักคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทราบหรือไม่ว่าในยุคนี้ทั้ง 2 โรคเป็นตัวถ่วงความก้าวหน้าอย่างมาก แถมยังกระตุ้นโรคประจำตัวต่างๆ ให้รุนแรงขึ้นได้
          ในงานเสวนาเรื่อง “หยุดไข้หวัด ภูมิแพ้ ตัวถ่วงความเจริญ” ซึ่งจัดโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ดีคอลเจน จำกัด และโรงพยาบาลพญาไท 2 นพ.อธิก แสงอาสภวิริยะ อายุรแพทย์โรคภูมิแพ้ของโรงพยาบาล พร้อมพิธีกรคุณแม่ยังสาวที่มีดีกรีเภสัชกรด้วย “โน้ต" ณัฐกานต์ ประสพสายพรกุล ร่วมกันให้ความรู้
          โดย นพ.อธิก บอกว่า ทุกวันนี้ไข้หวัดและภาวะโรคภูมิแพ้ทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดนก ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเกิดสาเหตุหลายประการ ทั้งจากการที่มีเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคอย่างเร็วและกว้างขวางขึ้น ตลอดจนการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุลของคนสมัยใหม่ เช่น พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย เครียด สูบบุหรี่จัด รับประทานอาหารไม่ถูกสุขอนามัยและหลักโภชนาการ ทำให้เป็นโรคอ้วน ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง และทำให้ป่วยบ่อยมากขึ้น
          “เมื่อร่างกายอ่อนแอลง ทำให้ติดไข้หวัดหรือเกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่าย ส่งผลต่อการงานอย่างมาก เช่น ถ้าวันนั้นจะต้องไปสัมภาษณ์งาน หรือต้องพรีเซนต์งานใหญ่กับลูกค้า แต่เกิดเป็นโรคหวัด ไอจาม หรือเกิดภาวะภูมิแพ้ น้ำมูกไหล หน้าตาบวม ผลก็คือเสียสมาธิ เสียบุคลิก เสียความมั่นใจ แถมเป็นที่รังเกียจ ท้ายที่สุดคืออาจการพลาดโอกาสทองของงานนั้นไปอย่างน่าเสียดาย” นพ.อธิก กล่าว
          พร้อมกล่าวต่อด้วยว่า จากประสบการณ์ของตัวเองในการดูแลรักษาคนไข้ทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน พบว่ามีผู้ป่วยถึงร้อยละ 20 ที่ปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดและภูมิแพ้อย่างเรื้อรัง จนลามไปเป็นโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่หนักยิ่งขึ้น เช่น ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม โรคหืด โรคริดสีดวงจมูก ซึ่งโรคเหล่านี้สร้างความเสียหายได้มากขึ้น เพราะบางรายถึงกับต้องขาดงานบ่อยๆ ซึ่งมีผลกระทบต่อการพิจารณาเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่ง
          “นอกจากนี้ ในระยะ 5-10 ปีที่ผ่านมา ตัวหมอเองพบว่า 30% ของผู้ป่วยวัยทำงานอายุ 35-50 ปี ที่เข้ามารักษาโรคหวัดหรือภูมิแพ้นั้น จะมีโรคประจำตัวติดตัวมาด้วยไม่โรคใดก็โรคหนึ่ง ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าวัยชรา เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต โรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่จัด ฯลฯ ทั้งนี้เป็นเพราะการใช้ชีวิตที่สมบุกสมบัน ขาดสมดุลทำให้เป็นโรคประจำตัวกันเร็วขึ้น เมื่อใดที่เกิดเป็นไข้หวัดหรือภูมิแพ้ก็จะมีผลให้โรคประจำตัวเหล่านั้นทรุดลง โดย 1 ใน 4 ของผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ถึงกับต้องหยุดงานในช่วงนั้นอย่างน้อยหนึ่งวัน และในจำนวนนั้นมีประมาณ 5-10% ที่ต้องถึงกับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่เพียงแต่เสียงานเสียการเท่านั้น ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวอีกมากด้วย แต่สำหรับในผู้สูงอายุ เคยเจอว่าอาการทรุดหนักจนเสียชีวิตก็มี” นพ.อธิก กล่าวเสริม
          ส่วนพิธีกรสาวว่าที่คุณแม่ลูกสอง “โน้ต" ณัฐกานต์ ประสพสายพรกุล ร่วมแชร์ประสบการณ์ว่า ปกติก็ดูแลตัวเองเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหวัด เพราะห่วงกลัวเสียงาน แล้วช่วงนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ต้องเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ นอนหลับให้เพียงพอ และต้องหมั่นออกกำลังกายด้วย ซึ่งส่วนตัวชอบว่ายน้ำ พอท้องก็ปรับการออกกำลังกายในน้ำสำหรับคนตั้งครรภ์ ก็ทำให้โอกาสที่จะเป็นหวัดน้อยลง แต่เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะเป็นหวัดก็จะดื่มน้ำผึ้ง รับประทานน้ำมันมะกอกสักช้อนหนึ่งก็ช่วยได้
          “อย่าลืมนะครับว่า เฮลธ์ อิส มอร์ อิมพอร์แทนท์ แดน เวลธ์ (Health is more important  than wealth) สุขภาพสำคัญกว่าความมั่งคั่ง งานจะไม่รุ่งหากคุณยังปล่อยให้ไข้หวัดและภูมิแพ้มาเป็นตัวถ่วงความก้าวหน้า เริ่มปรับตัวเสียใหม่วันนี้ ยังไม่สายครับ” นพ.อธิก กล่าวสรุปปิดท้าย
 


pageview  1210929    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved